xs
xsm
sm
md
lg

เปิดลังอาวุธอื้อ วิกเตอร์บูต! ชักใย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้เชี่ยวชาญเปิดลังอาวุธแล้ว พบอาวุธหนัก อาวุธเบาครบเครื่อง ทั้งปืน ระเบิด จรวดประทับบ่า รวมมูลค่า 500-600 ล้าน คาดปลายทางที่ประเทศมุสลิม เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่วนอาวุธยังไม่ทำลาย ต้องเก็บไว้ประกอบการดำเนินคดี แยกขัง 5 ผู้ต้องหา ผู้เชี่ยวชาญเชื่อเชื่อมโยง "วิคเตอร์ บูท นักค้าอาวุธคนดังชาวรัสเซีย ด้าน ทอ.ยันเครื่องบินลงจอดเติมน้ำมันเอง ไม่ได้ส่ง เอฟ-16 ขึ้นประกบ


เมื่อเช้าวานนี้ (15 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนในการตรวจสอบอาวุธที่จับกุมได้บนเครื่องบิน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ประชุมปรึกษากันให้ชัดเจนก่อนที่จะแถลง

"เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายไทย และมติสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ดังนั้นทั้งอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ จะต้องประชุมหารือกัน ซึ่งอาวุธบางส่วนได้ตรวจสอบแล้ว บางส่วนต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อน จึงต้องให้เวลาในการทำงานกับเจ้าหน้าที่ ผมคงไม่ไปเร่งรัดอะไร และเมื่อผลตรวจสอบชัดเจนแล้วก็จะเปิดเผยต่อสาธารณะ และต่างประเทศ รวมทั้งรายงานให้กับสหประชาชาติได้รับทราบด้วย"

เมื่อถามว่าอาวุธบางส่วนจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติ เข้ามาร่วมตรวจ สอบด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จำเป็น แต่เจ้าหน้าที่ของไทยคงต้องปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน

**ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอาวุธ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กองทัพอากาศได้เคลื่อนย้ายอาวุธสงครามจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปเก็บไว้ที่กรมสรรพาวุธทหารอากาศ กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ นั้น ล่าสุดวานนี้ คณะทำงานตรวจสอบอาวุธสงครามที่ลำเลียงมาในเครื่อง IL 64 เกือบ 40 ตัน ที่มีการขนย้ายมาจากประเทศเกาหลีเหนือตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยมี 6 หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ คือ กองปราบปราม อัยการสูงสุด กรมสรรพาวุธทหารอากาศ และกรมสรรพาวุธสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และ ตำรวจสันติบาล กว่า 100 คนโดยเดินทางจากกองปราบปราม ตั้งแต่เวลา 08.00 น.

หลังจากที่คณะได้เดินทางมาถึงยังกองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ในเวลา10.00 น. โดยมีน.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผู้บังคับการกองบิน 4 ให้การต้อนรับและมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปถึงแนวทางเกี่ยวกับอาวุธสงครามดังกล่าวประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้นคณะได้เดินทางเข้าไปยังคลังแสงของกรมสรรพาวุธ กองบิน 4 ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารกองบิน 4 ที่ใช้สำหรับการประชุมหารือประมาณ 1.5 กม. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตุการณ์ หรือให้ทำข่าวบริเวณการประชุม รวมถึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณคลังอาวุธ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากการรั่วไหลของอาวุธสงคราม เนื่องจากยังไม่มีใครทราบว่า ลังอาวุธสงครามทั้ง 145 ลัง มีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง

**อาวุธหนัก อาวุธเบาครบเครื่อง

หลังจากนั้น เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รองผู้บังคับการกองปราบปราม น.อ.พงษ์ศักดิ์ เกื้อกูล ผอ.กองวิทยาการ กรมสรรพาวุธทหารอากาศ น.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผู้บังคับการกองบิน 4 และนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีกรมอัยการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังการการตรวจสอบลังอาวุธสงครามทั้ง 145 ลัง

ทั้งนี้ นายศิรศักดิ์ แถลงว่า จากการตรวจสอบในวันนี้ ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะต้องดำเนินการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากที่สุด ว่าของกลางทั้งหมดมีกี่ชิ้น กี่อัน เป็นแบบไหนอย่างไร หรือแหล่งที่มามาจากไหน

เมื่อถามว่าประเทศของผู้ต้องหาต้องการที่จะขอตัวไปดำเนินคดี นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าถ้าหากเขามีการทำความผิดในประเทศของเขาด้วย และมีการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมา เราก็จะต้องดูว่าเรามีสนธิสัญญากันหรือไม่ มีความร่วมมือกันอย่างไร ทั้งนี้โดยหลักการถ้าหามีการขอมาจริง แต่เรามีคดีที่จะต้องดำเนินการในประเทศของเราก่อน ก็จะต้องทำของเราให้เสร็จ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครขอมา

ส่วนการจับกุมครั้งนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศต้องไปวิเคราะห์ แต่การดำเนินการในตอนนี้ เป็นการกระทำผิดกฎหมายของไทย

ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้สถานที่แห่งนี้จัดเก็บ ถือว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและมั่นคงสูง และมีสภาพแวดล้อมที่ดี ป้องกันทั้งอัคคีภัย และภัยต่างๆ และเป็นที่สถาที่ลับพอสมควรที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัยหากเกิดอันตราย ซี่งการดำเนินการเราได้มีการประชุมวางแผนเตรียมขั้นตอนต่าง ๆ เพราะว่าสิ่งสำคัญคือ ความปลอดภัยของผู้ตรวจ

ทั้งนี้การเข้าไปตรวจนั้นเราพบว่าคลังเก็บอาวุธมีความปลอดภัย โดยใช้ 3 คลัง ในการเก็บอาวุธจำนวนดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดคลังแสงต่อเจ้าพนักงาน และมีการบันทึกภาพถ่ายไว้เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราพบคือวัตถุที่เราได้คาดเดาเอาไว้ เป็นกระสุนปืน และเครื่องยิงกระสุนปืน ซี่งมีความชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ตาม พ.ร.บ.เครื่องกระสุนปืน และอาวุธปืน

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดในเชิงลึก เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ว่ามีหมายเลขอะไร มีจำนวนเท่าไร ให้ชัดเจน ส่วนการดำเนินคดีหลังจากนี้คงจะต้องรอรับเอกสารการรายงานจากทางเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ที่จะรายงานมาเป็นทางการอีกครั้ง กับทางพนักงานสอบสวน หลังจากนั้นจะมีการประมวลผลสรุปการสอบสวนพยานในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะดำเนินการในเรื่องที่จะเพิ่มข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาในคดีที่มีโทษสูงกว่าที่ข้อหาเราแจ้งไป

ทั้งนี้ การดำเนินการวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คิดว่าการดำเนินการสอบสวนทางคดีจะเป็นไปด้วยความยุติธรรม โปร่งใส และรัดกุม

เมื่อถามว่า การตรวจสอบอาวุธในวันนี้มีอะไรบ้าง พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า จากการตรวจอาวุธทั้ง 145 ลัง พบว่าเป็นเครื่องกระสุนปืนในลักษณะที่เป็นเครื่องจรวด และเป็นอุปกรณ์เครื่องยิงต่างๆ และเครื่องยิงประทับบ่า ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ ส่วนชนิดขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งทั้งหมดยังไม่สามารถหาแหล่งผลิตได้ เพียงแต่จะต้องไปดูขนาดของอาวุธว่าเป็นอย่างไร แม้แต่เอกสารที่เป็นกระดาษ ก็จะต้องพิสูจน์กับผู้เชี่ยวชาญว่า เป็นแหล่งที่มาจากที่ใด

เมื่อถามว่า เบื้องต้นอาวุธที่ตรวจจับเหล่านี้ จะนำไปทำลาย หรือเก็บรักษาไว้ก่อน พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ขณะนี้ต้องเก็บเอาไว้ในกองบิน 4 ก่อน เพราะถือว่าเป็นของกลางในคดีจนกว่าจะมีคำตัดสินออกมาเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่พนักงานอัยการได้ร้องขอไป ซึ่งจากการประเมินค่าของอาวุธทั้งหมดประมาณหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นอาวุธใหม่ทั้งหมด ไม่เคยใช้ และเป็นอาวุธหนักที่ใช้ในการรบ ถือเป็นอาวุธสงคราม

เมื่อถามว่า ประเทศไทยมีอาวุธชนิดเดียวกับที่ตรวจจับได้หรือไม่ พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นอาวุธของต่างประเทศ ซึ่งการตรวจสอบจะใช้ระยะเวลาอีกพักหนึ่ง เพราะการตรวจสอบในวันนี้ ก็ได้อีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า อาวุธทั้งหมดจากแหล่งที่เดียวกัน แต่จะต้องรอข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่า มีอาวุธขิ้นไหนบ้างจะต้องทำลาย พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่มี เพราะจะต้องรอเก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี แต่ลักษณะของอาวุธ ถ้าหากเป็นทรัพย์สินที่ผิดกฎหมายศาลก็อาจจะมีคำสั่งริบ หรือทำลาย หรืออาจจะต้องเป็นของแผ่นดิน ซึ่งเรื่องทั้งหมดถือเป็นภายหลัง

เมื่อถามว่า ทำไมต้องนำอาวุธทั้งหมดมาเก็บไว้ที่กองบิน 4 พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ทอ.เป็นสถานที่จัดเก็บที่มั่งคง แข็งแรงปลอดภัย ซึ่งในวันที่จับกุมถ้าเราไม่รีบเอาออกมา เราก็ไม่รู้ว่าสภาพภายในมีอะไรอยู่ แต่เราทราบว่ามันเป็นวัตถุที่มีดินระเบิดอยู่ เพราะเรื่องความสำคัญของความปลอดภัยของคนในเมือง สถานที่ ทอ. ที่เอื้อให้เป็นสถานที่แข็งแรงมาก เพราะหากเกิดอุบัติขึ้นมา ก็สามารถป้องกันได้

เมื่อถามว่า ต้องมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ให้มาตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่าเป็นเรื่องของทางรัฐบาล ซึ่งคิดว่าทางกระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการในเรื่องการประสานงานกับยูเอ็น เพราะมีมติจากสหประชาติ ข้อที่ 1874 ให้ประเทศสมาชิก ช่วยดำเนินการตาม ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุม สมช. ทางกระทรวงการต่างประเทศรับที่จะไปดูแล

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางยูเอ็นจะขอเข้าไปตรวจสอบบนเครื่องบินขนอาวุธนั้น คงไม่ใช่ เพราะตามมติของสหประชาชาติ เป็นการให้อำนาจของเจ้าของประเทศมีอำนาจในการตรวจสอบได้ ถือเป็นความร่วมมือกันเท่านั้นเอง เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดเครื่องบินลำดังกล่าวถึงไม่ลงประเทศพม่า หรือประเทศอื่นๆ แต่ทำไมมาเจาะจงที่ประเทศไทย แสดงว่ามีคนไทยรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ในเรื่องรายละเอียดเรายังสอบสวนไม่ถึงขนาดนั้น

**มีวัตถุระเบิด ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม

เมื่อถามว่า จะมีการเชิญสถานทูตทั้งเกาหลีเหนือ หรือ จอร์เจีย ที่เป็นเจ้าของเครื่องบินหรือไม่ พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ต้องดูพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอยู่ในสำนวนว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เช่น ประเทศที่กล่าวอ้างมา ถ้ามีความเกี่ยวข้องในรูปแบบของขนาด หรือ สัญญาลัษณ์ เราก็จะต้องส่งหลักฐานที่เขาเรียกว่าความร่วมมือทางคดีอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเราจะส่งข้อมูลไปทางนั้น ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเรียกทูตต่างๆ มาให้หากปากคำ เราก็ยังมี่ช่องทางในความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา เพื่อขอความร่วมมือให้ส่งพยานหลักฐานจำเป็นมาให้เราได้ โดยที่ทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งเรื่องนี้สืบสวนไปแล้วมีความเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบที่มาของอาวุธ โดยทางเจ้าหน้าที่เราจะตอบเราได้ในรูปสำนวน

"ขณะนี้ต้องรอรายงานจากกรมสรรพาวุธก่อน ส่วนพนักสอบสวน ก็จะรีบเร่งให้เสร็จภายใน 84 วัน ทั้งนี้จากการตรวจสอบในวันนี้ จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ต้องหาเพิ่ม 5 คน ที่ได้จากพยานหลักฐาน และวัตถุที่ตรวจพบเพิ่มเติมในวันนี้ คือวัตถุระเบิด ซึ่งมีโทษสูงกว่าที่เราแจ้งข้อหาไว้ คือ โทษจำคุก 2 ปี ถึงประหารชีวิต ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การเพียงแต่ให้ข้อมูลเรื่องที่อยู่ และอาชีพเท่านั้น เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ ไม่มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายหรือไม่นั้น ต้องถามสภาความมั่นคง" พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าว

เมื่อถามว่า ปลายทางของเขาจะลงที่ประเทศใด พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ตอนนี้เราสัณนิฐานไม่ได้ว่าปลายทางจะไปลงที่ไหน เพราะการออกจากประเทศไทย หากมีการกระทำผิดจะไม่เป็นไปตามเส้นทางที่บอก อาจจะไปที่ใดที่หนึ่งในลักษณะของการเป็นอาชญากรระดับโลก ที่ทำการกันอยู่ แต่ถ้าเป็นเส้นทางปกติ ต่อไปคือสถานีศรีลังกาแต่ก็ยังระบุไม่ได้ว่าศรีลังกา จะเป็นจุดหมายปลายทาง เป็นแค่สถานที่ต่อไปที่เขาแจ้งว่าจะลงในที่ต่อไป ส่วนเรื่องจุดหมายปลายทางกำลังสอบสวนอยู่

**มูลค่าอาวุธ 500-600 ล้านบาท

การตรวจสอบจะชี้วัดตรงที่ว่า ทำลายล้างหรือทำลายชีวิตได้หรือไม่ และแหล่งที่มาอยู่ที่ไหน ซึ่งมูลค่าทั้งหมดประมาณ 500 – 600 ล้านบาท อาวุธที่จับได้เป็นลักษณะที่หลายประเทศที่เคยมีการโชว์ศักยภาพ และแสดงแสนยานุภาพ ส่วนจะเป็นขีปนาวุธหรือไม่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญ วันนี้หน่วยงานที่ตรวจสอบมี 6 หน่วยงาน รวม 100 กว่าคน มีพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ กองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่สรรพาวุธของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และสันติบาล จากนี้เราจะมีการประชุมหารือเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เพราะอาจมีมิติเกี่ยวพันเรื่องต่างประเทศ อย่างน้อยมีข้อหาเรื่องการขนอาวุธ

น.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผู้การกองบิน 4 กล่าวว่า การนำของกลางมาเก็บในกองบิน 4 ไม่มีความเป็นห่วง เพราะมีความปลอดภัย ส่วนการจะทำลายนั้นเป็นเรื่องระดับสูง และทางกฎหมาย ตนไม่ทราบ กองบิน 4 มีหน้าที่แค่เปิดคลังให้เก็บเท่านั้น เรามีทีมที่เชี่ยวชาญดูแลอาวุธ ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติมในการจัดเก็บ ซึ่งเราจะมีวงรอบการตรวจสอบอาวุธอยู่แล้ว ยืนยันว่า กองทัพอากาศจะดูแลของได้อย่างดี และปลอดภัย ทั้งนี้ ผบ.ทอ. ระบุว่า ให้กองบิน 4 เก็บอาวุธและดูแลให้ดี

**ผู้เชี่ยวชาญชี้เชื่อมโยง "บูต"

ฮิวห์ กริฟฟิธซ์ นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ จากสวีเดน กล่าวว่า เครื่องบินลำที่ถูกจับกุมในไทยมีประวัติการนำส่งค้าอาวุธจากเกาหลีเหนือแล้วหลายครั้ง เครื่องบินลำนี้มีชื่อจดทะเบียนส่วนใหญ่เป็นของบริษัท "เบยบาร์ส-Beibars" ซึ่งจดทะเบียนในคาซัคสถาน และเกี่ยวข้องกับนายโทมิสลาฟ ดามน์จาโนวิช นักค้าอาวุธสงครามคนดังชาวเซอร์เบีย และจากรายงานของกระทรวงการคลังของสหรัฐ ระบุเครื่องบินลำนี้เคยถูกลงทะเบียนเปลี่ยนผู้ครอบครองแล้วกับ 3 บริษัท ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับนายวิคเตอร์ บูต นักค้าอาวุธคนดังชาวรัสเซีย ซึ่งยังอยู่ระหว่างถูกจำคุกในไทย

**คาดส่งไปให้ประเทศมุสลิม

รายงานข่าวแจ้งว่า ทาง กอ.รมน.ได้ประเมินผลกระทบต่อประเทศไทย หลังจากที่ได้มีการจับเครื่องบินขนอาวุธที่คาดว่าจะส่งไปยังประเทศมุสลิม ซึ่งเกรงว่า การที่ทางการไทยได้ปฏิบัติตามการ้องขอของสหรัฐ อาจถูกกลุ่มประเทศมุสลิมที่เป็นฝ่าย่อต้านสหรัฐฯ เฝ้ามองอยู่ และอาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไทย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่จะเริ่มสนับสนุนด้านการเงินให้กลุ่มกองกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนมากขึ้น รวมถึงการถ่ายโอนความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำอาวุธผ่านทางอินเตอร์เน็ต ให้กับกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกับกองกำลังที่ถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่ทางการไทยกวาดล้างในช่วงที่ผ่านมา

**ทอ.ยันไม่ได้ส่งเอฟ-16 ขึ้นประกบ

นอ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า กองทัพอากาศไทยใช้เครื่องบิน ขับไล่ เอฟ -16 บินประกบเครื่องบินสัญชาติจอร์เจีย ที่บรรทุกอาวุธสงครามให้ลงจอดที่ดอนเมืองว่า ไม่เป็นความจริงตามที่มีหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ และ สื่อไทยบางฉบับนำเสนอ ขอยืนยันว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการเข้าจับกุม เป็นการดำเนินการหลังจากที่นักบินลำดังกล่าวขอลงเพื่อจอดเติมน้ำมันเอง และจากการข่าวทางกองปราบปรามฯ จึงได้ประสานมาทางกองทัพอากาศเพื่อขอจัดกำลังสนับสนุน เพื่อให้เราเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการควบคุมเครื่องบิน และ อาวุธที่ได้บรรทุกมา

"ทางกองปราบฯ แจ้งมา ทอ. ก็จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยทันที เราก็รู้ตอนนั้นไม่ได้มีการเตรียมการหรือจัดเครื่องบินเอฟ-16 ไปประกบอย่างที่เป็นข่าว" นอ.มณฑลกล่าว

**เรือนจำแยกคุมขัง 5 ผู้ต้องหา

นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการควบคุมตัว 5 ผู้ต้องหาคดีลักลอบขนอาวุธสงคราม ซึ่งถูกนำตัวมาฝากขังผลัดแรกว่า ในการควมคุมตัวผู้ต้องหาภายในเรือนจำคืนแรกไม่มีปัญหาทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยผู้คุมได้แยกผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้อยู่คนละแดน เพื่อไม่ให้พบปะพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับคดี ทำให้ผู้ต้องหามีความวิตกกังวลที่ต้องถูกแยกแดน

อย่างไรก็ตาม ทางเรือนจำให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเน้นป้องกันไม่ให้มีโอกาสได้พบปะกับนายวิกเตอร์ บูต นักค้าอาวุธชาวรัสเซีย ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่แดน 8 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูง เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยเป็นไปอย่างเรียบร้อย

"เรื่องความเป็นอยู่ในเรือนจำ ผมได้ให้ทางเรือนจำจัดอาหารให้ผู้ต้องหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหารายอื่นๆซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ก็รับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่หากผู้ต้องหาต้องการรับประทานอาหารอื่น นอกเหนือจากที่เรือนจำจัดให้ สามารถสั่งซื้อที่ร้านสวัสดิการด้านหน้าเรือนจำได้ตามระเบียบ แต่ต้องใช้จ่ายคูปองได้ไม่เกินวันละ 200 บาท" นายโสภณกล่าว

**อสส.ยังไม่ลงนามตั้งทีมร่วมสอบ

นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จนถึงขณะนี้ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดยังไม่ได้ลงนามเซ็นคำสั่งตั้งพนักงานอัยการเป็นพนักงานสอบสวนร่วมในคดีนักค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ.2551 ม.20 เนื่องจากต้องรอตรวจสอบดูพยานหลักฐานให้ชัดแจ้งก่อน ว่ามีการกระทำผิดที่เกี่ยวกับต่างประเทศหรือไม่เพียงใด เพราะขณะนี้เป็นเพียงการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งหากคดีนี้ไม่มีการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ อัยการสูงสุดอาจไม่พิจารณาแต่งตั้งอัยการเข้าร่วมเป็นพนักงานสอบสวนก็เป็นได้

ด้านนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบของกลางอาวุธสงครามที่ยึดได้จากเครื่องบินของแก๊งค้าอาวุธข้ามชาติที่ถูกเก็บไว้ที่กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ว่ายังไม่ได้รับแต่งตั้งจากอัยการสูงสุดให้เป็นพนักงานสอบสวนร่วม แต่เนื่องจากกรณีนี้เป็นคดีที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูแล จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักข่าวกรอง เปิดหีบของกลางเพื่อตรวจสอบว่าของกลางที่ยึดได้นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งเป็นวัตถุพยานยังอยู่ระหว่างผู้เชี่ยวชาญถ่ายรูปและทำบัญชีแยกประเภทว่ามีอาวุธอะไรบ้าง เพื่อรวบรวมไว้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบในสำนวนคดี ซึ่งเชื่อว่าหลังการสอบสวนแล้ว จะต้องมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ในเรื่องของการนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายจากต่างประเทศ ซึ่งอาวุธปืน ไม่ใช่สินค้าปกติที่จะสามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้ เพราะผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน

ส่วนข้อหาค้าอาวุธสงครามนั้น คงต้องให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานว่านำอาวุธสงครามมาจากไหน เพื่อวัตถุประสงค์อะไรก่อน จึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้

"คดีนี้เบื้องต้นเราต้องดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรมของไทย เพื่อสอบสวนรวมรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหา ส่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญาพิจารณาพิพากษาตัดสินคดีก่อน แต่หากผู้ต้องหากระทำความผิดในประเทศใดอีก ประเทศก็จะต้องประสานมายังทางการไทยเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีต่อไป" นายศิริศักดิ์กล่าว

**ฮิลลารีคลินตันชมไทย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวในวันจันทร์ (14) ว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง” กับการที่ประเทศไทยสามารถยึดอาวุธสงครามที่ขนจากเกาหลีเหนือได้ เพราะ “เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนานาชาติในเรื่องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ” ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนมิถุนายนหลังจากที่เกาหลีทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน

“นี่คือการแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรสามารถป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ได้” เธอกล่าวและบอกว่า “ดิฉันไม่คิดว่าจะมีใครแปลกใจกับการที่เกาหลีเหนือยังคงพยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และส่งออกอาวุธไปทั่วโลก เพราะนั่นเป็นแหล่งรายได้เข้าประเทศแหล่งสำคัญที่สุด”

“เกาหลีเหนือต้องการเดินหน้าขายสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถส่งออก แต่เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการดำเนินการอย่างเข้มแข็งของชาวไทย”

เธอเสริมด้วยว่า “การดำเนินการดังกล่าวก็คงจะไม่สำเร็จ หากไม่มีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งของสหประชาชาติด้วยเช่นกัน ดิฉันคิดว่านี่เป็นบทเรียนสำหรับคนทั่วโลกที่จะได้เห็นในกรณีของอิหร่านด้วย”

ขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าเจรจาเพื่อให้อิหร่านหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของตน โดยขู่ว่าจะผลักดันให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับอิหร่าน หากอิหร่านไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของทั่วโลก.
กำลังโหลดความคิดเห็น