ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานนบุคคลและนิติกร สพฐ. ชี้ข้าราชการครู ผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมฯ เดือดร้อนไม่ได้รับการบรรจุทั้งที่ขึ้นบัญชีครบ 2 ปี ไม่ใช่ความผิด สพฐ. โบ้ยอำนาจตัดสินใจอยู่ที่ ผอ.สพท.และ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ เชื่อไม่ได้ตั้งใจละเลย อ้างความล่าช้าเกิดจากกระบวนการขั้นตอน ด้าน “สเน่ห์” เผย “คุณหญิงกษมา” ตั้ง คกก.กลั่นกรองย้ายผู้บริหารฯ แล้ว รอเป็นไปตามหลักเกณฑ์การขึ้นบัญชี
นายพิษณุ ตุลสุข ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวถึงกรณีผู้สอบขึ้นบัญชีรอบรรจุเป็นข้าราชการครู และผู้ที่สอบขึ้นบัญชีรอบรรจุแต่งตั้งเป็นเป็นผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมศึกษาได้รับความเดือดร้อนหลังจากสอบขึ้นบัญชีไว้ครบ 2 ปีตามกำหนดแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งจนทำให้เสียสิทธิว่า จริงๆ แล้วคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาที่รักษาการอยู่ยังมีอำนาจตามกฎหมายเต็มทุกประการ ซึ่งการจะประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติแต่หากจะมาอ้างว่าไม่มีอำนาจนั้นไม่ถูกต้องและหากมีความล่าช้าจนทำให้ใครได้รับผลกระทบทางผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) และ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ความผิดของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ทั้งนี้ตนรู้สึกเห็นใจหลายเขตพื้นที่ที่มีความล่าช้าจากกระบวนการขั้นตอนต่างๆ โดยภาพรวมตนคิดว่าเขตพื้นที่ส่วนใหญ่คงไม่ได้ตั้งใจละเลยอะไร
“กรณีที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ยืดเวลาจนทำให้การบรรจุแต่งตั้งล่าช้า จนทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ผอ.สพท.และ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ จะต้องรับผิดชอบในการถูกฟ้องและอาจะมีความผิดทางวินัยได้ โดยผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมสามารถร้องมาได้ที่ สพฐ.หรือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือฟ้องร้องไปที่ศาลปกครองได้และต้องดูว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรจึงจะได้ดำเนินการตามนั้น” นายพิษณุ กล่าว
นายพิษณุกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีผู้ที่สอบขึ้นบัญชีในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษานั้น หากพ้นกำหนดระยะเวลาการขึ้นบัญชีไว้แล้วก็คงต้องเป็นไปตามนั้น สพฐ.คงไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลืออะไรได้ แต่หากพ้นบัญชีเพราะกรณีอื่นๆ เช่น ถูกกลั่นแกล้ง ถูกเรียกรับผลประโยชน์สามารถใช้สิทธิฟ้องร้องศาลปกครองได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนทราบว่าได้มีการลงนามคำสั่งตั้งประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมศึกษาแล้ว
ด้าน นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการ กพฐ.ได้ลงนามแต่งตั้งประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสายมัธยมศึกษาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลายพื้นที่ได้ดำเนินการบรรจุแต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษาไปแล้วโดยตำแหน่งบรรจุผู้บริหารสายมัธยมศึกษานั้นมีไม่มาก ตำแหน่งว่างส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารในโรงเรียนประถมศึกษา ทั้งนี้ ความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก สพฐ.แต่ต้องทำตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดังนั้นกรณีของผู้ที่เสียสิทธินั้น สพฐ.คงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เนื่องจากต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการขึ้นบัญชี
