xs
xsm
sm
md
lg

ฝากขัง 5 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงครามข้ามชาติ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา โดยมีหน่วยคอมมานโดคุ้มกันอย่างแน่นหนา
กองปราบปรามจัดคอมมานโดคุมเข้ม 5 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงครามข้ามชาติ ฝากขังศาลอาญา ขณะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” สั่งทุกคนห้ามให้ข่าว ย้ำจะแถลงให้สาธารณชนทราบด้วยตนเอง


คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ให้สัมภาษณ์

วันนี้(14 ธ.ค.)เมื่อเวลา 09.45 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ต.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และกองกำลังหน่วยคอมมานโดอาวุธครบมือ ควบคุมตัว นายอิสยาส อิสวาคอฟ ( IIyas Issakov ) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 1 , นายวิคเตอร์ อับดุลลายัฟ (Viktor Abdullayev) อายุ 58 ปี สัญชาติคาซัคสถาน เนวิเกเตอร์ , นายมิคคาอิล พีทูคู (Mikhail Petukou) อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส ช่างเครื่องยนต์ , นายอเล็กซ์ซานดะ ไซร์บาเนฟ (Alexandr Zrybnev) อายุ 53 ปี สัญชาติ คาซัคสถาน ช่างเทคนิค และนายวิทาลี ชุมคอบ (Vitaliy Shunkov) อายุ 54 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 2 ผู้ต้องหาที่ 1-5 แก๊งค์ค้าอาวุธข้ามชาติ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 14 – 25 ธันวาคม นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 10 ปาก พร้อมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง หนังสือเดินทางและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน โดยพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางที่พบมีจำนวนมาก จึงเชื่อว่ามีพฤติการณ์ทำเป็นขบวนการลักษณะองค์กรอาชญากรรมประกอบกับผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติเกรงว่าจะหลบหนี

คำร้องฝากขังสรุปว่าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางจำนวน 145 ลัง โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 เวลา 15.56 น. นายนิมิต แสงอำไพ หัวหน้าสืบสวนปราบปรามทางบก 2 กรมศุลกากรและพวกได้รับแจ้งว่ามีเครื่องบิน IL-76 เที่ยวบินที่ AWA732 ซึ่งเดินทางจากสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ( เมืองเปียงยาง เกาหนีเหนือ ) มีจุดหมายไปยังสาธารณะรัฐนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ได้แวะลงจอดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบิน

ต่อมาสำนักข่าวกรองได้มีหนังสือแจ้งถึงผู้บัญชาการทหารอากาศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจค้นโดยละเอียด ซึ่งวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 13.00 น. กองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่อากาศยานดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้นำสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบินตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 ม.7 และ 72 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา ม.83 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนทราบแล้ว โดยชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝากขังศาลเรียบร้อยแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ขึ้นรถตู้สีขาวติดฟิล์มทึบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม 2 คัน โดยมีรถยนต์สายตรวจกองปราบปรามขับประกบดูแลความปลอดภัยเพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานทูตเบลารุส เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมเงินสดเพื่อนำมาเป็นหลักทรัพย์ยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ต่อศาลอาญา วันนี้ เวลา 14.00 น.

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก สตช.กล่าวว่า ก่อนนำตัวมาฝากขัง เจ้าหน้าที่สถานทูตได้มาติดต่อและจัดหาทนายความให้ผู้ต้องหาทั้งห้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อธิบายขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้ทราบโดยเข้าใจแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมายืนยันว่าพนักงานสอบสวนดูแลความเป็นอยู่ผู้ต้องหาทั้งห้าอย่างดีตามหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งเจ้าหน้าที่สถานทูตก็พอใจกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องหาดังกล่าว ส่วนคดีต่อไปจะมีการสอบสวนขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลใดอีกบ้าง ขณะที่ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษา ผบก.ป. ได้ทำหน้าที่ประสานกับอัยการสูงสุดเพื่อหารือข้อกฎหมาย ในการดำเนินคดี และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนพยานหลักฐานส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดี ได้ทันภายใน 84 วันตามกรอบกฎหมาย โดยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาดำเนินคดี ซึ่งการดำเนินคดีทางตำรวจได้รายงานความคืบหน้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายก ฯ ฝ่ายความมั่นคง ทราบโดยตลอด

ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยข้อมูลว่ามีการตั้งรางวัลนำจับ จำนวนมากด้วยนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ โฆษก สตช. กล่าวปฏิเสธว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องยอมรับเพียงสั้นๆว่าลักลอบขนส่งชิ้นส่วนและอะไหล่อาวุธสงครามข้ามชาติมาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่านำไปส่งให้กับกลุ่มไหน และมีใครเป็นคนว่าจ้างหรืออยู่เบื้องหลัง โดยเดินทางจากประเทศยูเครนผ่านน่านฟ้าประเทศอาเซอร์ไบจาน เข้าเส้นทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผ่านประเทศไทย มุ่งหน้าไปรับสินค้าที่กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อบรรทุกสินค้าได้เต็มลำก็เดินทางต่อไปส่งสินค้าบางส่วนที่ศรีลังกา จากนั้นลำเลียงอาวุธไปส่งต่อยังประเทศแถบตะวันออกกลางให้กับพวกแบ่งแยกดินแดง และใช้เส้นทางเดิมเดินทางกลับประเทศยูเครนพร้มกับอาวุธสงครามอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการขนส่งอาวุธสงครามผ่านน่านฟ้าประเทศไทยนั้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ และความผิดสำแดงหลักฐานเท็จ ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ระหว่างการควบคุมตัวและไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด












กำลังโหลดความคิดเห็น