ASTV ผู้จัดการรายวัน-สหภาพฯ การบินไทย ยื่น “โสภณ-กรณ์” ไล่บอร์ดฉาวพ้นตำแหน่ง หลังใช้สิทธิ์บินญี่ปุ่น และขนกระเป๋าสินค้าหนีภาษี ด้าน “โสภณ” ยันไม่แทรกแซง ปล่อยให้จัดการกันเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ยื่นหนังสือถึงนายนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาตามอำนาจของฝ่ายกำกับนโยบาย เพื่อให้กรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม ขาดจริยธรรมและจรรยาบรรณ พ้นจากกรรมการบริษัท หลังจากมีกรณีใบปลิวแจกทั่วบริษัท ระบุถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการบริษัทรายหนึ่ง ที่ใช้สิทธิพิเศษตั๋วโดยสารเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อมภรรยาและมีการขนสัมภาระกลับประเทศไทยน้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม โดยไม่มีปัญหาในขั้นตอนการผ่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยกระเป๋าถูกลำเลียงผ่านไปยังหน่วยงาน Lost and Found (LL) เพื่อเลี่ยงภาษี
ทั้งนี้ สหภาพฯ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง ทั้งรายชื่อและการ Load สัมภาระที่มีจำนวนมากเกินปกติ และเมื่อข่าวออกสู่สาธารณชน ทำให้บริษัทได้รับความเสื่อมเสีย และพนักงานหมดศรัทธาและความเชื่อถือต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีปัญหาในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการได้
นายโสภณกล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นไปยังนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย ได้รับการยืนยันว่า กระเป๋าได้ผ่านขั้นตอนอย่างถูกต้อง และน้ำหนักที่เกินก็ไม่ได้นำขึ้นมา และยืนยันว่าไม่ได้มีการหลีกเลี่ยงภาษี อย่างไรก็ตาม จะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก บริษัทได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
“เรื่องนี้ใครถูกกล่าวหาก็ต้องชี้แจง ส่วนบริษัทการบินไทยก็ต้องตรวจสอบ ผมจะไม่ปกป้องใคร แต่ตอนนี้ จะบอกว่าผิดหรือถูกยังไม่ได้ เพราะยังเป็นการกล่าวหา และสอบถามไปเบื้องต้นก็ยืนยันว่าถูกต้อง”นายโสภณกล่าว
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ การบินไทยกล่าวว่า วานนี้ (8 ธ.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งมีผู้แทนจากฝ่ายบริหาร 3 คนและฝ่ายสหภาพฯ 3 คนได้ประชุมร่วมกัน โดยได้กำหนดกรอบการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยจะนำข้อกฎหมายและระเบียบของบริษัทกรณีการเช็คอินสิทธิในการ Load สัมภาระ น้ำหนักที่ได้รับ ของผู้โดยสารที่นั่งชั้น First Class ตามปกติ ว่าระเบียบกำหนดไว้อย่างไร เพทื่อนำมาเป็นข้อมูลว่า กรรมการคนดังกล่าวมีการกระทำผิดอย่างไร และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 14 ธ.ค.
“การตรวจสอบครั้งนี้จะต้องเกิดความชัดเจนว่า มีการกระทำผิดอย่างไร และผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับพนักงานเนื่องจากกรรมการเป็นผู้บริหารบริษัทแต่กระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมและผิดระเบียบบริษัทเสียเอง”นางแจ่มศรีกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ยื่นหนังสือถึงนายนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาตามอำนาจของฝ่ายกำกับนโยบาย เพื่อให้กรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม ขาดจริยธรรมและจรรยาบรรณ พ้นจากกรรมการบริษัท หลังจากมีกรณีใบปลิวแจกทั่วบริษัท ระบุถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการบริษัทรายหนึ่ง ที่ใช้สิทธิพิเศษตั๋วโดยสารเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อมภรรยาและมีการขนสัมภาระกลับประเทศไทยน้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม โดยไม่มีปัญหาในขั้นตอนการผ่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยกระเป๋าถูกลำเลียงผ่านไปยังหน่วยงาน Lost and Found (LL) เพื่อเลี่ยงภาษี
ทั้งนี้ สหภาพฯ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง ทั้งรายชื่อและการ Load สัมภาระที่มีจำนวนมากเกินปกติ และเมื่อข่าวออกสู่สาธารณชน ทำให้บริษัทได้รับความเสื่อมเสีย และพนักงานหมดศรัทธาและความเชื่อถือต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีปัญหาในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการได้
นายโสภณกล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นไปยังนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย ได้รับการยืนยันว่า กระเป๋าได้ผ่านขั้นตอนอย่างถูกต้อง และน้ำหนักที่เกินก็ไม่ได้นำขึ้นมา และยืนยันว่าไม่ได้มีการหลีกเลี่ยงภาษี อย่างไรก็ตาม จะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก บริษัทได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
“เรื่องนี้ใครถูกกล่าวหาก็ต้องชี้แจง ส่วนบริษัทการบินไทยก็ต้องตรวจสอบ ผมจะไม่ปกป้องใคร แต่ตอนนี้ จะบอกว่าผิดหรือถูกยังไม่ได้ เพราะยังเป็นการกล่าวหา และสอบถามไปเบื้องต้นก็ยืนยันว่าถูกต้อง”นายโสภณกล่าว
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ การบินไทยกล่าวว่า วานนี้ (8 ธ.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งมีผู้แทนจากฝ่ายบริหาร 3 คนและฝ่ายสหภาพฯ 3 คนได้ประชุมร่วมกัน โดยได้กำหนดกรอบการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยจะนำข้อกฎหมายและระเบียบของบริษัทกรณีการเช็คอินสิทธิในการ Load สัมภาระ น้ำหนักที่ได้รับ ของผู้โดยสารที่นั่งชั้น First Class ตามปกติ ว่าระเบียบกำหนดไว้อย่างไร เพทื่อนำมาเป็นข้อมูลว่า กรรมการคนดังกล่าวมีการกระทำผิดอย่างไร และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 14 ธ.ค.
“การตรวจสอบครั้งนี้จะต้องเกิดความชัดเจนว่า มีการกระทำผิดอย่างไร และผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับพนักงานเนื่องจากกรรมการเป็นผู้บริหารบริษัทแต่กระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมและผิดระเบียบบริษัทเสียเอง”นางแจ่มศรีกล่าว
