xs
xsm
sm
md
lg

“พรทิวา”เปิดตัวประธานกลุ่มสินค้านัดเอกชนถกแผนดันส่งออกวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พรทิวา”นำประธานกลุ่มสินค้าเปิดตัวกับภาคเอกชนวันนี้ พร้อมหารือทำแผนผลักดันการส่งออกร่วมกัน หวังดันยอดปีหน้าโต 14%

รายงานข่าวจากกรมส่งเสริมการส่งออก แจ้งว่า วันนี้ (17 ธ.ค.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะประชุมหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อแนะนำระบบการดูแลสินค้าส่งออกและตลาดส่งออกสำคัญในรูปแบบใหม่ หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งประธานกลุ่มสินค้า (Chief of Products) ดูแลสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก กลุ่มสินค้าเอกลักษณ์ไทยกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ และกลุ่มสินค้า SMEs

ทั้งนี้ นางพรทิวาจะชี้แจงกับภาคเอกชนถึงแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ และถือโอกาสแนะนำประธานกลุ่มสินค้าเพื่อให้ภาคเอกชนได้รู้จัก และจะได้ติดต่อประสานงานการทำงานร่วมกันในการผลักดันการส่งออกต่อไปในอนาคต ซึ่งประธานกลุ่มสินค้าจะรับผิดชอบสินค้าแตกต่างกัน โดยจะทำหน้าที่ในการกำหนดยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ในการผลักดันการส่งออกรวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการส่งออกร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด

สำหรับสินค้า 10 อันดับแรก มีประธานกลุ่มสินค้าดูแลจำนวน 5 กลุ่ม คือ 1.นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ดูแลสินค้าอาหาร และข้าว 2.นางพิรมล เจริญเผ่า รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ดูแลสินค้าสิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ 3.นางมาลี โชคล้ำเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ดูแลสินค้าเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 4.นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ ดูแลสินค้าวัสดุก่อสร้าง เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก และ 5.สินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยางพารา ยังไม่ได้แต่งตั้งประธานกลุ่มสินค้า

ส่วนประธานกลุ่มสินค้าอีก 3 กลุ่ม คือ นางทัศนีย์ สุทธภักติ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ ดูแลสินค้าเอกลักษณ์ไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ ผ้าไหม กล้วยไม้ อาหารไทยและสปาไทย นางณัฎฐา รัตนเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ดูแลสินค้าใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายการส่งออก เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์เภสัช เคื่องมือแพทย์ เครื่องเขียน และธุรกิจสิ่งพิมพ์ และนางสาวกาญจนา เทพารักษ์ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ ดูแลผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความพร้อมในการส่งออก และการส่งเสริมสินค้า OTOP

สำหรับการแต่งตั้งประธานกลุ่มสินค้าเพื่อดูแลสินค้าสำคัญ 10 อันดับแรก เพราะสินค้าเหล่านี้มีสัดส่วนคิดเป็น 70% ของการส่งออกทั้งหมด และมูลค่าคิดเป็น 85% ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งหมด จึงต้องการให้มีผู้รับผิดชอบ ทั้งการวางแผนบุกเจาะตลาด การเพิ่มยอดการส่งออก รวมไปถึงการจัดกิจกรรมการส่งออกให้เหมาะสมกับแต่ละสินค้า แต่ละตลาด โดยมั่นใจว่าหลังจากที่ดำเนินการปรับรูปแบบการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าในแนวใหม่นี้แล้ว จะสามารถผลักดันให้ยอดการส่งออกสินค้าไทยในปี 2553 มีอัตราการขยายตัวได้ 14% อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น