ASTVผู้จัดการรายวัน – "ไทยพาณิชย์" ตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 6% เน้นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อขนาดใหญ่ ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อสิ้นปีนี้คาดทรงตัวเท่ากับปี 51 ที่ 0% ขณะที่เรื่องขายหุ้น SICCO ยังไม่มีความคืบหน้า
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรวมในปี 2553 ไว้ที่ 6% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่ปล่อยใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่คาดการ์ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจที่อิงกับการท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่ ที่กลับมาเหมือนเดิม ทั้งนี้ ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อประเภทสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อขนาดใหญ่
"ในปีหน้าแผนการดำเนินงานด้านสินเชื่อนั้น เบื้องต้นตั้งเป้าเติบโต 1 เท่าของตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 3% ซึ่งตัวเลขการเติบโตโดยรวมก็จะไม่ถึง 2 หลักคือน่าจะโตราว 6%" นางกรรณิกา กล่าว
ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อรวมของปี 2552 นี้ คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับทรงตัวจากปี 2551 หรือโตประมาณ 0% ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว โดยเฉพาะสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่ขณะนี้ภาคการส่งออกเริ่มกลับมาดีขึ้น จึงทำให้ลูกค้าเริ่มมีการขอสินเชื่อกับธนาคารมากขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลให้ยอดสินเชื่อรวมในสิ้นปีนี้เติบโตทรงตัว
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งใกล้เคียงกับปัจจุบัน แต่ในส่วนของแนวโน้มเอ็นพีแอลในปี 2553 อาจมีโอกาสปรับลดลง เพราะสินเชื่อมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ค่อนข้างสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารไม่มีความเป็นห่วงเรื่องเอ็นพีแอลมากนัก และนโยบายการตั้งสำรองก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนแผนการขายหุ้นบริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SICCO) ซึ่งธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วนประมาณ 38% นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้ที่ผ่านมาจะมีกลุ่มผู้สนใจหลายรายติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาซื้อหุ้น SICCO แต่จนถึงขณะนี้ธนาคารยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดในการขายหุ้น SICCO ให้กับกลุ่มใด
โดยตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมายอมรับว่ามีผู้สนใจขอซื้อหุ้น SICCO เข้ามาตลอด ซึ่งธนาคารก็มีความตั้งใจที่จะขายออกไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถขาย SICCO ออกไปได้ และปัจจุบันธนาคารก็ยังไม่มีการตั้งราคาในการขาย SICCO แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวธนาคารเห็นว่ายังไม่สำคัญนัก เพราะ SICCO เป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็ก และธนาคารยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลมากกว่าการขาย SICCO
"เราคุยกับผู้สนใจมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่การคุยยังไม่สามารถตกลงเรื่องซื้อขายได้ และหลังจากนี้ไปเราก็ไม่ต้องรีบร้อนมากนัก SICCO เป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ เรามีธุรกิจอื่นที่ใหญ่กว่าที่ต้องดูแล รอมาได้ขนาดนี้ก็ไม่ต้องเร่งรีบอะไรแล้ว ส่วนข่าวที่บอกว่าเราตกลงราคาขายแล้วนั้น ยืนยันว่าเรายังไม่ได้ตั้งราคาขาย SICCO ในตอนนี้"นางกรรณิกา กล่าว
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรวมในปี 2553 ไว้ที่ 6% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่ปล่อยใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่คาดการ์ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจที่อิงกับการท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่ ที่กลับมาเหมือนเดิม ทั้งนี้ ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อประเภทสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อขนาดใหญ่
"ในปีหน้าแผนการดำเนินงานด้านสินเชื่อนั้น เบื้องต้นตั้งเป้าเติบโต 1 เท่าของตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 3% ซึ่งตัวเลขการเติบโตโดยรวมก็จะไม่ถึง 2 หลักคือน่าจะโตราว 6%" นางกรรณิกา กล่าว
ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อรวมของปี 2552 นี้ คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับทรงตัวจากปี 2551 หรือโตประมาณ 0% ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว โดยเฉพาะสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่ขณะนี้ภาคการส่งออกเริ่มกลับมาดีขึ้น จึงทำให้ลูกค้าเริ่มมีการขอสินเชื่อกับธนาคารมากขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลให้ยอดสินเชื่อรวมในสิ้นปีนี้เติบโตทรงตัว
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งใกล้เคียงกับปัจจุบัน แต่ในส่วนของแนวโน้มเอ็นพีแอลในปี 2553 อาจมีโอกาสปรับลดลง เพราะสินเชื่อมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ค่อนข้างสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารไม่มีความเป็นห่วงเรื่องเอ็นพีแอลมากนัก และนโยบายการตั้งสำรองก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนแผนการขายหุ้นบริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SICCO) ซึ่งธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วนประมาณ 38% นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้ที่ผ่านมาจะมีกลุ่มผู้สนใจหลายรายติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาซื้อหุ้น SICCO แต่จนถึงขณะนี้ธนาคารยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดในการขายหุ้น SICCO ให้กับกลุ่มใด
โดยตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมายอมรับว่ามีผู้สนใจขอซื้อหุ้น SICCO เข้ามาตลอด ซึ่งธนาคารก็มีความตั้งใจที่จะขายออกไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถขาย SICCO ออกไปได้ และปัจจุบันธนาคารก็ยังไม่มีการตั้งราคาในการขาย SICCO แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวธนาคารเห็นว่ายังไม่สำคัญนัก เพราะ SICCO เป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็ก และธนาคารยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลมากกว่าการขาย SICCO
"เราคุยกับผู้สนใจมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่การคุยยังไม่สามารถตกลงเรื่องซื้อขายได้ และหลังจากนี้ไปเราก็ไม่ต้องรีบร้อนมากนัก SICCO เป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ เรามีธุรกิจอื่นที่ใหญ่กว่าที่ต้องดูแล รอมาได้ขนาดนี้ก็ไม่ต้องเร่งรีบอะไรแล้ว ส่วนข่าวที่บอกว่าเราตกลงราคาขายแล้วนั้น ยืนยันว่าเรายังไม่ได้ตั้งราคาขาย SICCO ในตอนนี้"นางกรรณิกา กล่าว
