แม้ว่าเดือนธันวาคมของทุกปี จะเป็นเดือนที่ประเสริฐที่สุดเดือนหนึ่งของปวงชนชาวไทยที่รวมทั้งวันพ่อแห่งแผ่นดิน วันรัฐธรรมนูญหรือวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่พสกนิกาชาวไทย และเป็นเดือนสิ้นปีสากลที่คนตะวันตกมักจะใช้เป็นเดือนสิ้นสุดแห่งสิ่งอุบาทว์ชั่วร้าย หรือความไม่ดีของตัวเอง และประกาศิตจะเริ่มต้นชีวิตใหม่หรือที่เขาเรียกว่า New Year Resolution
แต่กลุ่มบุคคลที่ปราศจากจิตสำนึกที่ดี ขาดคุณธรรมนำโดย ทักษิณก็ทำลายความสุขที่ประชาชนคนไทยหวังจะได้ชื่นมื่นหลังจากวิกฤตต่างๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า จนสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นในดวงใจของพวกเขาที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเกษมสำราญที่ทรงพบว่า พสกนิกรของพระองค์ดีใจที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์
ทักษิณและพวกต้องการอะไร คำตอบชัดเจนคือ กิเลสปรารถนาที่จะเอาเงิน 7.6 หมื่นล้านบาทคืน เพราะมันเป็นปัจจัยเดียวที่จะซื้ออำนาจให้กลับมาเป็นของตนได้ สามารถซื้อเกียรติยศจอมปลอมได้ สามารถซื้อทาสในเรือนใจได้ เพราะมีคนเกิดความหลงใหลในน้ำเงินที่ทักษิณใช้อำนาจกอบโกยมาและสามารถซื้อรัฐได้ ประการหลังน่ากลัวมากเพราะขณะนี้เขามีอำนาจรัฐส่วนหนึ่งแล้ว ทั้งที่เป็นนัยตามรัฐธรรมนูญที่สมุนในพรรคเพื่อไทยครองอำนาจนิติบัญญัติบางส่วน หรือที่เป็นนัยเชิงพฤติกรรมเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่หลงใหลทักษิณแสดงอำนาจสงครามการเมืองสร้างภาพข่มขู่คนไทยที่มีใจเป็นธรรมและรักสงบ
บทพิสูจน์ก็คือ การข่มขู่ที่จะออกมาแสดงพลังกดดังรัฐบาลด้วยเรื่องราวเก่าๆ บ้าง และเรื่องราวในปัจจุบันบ้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น นายวีระ มุสิกพงษ์ ออกแผ่นซีดีพยายามที่จะชี้นำมวลชนคนเสื้อแดงให้สับสนมากขึ้นกรณีลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ด้วยการยกเรื่องนายตี๋ ศรีสุวรรณ พยานปากเอกคดีนี้ แต่หากได้ศึกษาจากหนังสือประวัติศาสตร์ลอบปลงพระชนม์ ร. 8 คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับสมบูรณ์ของนายบุญร่วม เทียมจันทร์ อัยการอาวุโสอดีตอธิบดีอัยการเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง ซึ่งกล่าวไว้ชัดเจนว่า
นายตี๋ ศรีสุวรรณ เป็นพยานคนหนึ่งก็กล่าวให้การเฉพาะเหตุการณ์บ้านพลเรือตรีกระแส ศรยุทธเสนี ซึ่งมีการประชุมกันซึ่งมีจำเลยในคดีนี้ไปร่วมประชุมด้วย นอกเหนือจากคำให้การของนายตี๋ ศรีสุวรรณแล้ว ยังมีคำให้การของนางสาวทองใบ แนวนาค สาวรับใช้ของพลเรือตรีกระแส ให้การว่าทั้งจำเลยและนายตี๋ ศรีสุวรรณ อยู่ในเหตุการณ์การประชุมกันก่อนวันสิ้นพระชนม์ 10 วัน
วิจารญาณในเรื่องนี้มิใช่มีเฉพาะเรื่องที่นายบุญร่วม เทียมจันทร์ เขียนไว้ แต่ยังมีหนังสือกรณีสวรรคตหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียร หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ผู้ชันสูตรพระบรมศพ
แต่เป้าหมายการเขียนในอาทิตย์นี้จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างฉากมหากาพย์ระดับโลกที่สื่อทั่วโลกลงข่าวนี้ กรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรสื่อสารแห่งบริษัท CAT หรือ Cambodia Air Traffic Service กระทำการโจรกรรมข้อมูลตารางการบินเครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวของฮุนเซน นายกรัฐมนตรีเขมร โดยศาลกลางกัมพูชาตัดสินให้จำคุกนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ 7 ปี พร้อมทั้งปรับเป็นเงินประมาณ 750,000 บาท โดยที่ศาลแถลงว่า “เที่ยวบินของทักษิณเป็นความลับ และต้องมีการรักษาความลับนี้ร่วมกันในการปกป้องความลับของบุคคลสำคัญเพื่อความมั่นคงของประเทศ” นายศิวรักษ์ให้การว่า “เห็นข้อมูลนี้ และขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา” แล้วจึงโทรศัพท์บอกให้นายคำรบ เลขาเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งรัฐเขมรส่งตัวกลับไทยโดยที่คนทั้งสองรู้จักกันเมื่อสองปีมาแล้วแต่ปัจจุบันไม่ได้พบกันเลย
นายศิวรักษ์ปฏิเสธว่า ไม่ได้ส่งรายละเอียดเป็นเอกสารส่งให้กับนายคำรบหรือใครๆ เจ้าหน้าที่เขมรสองคนให้การว่า นายศิวรักษ์ถามถึงตารางบินของทักษิณจึงบอกไป
บีบีซีวิเคราะห์ว่า ศิวรักษ์ถูกจำคุกเพียง 7 ปีนั้น ถือว่าได้รับโทษสถานเบา เมื่อเปรียบเทียบว่าโทษฐานจารกรรมนั้นอาจถูกจำคุกถึง 15 ปี แม้ว่าทางการไทยจะขอลดหย่อนตามขบวนการของกัมพูชา แต่บีบีซีให้ทัศนะว่า ทักษิณจะเข้าแทรกแซงในการขออภัยโทษครั้งนี้
แต่เมื่อวันที่ 9 มารดาของศิวรักษ์แถลงชัดเจนว่า จะไม่พึ่งรัฐบาลไทยเพราะว่ารัฐบาลไทยกับกัมพูชามีเรื่องบาดหมางกัน แต่จะพึ่งทักษิณ และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ให้ดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษจากพระมหากษัตริย์กัมพูชา
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่การทำจารกรรมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นเกิดขึ้นได้ เพราะนายศิวรักษ์ไม่รู้ว่าตารางการบินของทักษิณเป็นเรื่องความมั่นคงของกัมพูชา ไม่สามารถโยงได้ว่าทักษิณมีสถานภาพบุคคลในอารักขาของกัมพูชาโดยเฉพาะเรื่องความลับการเดินทาง
ประเด็นสำคัญคือนายศิวรักษ์อาจถูกลวงให้ทำการนี้หรือจะเป็นเพราะความคิดของนายศิวรักษ์เองที่อยากรู้เรื่องนี้แล้วบอกกับทางการไทย หรือนายคำรบรู้เห็นเป็นใจด้วย แต่เพราะว่าทักษิณเป็นผู้ต้องโทษคดีอาญา จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องสืบให้รู้เห็นการเคลื่อนไหวของผู้ต้องคดีอาญาในราชอาณาจักรไทยแต่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ จึงเป็นการสมควรแล้ว
แต่ถ้ารัฐบาลไทยต้องการติดตามการเคลื่อนไหวของทักษิณในฐานะผู้ร้ายคดีอาญาในประเทศก็กระทำได้หลายวิธี แม้กระทั่งการใช้การดักฟังการติดต่อสื่อสาร หรือการดักสัญญาณคลื่นวิทยุแสดงตัวของเครื่องบินของเขาก็กระทำได้ ถึงแม้ว่านักบินของทักษิณจะใช้ระบบ Block Flight Plan ก็ตาม ที่ข้อมูลทั้งหมดของเครื่องบินเขาถูกปิดเป็นความลับ ข้อมูลในแผนการบินนั้นเป็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องบินเส้นทางบิน เวลาบิน มาจากไหนจะไปไหน ใครเป็นนักบิน ผู้โดยสารกี่คนเป็นต้น
โดยในสหรัฐฯ นั้นมีบริษัทที่รับจ้างจัดทำแผนการบินให้เป็นความลับโดยมีเว็บไซต์ที่ FltPlan.com ซึ่งจะประสานกับ FAA หรือองค์การบินพลเรือนของสหรัฐฯ หรือองค์การบินพลเรือนสากลแห่งองค์การสหประชาชาติที่จะเก็บข้อมูลการบินเป็นความลับ โดยสมาคมการบินทางธุรกิจหรือ National Business Aviation Association สามารถกระทำการปกปิดข้อมูลการบินขององค์การธุรกิจได้เพื่อกันไม่ให้ผู้สื่อข่าว บริษัทคู่แข่ง ผู้ก่อการร้าย พนัการบริษัทของตัวเอง พนักงานบริษัทหัวรุนแรงที่มีปัญหา เช่น สหภาพ เจ้าหน้าที่ธนาคาร และเจ้าหน้าที่รัฐได้ล่วงรู้เพื่อความลับของการเคลื่อนไหวของบริษัท โดยเฉพาะชาติที่มีธุรกิจแข่งขันกันอย่างรุนแรง และมีศัตรูมากทำให้องค์การบินพลเรือนยอมรับระบบปกปิดข้อมูลทะเบียนเครื่องบินเรียกว่า Block Aircraft Registration Request
แต่สัญญาณวิทยุสำแดงตัวของเครื่องบินต้องยังคงต้องเปิดอยู่ หรือระบบป้องกันการบินชนกันในอากาศยังต้องเปิดอยู่ หรือถ้ารัฐบาลจะทำจารกรรมโดยตรงแล้วก็กระทำได้ด้วยการดักคลื่นสัญญาณเหล่านี้ โดยรอบน่านฟ้าไทยก็จะรู้ข้อมูลการบินของทุกเที่ยวบินในเขตการแจ้งข้อมูลการบินหรือ Flight Information Region
ดังนั้นแผนการนี้จึงเป็นเรื่องที่สามารถโยงกันเป็นละครฉากใหญ่ได้ เพราะตามปกตินักบินเครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ คงจะต้องใช้ระบบ BARR อย่างแน่นอนเพื่อรักษาความลับของทักษิณ แต่การลงสนามนั้นคงจะปกปิดไม่ได้ จึงเป็นจุดอ่อนของระบบ BARR ทำให้ศิวรักษ์เห็นช่องทางในละครบทนี้
แต่ละครฉากสำคัญคือ การขอพระราชทานอภัยโทษจากพระมหากษัตริย์เขมร โดยมารดาของศิวรักษ์เอง ซึ่งทางญาติของทักษิณสามารถใช้กลยุทธ์นี้มาประยุกต์โดยผ่านทางราชวงศ์กัมพูชาหรือรัฐบาลกัมพูชาโดยมีญาติทักษิณร้องขอพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยให้กับทักษิณ โดยผ่านกลุ่มพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่จะใช้กระบวนการพิธีการต่างประเทศแล้วเข้าระบบการขอพระราชทานอภัยโทษตามที่กระทรวงยุติธรรมเคยแถลงไว้
ในสถานการณ์นี้เป็นเรื่องสถานการณ์สมมติอันเป็นเรื่องปกติที่นักยุทธศาสตร์ทุกคนรู้ดีว่า การเขียน Scenario ที่ครอบคลุม และมีเป้าประสงค์ในอนาคตที่ชัดเจนแล้วจะสร้างความสำเร็จได้
มีเรื่องกลยุทธ์เกี่ยวกับ Scenario เขียนโดย ดร.แลรี่ เกรกอรี่ (Dr.Larry Gregory) และดร.แอนน์ ดูแวน (Dr.Anne Duran) แห่งภาควิชาจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยนิวแมกซิโกในสหรัฐฯ เรื่อง Scenario and Acceptance of forecasts) หรือสถานการณ์สมมติและการพยากรณ์
ดังนั้นทุกเรื่อง ทุกตอนของกรณีศิวรักษ์นั้น ถูกเขียนไว้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผลควรจะเป็นอย่างไร เราจึงต้องเฝ้าติดตามและรู้เท่าทันความคิดของคนเหล่านั้น
แต่กลุ่มบุคคลที่ปราศจากจิตสำนึกที่ดี ขาดคุณธรรมนำโดย ทักษิณก็ทำลายความสุขที่ประชาชนคนไทยหวังจะได้ชื่นมื่นหลังจากวิกฤตต่างๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า จนสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นในดวงใจของพวกเขาที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเกษมสำราญที่ทรงพบว่า พสกนิกรของพระองค์ดีใจที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์
ทักษิณและพวกต้องการอะไร คำตอบชัดเจนคือ กิเลสปรารถนาที่จะเอาเงิน 7.6 หมื่นล้านบาทคืน เพราะมันเป็นปัจจัยเดียวที่จะซื้ออำนาจให้กลับมาเป็นของตนได้ สามารถซื้อเกียรติยศจอมปลอมได้ สามารถซื้อทาสในเรือนใจได้ เพราะมีคนเกิดความหลงใหลในน้ำเงินที่ทักษิณใช้อำนาจกอบโกยมาและสามารถซื้อรัฐได้ ประการหลังน่ากลัวมากเพราะขณะนี้เขามีอำนาจรัฐส่วนหนึ่งแล้ว ทั้งที่เป็นนัยตามรัฐธรรมนูญที่สมุนในพรรคเพื่อไทยครองอำนาจนิติบัญญัติบางส่วน หรือที่เป็นนัยเชิงพฤติกรรมเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่หลงใหลทักษิณแสดงอำนาจสงครามการเมืองสร้างภาพข่มขู่คนไทยที่มีใจเป็นธรรมและรักสงบ
บทพิสูจน์ก็คือ การข่มขู่ที่จะออกมาแสดงพลังกดดังรัฐบาลด้วยเรื่องราวเก่าๆ บ้าง และเรื่องราวในปัจจุบันบ้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น นายวีระ มุสิกพงษ์ ออกแผ่นซีดีพยายามที่จะชี้นำมวลชนคนเสื้อแดงให้สับสนมากขึ้นกรณีลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ด้วยการยกเรื่องนายตี๋ ศรีสุวรรณ พยานปากเอกคดีนี้ แต่หากได้ศึกษาจากหนังสือประวัติศาสตร์ลอบปลงพระชนม์ ร. 8 คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับสมบูรณ์ของนายบุญร่วม เทียมจันทร์ อัยการอาวุโสอดีตอธิบดีอัยการเป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง ซึ่งกล่าวไว้ชัดเจนว่า
นายตี๋ ศรีสุวรรณ เป็นพยานคนหนึ่งก็กล่าวให้การเฉพาะเหตุการณ์บ้านพลเรือตรีกระแส ศรยุทธเสนี ซึ่งมีการประชุมกันซึ่งมีจำเลยในคดีนี้ไปร่วมประชุมด้วย นอกเหนือจากคำให้การของนายตี๋ ศรีสุวรรณแล้ว ยังมีคำให้การของนางสาวทองใบ แนวนาค สาวรับใช้ของพลเรือตรีกระแส ให้การว่าทั้งจำเลยและนายตี๋ ศรีสุวรรณ อยู่ในเหตุการณ์การประชุมกันก่อนวันสิ้นพระชนม์ 10 วัน
วิจารญาณในเรื่องนี้มิใช่มีเฉพาะเรื่องที่นายบุญร่วม เทียมจันทร์ เขียนไว้ แต่ยังมีหนังสือกรณีสวรรคตหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียร หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ผู้ชันสูตรพระบรมศพ
แต่เป้าหมายการเขียนในอาทิตย์นี้จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างฉากมหากาพย์ระดับโลกที่สื่อทั่วโลกลงข่าวนี้ กรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรสื่อสารแห่งบริษัท CAT หรือ Cambodia Air Traffic Service กระทำการโจรกรรมข้อมูลตารางการบินเครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวของฮุนเซน นายกรัฐมนตรีเขมร โดยศาลกลางกัมพูชาตัดสินให้จำคุกนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ 7 ปี พร้อมทั้งปรับเป็นเงินประมาณ 750,000 บาท โดยที่ศาลแถลงว่า “เที่ยวบินของทักษิณเป็นความลับ และต้องมีการรักษาความลับนี้ร่วมกันในการปกป้องความลับของบุคคลสำคัญเพื่อความมั่นคงของประเทศ” นายศิวรักษ์ให้การว่า “เห็นข้อมูลนี้ และขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา” แล้วจึงโทรศัพท์บอกให้นายคำรบ เลขาเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งรัฐเขมรส่งตัวกลับไทยโดยที่คนทั้งสองรู้จักกันเมื่อสองปีมาแล้วแต่ปัจจุบันไม่ได้พบกันเลย
นายศิวรักษ์ปฏิเสธว่า ไม่ได้ส่งรายละเอียดเป็นเอกสารส่งให้กับนายคำรบหรือใครๆ เจ้าหน้าที่เขมรสองคนให้การว่า นายศิวรักษ์ถามถึงตารางบินของทักษิณจึงบอกไป
บีบีซีวิเคราะห์ว่า ศิวรักษ์ถูกจำคุกเพียง 7 ปีนั้น ถือว่าได้รับโทษสถานเบา เมื่อเปรียบเทียบว่าโทษฐานจารกรรมนั้นอาจถูกจำคุกถึง 15 ปี แม้ว่าทางการไทยจะขอลดหย่อนตามขบวนการของกัมพูชา แต่บีบีซีให้ทัศนะว่า ทักษิณจะเข้าแทรกแซงในการขออภัยโทษครั้งนี้
แต่เมื่อวันที่ 9 มารดาของศิวรักษ์แถลงชัดเจนว่า จะไม่พึ่งรัฐบาลไทยเพราะว่ารัฐบาลไทยกับกัมพูชามีเรื่องบาดหมางกัน แต่จะพึ่งทักษิณ และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ให้ดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษจากพระมหากษัตริย์กัมพูชา
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่การทำจารกรรมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นเกิดขึ้นได้ เพราะนายศิวรักษ์ไม่รู้ว่าตารางการบินของทักษิณเป็นเรื่องความมั่นคงของกัมพูชา ไม่สามารถโยงได้ว่าทักษิณมีสถานภาพบุคคลในอารักขาของกัมพูชาโดยเฉพาะเรื่องความลับการเดินทาง
ประเด็นสำคัญคือนายศิวรักษ์อาจถูกลวงให้ทำการนี้หรือจะเป็นเพราะความคิดของนายศิวรักษ์เองที่อยากรู้เรื่องนี้แล้วบอกกับทางการไทย หรือนายคำรบรู้เห็นเป็นใจด้วย แต่เพราะว่าทักษิณเป็นผู้ต้องโทษคดีอาญา จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องสืบให้รู้เห็นการเคลื่อนไหวของผู้ต้องคดีอาญาในราชอาณาจักรไทยแต่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ จึงเป็นการสมควรแล้ว
แต่ถ้ารัฐบาลไทยต้องการติดตามการเคลื่อนไหวของทักษิณในฐานะผู้ร้ายคดีอาญาในประเทศก็กระทำได้หลายวิธี แม้กระทั่งการใช้การดักฟังการติดต่อสื่อสาร หรือการดักสัญญาณคลื่นวิทยุแสดงตัวของเครื่องบินของเขาก็กระทำได้ ถึงแม้ว่านักบินของทักษิณจะใช้ระบบ Block Flight Plan ก็ตาม ที่ข้อมูลทั้งหมดของเครื่องบินเขาถูกปิดเป็นความลับ ข้อมูลในแผนการบินนั้นเป็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องบินเส้นทางบิน เวลาบิน มาจากไหนจะไปไหน ใครเป็นนักบิน ผู้โดยสารกี่คนเป็นต้น
โดยในสหรัฐฯ นั้นมีบริษัทที่รับจ้างจัดทำแผนการบินให้เป็นความลับโดยมีเว็บไซต์ที่ FltPlan.com ซึ่งจะประสานกับ FAA หรือองค์การบินพลเรือนของสหรัฐฯ หรือองค์การบินพลเรือนสากลแห่งองค์การสหประชาชาติที่จะเก็บข้อมูลการบินเป็นความลับ โดยสมาคมการบินทางธุรกิจหรือ National Business Aviation Association สามารถกระทำการปกปิดข้อมูลการบินขององค์การธุรกิจได้เพื่อกันไม่ให้ผู้สื่อข่าว บริษัทคู่แข่ง ผู้ก่อการร้าย พนัการบริษัทของตัวเอง พนักงานบริษัทหัวรุนแรงที่มีปัญหา เช่น สหภาพ เจ้าหน้าที่ธนาคาร และเจ้าหน้าที่รัฐได้ล่วงรู้เพื่อความลับของการเคลื่อนไหวของบริษัท โดยเฉพาะชาติที่มีธุรกิจแข่งขันกันอย่างรุนแรง และมีศัตรูมากทำให้องค์การบินพลเรือนยอมรับระบบปกปิดข้อมูลทะเบียนเครื่องบินเรียกว่า Block Aircraft Registration Request
แต่สัญญาณวิทยุสำแดงตัวของเครื่องบินต้องยังคงต้องเปิดอยู่ หรือระบบป้องกันการบินชนกันในอากาศยังต้องเปิดอยู่ หรือถ้ารัฐบาลจะทำจารกรรมโดยตรงแล้วก็กระทำได้ด้วยการดักคลื่นสัญญาณเหล่านี้ โดยรอบน่านฟ้าไทยก็จะรู้ข้อมูลการบินของทุกเที่ยวบินในเขตการแจ้งข้อมูลการบินหรือ Flight Information Region
ดังนั้นแผนการนี้จึงเป็นเรื่องที่สามารถโยงกันเป็นละครฉากใหญ่ได้ เพราะตามปกตินักบินเครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ คงจะต้องใช้ระบบ BARR อย่างแน่นอนเพื่อรักษาความลับของทักษิณ แต่การลงสนามนั้นคงจะปกปิดไม่ได้ จึงเป็นจุดอ่อนของระบบ BARR ทำให้ศิวรักษ์เห็นช่องทางในละครบทนี้
แต่ละครฉากสำคัญคือ การขอพระราชทานอภัยโทษจากพระมหากษัตริย์เขมร โดยมารดาของศิวรักษ์เอง ซึ่งทางญาติของทักษิณสามารถใช้กลยุทธ์นี้มาประยุกต์โดยผ่านทางราชวงศ์กัมพูชาหรือรัฐบาลกัมพูชาโดยมีญาติทักษิณร้องขอพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยให้กับทักษิณ โดยผ่านกลุ่มพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่จะใช้กระบวนการพิธีการต่างประเทศแล้วเข้าระบบการขอพระราชทานอภัยโทษตามที่กระทรวงยุติธรรมเคยแถลงไว้
ในสถานการณ์นี้เป็นเรื่องสถานการณ์สมมติอันเป็นเรื่องปกติที่นักยุทธศาสตร์ทุกคนรู้ดีว่า การเขียน Scenario ที่ครอบคลุม และมีเป้าประสงค์ในอนาคตที่ชัดเจนแล้วจะสร้างความสำเร็จได้
มีเรื่องกลยุทธ์เกี่ยวกับ Scenario เขียนโดย ดร.แลรี่ เกรกอรี่ (Dr.Larry Gregory) และดร.แอนน์ ดูแวน (Dr.Anne Duran) แห่งภาควิชาจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยนิวแมกซิโกในสหรัฐฯ เรื่อง Scenario and Acceptance of forecasts) หรือสถานการณ์สมมติและการพยากรณ์
ดังนั้นทุกเรื่อง ทุกตอนของกรณีศิวรักษ์นั้น ถูกเขียนไว้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผลควรจะเป็นอย่างไร เราจึงต้องเฝ้าติดตามและรู้เท่าทันความคิดของคนเหล่านั้น
