นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ปรับ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรมออกจาก ครม. ว่า เป็นความเห็นของ ส.ส.แต่ละคน เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนคนดูมวย แล้วรู้สึกว่านักมวยชกไม่ถูกใจ
ผมยืนยันว่า รัฐมนตรีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นคนที่ทำงานได้ดี และงานที่ทำ เป็นเรื่องยาก ทำแล้วคนไม่ค่อยเห็น โดยเฉพาะนายวีระชัย ต้องรับผิดชอบเรื่องสำคัญ คือ ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ และมีส่วนแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว และค้าขาย ไม่ใช่เพราะเป็นนายทุนพรรค
นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องปรับ ครม.เพราะยังไม่มีใครทำงานบกพร่อง หรือประพฤติตัวเสียหาย อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการโต้แย้งกับสมาชิกพรรค หรือกลุ่มการเมืองที่มีความเห็นตรงกันข้าม แต่ยินดีที่จะไปชี้แจงในพรรค เพราะคิดว่าการทำงานของรัฐบาลจะต้องต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสำเร็จ ยกเว้นเกิดข้อผิดพลาด หรือข้อบกพร่อง มีการทุจริต คอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มีเรื่องเหล่านี้
ไม่ว่าหลังหรือก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรจะมีการปรับ ครม. เพราะการปรับ ครม.ต้องมีเหตุผล ก่อนตั้งรัฐบาลได้คำนึงแล้วว่าใครเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ในการบริหารราชการบ้านเมืองตามนโยบายรัฐบาล และมาถึงวันนี้ยังไม่เห็นมี ครม.ขาดความเหมาะสมอย่างไร หรือมีปัญหาอะไร จึงไม่จำเป็นต้องปรับ ถ้าให้ ครม.ทำงานต่อไปจะได้สานต่อตามนโยบายรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า พร้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน การเป็น เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ส่วนการทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาล เมื่อเริ่มตั้งคณะรัฐมนตรีแรก ๆ คนในพรรคก็ชื่นชม เพราะรู้ว่าการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องยาก เมื่อทำได้ คนก็ชื่นชม ภูมิใจ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไป จากผู้จัดการรัฐบาล ทำท่าจะกลายเป็นคนทำนั่งร้าน
ผมไม่ได้น้อยใจ ผมตระหนักว่า การทำหน้าที่ของผมครั้งนี้ ทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อบ้านเมืองและประชาชน งานที่ทำไม่ใช่งานที่มีอำนาจวาสนา ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด กระทรวงหนึ่ง แต่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่ลอยมากๆ ทำงานสารพัด เป้าหมายคือ ทำบ้านเมืองมั่นคงให้ได้ตามพระราชดำรัสของพระบาทพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมสละเก้าอี้ เพื่อเปิดทางให้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทน นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.สนั่น ไม่ได้อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์.
เสธ.หนั่นเฉ่งบุญยอดจุ้น
ด้านพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าตนไม่ได้บอกว่าจะมอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้บุตรชาย แต่นักข่าวถามมาว่าอายุได้เป็นรัฐมนตรีได้แล้วหรือ การพิจารณารัฐมนตรีมันต้องเป็น เรื่องของพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ แต่ก็คงยังไม่มีการปรรับ ครม. ถ้าจะปรับทางพรรคประชาธิปัตย์จะต้องบอกมา
ต้องรอสัญญาณจากนายกฯก่อน แต่เดือนนี้ทุกคนทราบว่าไม่มีการปรับ ส่วนจะปรับเมื่อไหร่ไม่ทราบ ต้องให้พรรคประชาธิปัตย์แจ้งไปก่อน ทางพรรคเราจึงจะประชุมหาข้อยุติ
ส่วนที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้คืน เก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ให้พรรคประชาธิปัตย์ หากลาออก พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สุดแล้วแต่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเขาเป็นแกนนำ เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมให้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวทันทีว่า ก็พูดอย่างนายบุญยอด ก็พูดได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการหารือกันหรือไม่ว่า หากตำแหน่งรองนายกฯยังอยู่ทาง พรรคชาติไทยพัฒนาอาจจะนั่งควบ รมว.การท่องเที่ยวฯด้วย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ตนคิดว่าของใครก็ของมัน อย่ามาก้าวก่าย ตนไม่ใช่ไม่เคยเป็นผู้จักการรัฐบาล เป็นในขณะที่มีความยุ่งยากด้วย
เชื่อผู้ใหญ่ปชป.ไม่ได้ไฟเขียว
ส่วนที่นายบุญยอดออกมาพูดเช่นนี้เพราะผู้ใหญ่ให้ไฟเขียวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าไม่มีหรอกในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน คิดว่า 99 % ให้ความเคารพนับถือตน มีความเชื่อมั่นเพราะสร้างประชาธิปัตย์มาด้วยกัน แต่นายบุญยอดเพิ่งเข้ามา อย่าไปถือสาหาความเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่จะปรับ ครม.หรือยังนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ต้องไป ถามนายกรัฐมนตรีดีกว่า ถ้าถามตน อยากให้ปรับอยู่แล้ว เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรไปถึง พรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมาพูดเรื่องนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงไม่ฝากไป แต่คงต้องขอ คารวะท่านไปหลายๆ จอก ให้ไวน์หลายๆ จอก
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าแกนนำพรรคร่วมจะพูดคุยหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ทราบ ถ้าปรับอะไรก็ต้องคุยกันก่อน ต่อข้อถาม ที่ว่า ถ้านายกฯอยากให้อยู่ต่อ พล.ต.สนั่น กล่าวทีเล่นทีจริงว่า
ผมอยู่ให้บุญยอดออกงั้นหรือ อย่าไปเล่นกับเด็กเลย ให้ไป 3-4 จอกแล้ว ถ้าจะปรับ ครม.เขาคงแจ้งไปให้ทุกพรรคทราบ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะปรับ ส่วนที่นายกฯยืนยันว่าจะปรับตำแหน่งเดียว เจตนารมณ์ของพรรคร่วมเขาต้องถามก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่พูดว่าถ้าท่านอยู่นายบุญยอดต้องไปหมายความว่าอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า แหม!เขาเพิ่งเกิดมาพรรษาเดียว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เขาใหญ่แล้ว ผมมันตัวเล็กๆ ส่วนที่มองในสายตาของนักการเมืองมอว่า นาย ศิริวัฒน์ เป็นผู้แทนมา 3 สมัย จบเมืองนอกมาถ้าทำงานไม่ได้ก็คงไม่เป็นอย่างงี้
ต่อข้อถามว่าแสดงว่า อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ใช่ แต่ไม่ใช่ว่าพรรคจะเอานายศิริวัฒน์ ยังไม่ได้ประชุม อย่างไรก็ตาม พรรคเขารู้ของเขาเอง เป็นโควตาของพรรคจะเลือกเอาใครมาเป็นรัฐมนตรี ไม่โกรธหรอกถ้าไม่ได้เลือกนายศิริวัฒน์
ส่วนที่นายบุญยอด เสนอให้ปรับนายวีระชัย วีระเมธีกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเพราะ 1 ปีน่าจะเพียงพอในการชดใช้บุญคุณผู้ที่เป็นนายทุน พรรคแล้ว พล.ต.สนั่น ร้องเสียงหลงว่า โหย! นั่นเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ผมไม่รู้เรื่องเขาหรอก อย่าจับแพะมาชนแกะ ไม่งั้นชนกันตาย ผมเห็นว่า พรรคใครก็พรรคมัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เคยเป็นผู้จัดการรัฐบาลมองว่า สถานการณ์ประเทศแบบนี้ควรจะได้คนแบบไหน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก เอาคนที่ทำงานได้ สุจริต อย่าทุจริตเป็นใช้ได้ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาแล้วรู้ทันที ต้องศึกษา เพราะฐานการศึกษาเป็นพื้นฐานต่อการบริหารประเทศไทย
งอนไม่ร่วมโต๊ะกินข้าวกับนายกฯ
แหล่งข่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นประชุม ครม. ในช่วงการรับประทานอาหารกลางวันปรากฏว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างเช่นเคย โดยพล.ต.สนั่น ได้ไปร่วมโต๊ะกินข้าวกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่อยู่อีกห้องแทน ซึ่งการประชุม ครม.ทุกครั้งที่ผ่านมา พล.ต.สนั่นจะร่วมรับประทหารอาหารร่วมกับนายกฯและรัฐมนตรีทุกครั้งเนื่องจาก พล.ต.สนั่น ไม่พอใจบทสัมภาษณ์ของนายบุญยอด ที่ลามปามมาถึงตน ทำให้ พล.ต.สนั่นให้สัมภาษณ์ตอบโต้อย่างรุนแรง
บุญยอดโต้ไม่ได้ลามปามผู้ใหญ่
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่เป็นไรที่ พล.ต.สนั่นในฐานะผู้ใหญ่กว่าต่อว่าและตำหนิตนว่าก่อนพรรษากว่า แต่ตนเหนือกว่า ลูกชายของ พล.ต.สนั่น โดยเฉพาะอายุที่มากกว่า ซึ่งตนอายุ 44 ปีแล้ว และรับรองว่าคนรู้จักตนมากกว่าบุตรชาย พล.ต.สนั่น แน่ ทั้งนี้สิ่งที่ตนวิจารณ์ไปทั้งหมด ไม่ใช่เป็นการลามปามผู้ใหญ่ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่านักการเมืองรุ่นเก่า จะมายกตำแหน่งให้กันเหมือนสมบัติผลัดกันชมไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อข่าวออกไปแล้วถูกผู้ใหญ่ในพรรคตำหนิหรือไม่ นายบุญยอด กล่าวว่า ไม่มีใครตำหนิ เพราะสิ่งที่ตนพูดไปนั้นถือเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ในนาม รองโฆษกพรรค ส่วนเรื่องของรัฐบาล ก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้โอกาส เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ หากตั้งมาแล้วไม่ดีก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ชวรัตน์ไม่ปรับครม.ของภท.
นาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยังไม่มีนโยบายปรับครม. เท่าที่ประเมินทุกคนยังทำงานเข้าเกณฑ์ เชื่อว่าสอบผ่าน และก็ยังไม่เคยได้ยินว่านายกฯจะปรับ ครม. อาจมีการปรับในส่วนของรองนายกฯ แต่พรรคเราไม่มีตำแหน่งรองนายกฯให้ปรับ ถ้าแลกส้ม ก็ต้องแลกกับส้ม เอาแอปเปิ้ลไปแลกกับส้มเขาก็ไม่ยอม
ที่บอกว่าโผลอยากให้ปรับ ก็อยากถามว่าชาวบ้านคนไหนอยากให้ปรับ คนที่มาเป็นรัฐมนตรีได้ต้องผ่านการเลือกตั้งมา ชาวบ้านต้องเชื่อและมีความมั่นใจในตัวรัฐมนตรีอยู่แล้ว ถ้าชาวบ้านอยากให้ปรับ ยังฟังไม่ขึ้น
เทพไทติงลูกทีมปชป.ระวังความเห็น
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาสวมบทเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกในพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการปรับ ครม.นั้น เชื่อว่าไม่สามารถสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีวินัยเคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเองก็รับฟังความเห็นของ สมาชิกพรรค และที่ระบุว่าคนในพรรคไม่พอใจบทบาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ไม่เป็นความจริง
ผมเชื่อว่าส.ส.ทุกคนในพรรคยังให้ความเคารพต่อท่านสุเทพ เพราะเชื่อว่า ถ้าไม่มีท่านสุเทพก็คงไม่มีรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และที่ระบุว่า ถ้าปรับ ครม.แล้วไม่ดี เก้าอี้ของผู้จัดการรัฐบาลจะร้อนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้อำนาจการตัดสินใจสูงสุดในการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯคนเดียว แต่ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ นายกฯก็จะประสานกับผู้จัดการรัฐบาล อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้นขอใฟ้ส.ส.พรรคทุกคนพึงระวังการแสดงความเห็น ผ่านสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะอาจจะเป็นเงื่อนไขที่ถูกนำไปขยายผล ของบางฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อรัฐบาลได้ และเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของคนไทย ที่อยากจะเห็นรัฐบาลชุดนี้นำพาชาติฝ่าวิกฤตปัญหาไปให้ได้
พท.อย่าฝันหวานคิดว่าจะชนะเลือกตั้ง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุโดยอ้างผลการสำรวจโพลล์ของพรรคว่า หากมีการยุบสภาพรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส. 300 เสียงนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ตนอยาก ถามว่าผลโพลล์ดังกล่าวมีการสำรวจจริงหรือไม่ หรือแค่เป็นการมั่วนั่งเทียนของคน ในพรรคเพียงไม่กี่คน ขอให้กลับไปถามสมาชิกพรรคของตัวเองก่อนว่าพร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้งหริอไม่ เพราะหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ในไทม์ ออนไลน์จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงขั้นรุนแรง สมคบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของ กัมพูชาทรยศต่อชาติ ถามคนไทยทั้งชาติว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนไทยในภาคอีสานต่างบอกว่ารับไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมจาบจ้วง เป็นอาจิณ และการเข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ของรัฐาลกัมพูชาก็เป็นการเผยธาตุแท้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าแค่ละประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของชาติไทย
ผมจึงไม่อยากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยฝันหวานไปถึงการยุบสภา ซึ่งอาจ เกิดขึ้นได้ ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองจำเป็นต้องให้รัฐบาลตัดสินใจเช่นนั้น แต่รัฐบาลจะไม่ยึดเอาผลสำรวจโพลหรือการได้เปรียบทางการเมืองมาเป็นเงื่อนไขในการ ยุบสภา เพราะนายกฯประกาศชัดเจนแล้วว่า ยุบสภาก็ต่อเมื่อ 3 เงื่อนไขมีความพร้อม คือ รัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจไทยดีขึ้นและสามารถจัดการปัญหาลดความ แตกแยกในสังคมไทยลงได้ จนถึงวันนี้เชื่อว่ารัฐบาลยังมีความสามารถบริการประเทศได้ และผลงานของรัฐบาลก็ปรากฏเป็นที่ยอมรับของประชาชนโดยลำดับ เมื่อ พรร คเพื่อไทยชอบอ้างผลโพลมาโม้โอ้อวด ผมก็อยากให้กลับไปดูผลโพลที่คนไทยร้อยละ 60 อยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่บริหารประเทศต่อ พร้อมทั้งดูดัชนีความสุขของคนไทยทั้งชาติ ที่ล่าสุดเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และช่วยกลับไปบอกให้คนเสื้อแดง ซึ่งเป็น แนวร่วมเดียวกัน ให้ยุติการชุมนุมเพราะผลโพลล์ออกมาว่า ไม่ต้องการให้คนเสื้อแดง มาป่วน ก่อกวนบรรยากาศช่วงความสุขของคนไทยอีกต่อไป
พท.ท้าย่าปรับครม.หนี้ซักฟอก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรควิเคราะห์ถึงการปรับครม.ว่า รัฐบาลจะปรับครม.อย่างแน่นอน เนื่องจากกระแสต่างๆ บีบให้ต้องดำเนินการ พรรคเพื่อไทย จึงขอท้าว่า อย่าปรับครม.เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รอให้การอภิปรายผ่านพ้น ไปก่อนค่อยทำการปรับครม.
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะแถลงผลการตรวจสอบรัฐบาลหลังบริหารประเทศมาแล้ว 1 ปี ในวันที่ 21 ธ.ค. ก่อนที่รัฐบาลจะทำการแถลงผลงานในวันที่ 23 ธ.ค. โดยจะแจกแจงการทุจริตโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการชุมชนพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง โครงการต้นกล้าอาชีพที่ต้องยกเลิกไป และการทุจริตในกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ นอกจากนี้จะให้คะแนนรัฐมนตรีด้วยว่าใครสอบได้ใครสอบตก ใครเป็นรัฐมนตรีลืมโลก และใครที่เป็นรัฐมนตรีโลกลืม
ผมยืนยันว่า รัฐมนตรีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นคนที่ทำงานได้ดี และงานที่ทำ เป็นเรื่องยาก ทำแล้วคนไม่ค่อยเห็น โดยเฉพาะนายวีระชัย ต้องรับผิดชอบเรื่องสำคัญ คือ ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ และมีส่วนแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว และค้าขาย ไม่ใช่เพราะเป็นนายทุนพรรค
นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องปรับ ครม.เพราะยังไม่มีใครทำงานบกพร่อง หรือประพฤติตัวเสียหาย อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการโต้แย้งกับสมาชิกพรรค หรือกลุ่มการเมืองที่มีความเห็นตรงกันข้าม แต่ยินดีที่จะไปชี้แจงในพรรค เพราะคิดว่าการทำงานของรัฐบาลจะต้องต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสำเร็จ ยกเว้นเกิดข้อผิดพลาด หรือข้อบกพร่อง มีการทุจริต คอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มีเรื่องเหล่านี้
ไม่ว่าหลังหรือก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรจะมีการปรับ ครม. เพราะการปรับ ครม.ต้องมีเหตุผล ก่อนตั้งรัฐบาลได้คำนึงแล้วว่าใครเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ในการบริหารราชการบ้านเมืองตามนโยบายรัฐบาล และมาถึงวันนี้ยังไม่เห็นมี ครม.ขาดความเหมาะสมอย่างไร หรือมีปัญหาอะไร จึงไม่จำเป็นต้องปรับ ถ้าให้ ครม.ทำงานต่อไปจะได้สานต่อตามนโยบายรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า พร้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน การเป็น เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ส่วนการทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาล เมื่อเริ่มตั้งคณะรัฐมนตรีแรก ๆ คนในพรรคก็ชื่นชม เพราะรู้ว่าการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องยาก เมื่อทำได้ คนก็ชื่นชม ภูมิใจ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไป จากผู้จัดการรัฐบาล ทำท่าจะกลายเป็นคนทำนั่งร้าน
ผมไม่ได้น้อยใจ ผมตระหนักว่า การทำหน้าที่ของผมครั้งนี้ ทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อบ้านเมืองและประชาชน งานที่ทำไม่ใช่งานที่มีอำนาจวาสนา ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด กระทรวงหนึ่ง แต่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่ลอยมากๆ ทำงานสารพัด เป้าหมายคือ ทำบ้านเมืองมั่นคงให้ได้ตามพระราชดำรัสของพระบาทพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมสละเก้าอี้ เพื่อเปิดทางให้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทน นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.สนั่น ไม่ได้อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์.
เสธ.หนั่นเฉ่งบุญยอดจุ้น
ด้านพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าตนไม่ได้บอกว่าจะมอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้บุตรชาย แต่นักข่าวถามมาว่าอายุได้เป็นรัฐมนตรีได้แล้วหรือ การพิจารณารัฐมนตรีมันต้องเป็น เรื่องของพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ แต่ก็คงยังไม่มีการปรรับ ครม. ถ้าจะปรับทางพรรคประชาธิปัตย์จะต้องบอกมา
ต้องรอสัญญาณจากนายกฯก่อน แต่เดือนนี้ทุกคนทราบว่าไม่มีการปรับ ส่วนจะปรับเมื่อไหร่ไม่ทราบ ต้องให้พรรคประชาธิปัตย์แจ้งไปก่อน ทางพรรคเราจึงจะประชุมหาข้อยุติ
ส่วนที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้คืน เก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ให้พรรคประชาธิปัตย์ หากลาออก พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สุดแล้วแต่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเขาเป็นแกนนำ เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมให้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวทันทีว่า ก็พูดอย่างนายบุญยอด ก็พูดได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการหารือกันหรือไม่ว่า หากตำแหน่งรองนายกฯยังอยู่ทาง พรรคชาติไทยพัฒนาอาจจะนั่งควบ รมว.การท่องเที่ยวฯด้วย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ตนคิดว่าของใครก็ของมัน อย่ามาก้าวก่าย ตนไม่ใช่ไม่เคยเป็นผู้จักการรัฐบาล เป็นในขณะที่มีความยุ่งยากด้วย
เชื่อผู้ใหญ่ปชป.ไม่ได้ไฟเขียว
ส่วนที่นายบุญยอดออกมาพูดเช่นนี้เพราะผู้ใหญ่ให้ไฟเขียวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าไม่มีหรอกในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน คิดว่า 99 % ให้ความเคารพนับถือตน มีความเชื่อมั่นเพราะสร้างประชาธิปัตย์มาด้วยกัน แต่นายบุญยอดเพิ่งเข้ามา อย่าไปถือสาหาความเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่จะปรับ ครม.หรือยังนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ต้องไป ถามนายกรัฐมนตรีดีกว่า ถ้าถามตน อยากให้ปรับอยู่แล้ว เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรไปถึง พรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมาพูดเรื่องนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงไม่ฝากไป แต่คงต้องขอ คารวะท่านไปหลายๆ จอก ให้ไวน์หลายๆ จอก
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าแกนนำพรรคร่วมจะพูดคุยหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ทราบ ถ้าปรับอะไรก็ต้องคุยกันก่อน ต่อข้อถาม ที่ว่า ถ้านายกฯอยากให้อยู่ต่อ พล.ต.สนั่น กล่าวทีเล่นทีจริงว่า
ผมอยู่ให้บุญยอดออกงั้นหรือ อย่าไปเล่นกับเด็กเลย ให้ไป 3-4 จอกแล้ว ถ้าจะปรับ ครม.เขาคงแจ้งไปให้ทุกพรรคทราบ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะปรับ ส่วนที่นายกฯยืนยันว่าจะปรับตำแหน่งเดียว เจตนารมณ์ของพรรคร่วมเขาต้องถามก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่พูดว่าถ้าท่านอยู่นายบุญยอดต้องไปหมายความว่าอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า แหม!เขาเพิ่งเกิดมาพรรษาเดียว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เขาใหญ่แล้ว ผมมันตัวเล็กๆ ส่วนที่มองในสายตาของนักการเมืองมอว่า นาย ศิริวัฒน์ เป็นผู้แทนมา 3 สมัย จบเมืองนอกมาถ้าทำงานไม่ได้ก็คงไม่เป็นอย่างงี้
ต่อข้อถามว่าแสดงว่า อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ใช่ แต่ไม่ใช่ว่าพรรคจะเอานายศิริวัฒน์ ยังไม่ได้ประชุม อย่างไรก็ตาม พรรคเขารู้ของเขาเอง เป็นโควตาของพรรคจะเลือกเอาใครมาเป็นรัฐมนตรี ไม่โกรธหรอกถ้าไม่ได้เลือกนายศิริวัฒน์
ส่วนที่นายบุญยอด เสนอให้ปรับนายวีระชัย วีระเมธีกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเพราะ 1 ปีน่าจะเพียงพอในการชดใช้บุญคุณผู้ที่เป็นนายทุน พรรคแล้ว พล.ต.สนั่น ร้องเสียงหลงว่า โหย! นั่นเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ผมไม่รู้เรื่องเขาหรอก อย่าจับแพะมาชนแกะ ไม่งั้นชนกันตาย ผมเห็นว่า พรรคใครก็พรรคมัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เคยเป็นผู้จัดการรัฐบาลมองว่า สถานการณ์ประเทศแบบนี้ควรจะได้คนแบบไหน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก เอาคนที่ทำงานได้ สุจริต อย่าทุจริตเป็นใช้ได้ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาแล้วรู้ทันที ต้องศึกษา เพราะฐานการศึกษาเป็นพื้นฐานต่อการบริหารประเทศไทย
งอนไม่ร่วมโต๊ะกินข้าวกับนายกฯ
แหล่งข่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นประชุม ครม. ในช่วงการรับประทานอาหารกลางวันปรากฏว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างเช่นเคย โดยพล.ต.สนั่น ได้ไปร่วมโต๊ะกินข้าวกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่อยู่อีกห้องแทน ซึ่งการประชุม ครม.ทุกครั้งที่ผ่านมา พล.ต.สนั่นจะร่วมรับประทหารอาหารร่วมกับนายกฯและรัฐมนตรีทุกครั้งเนื่องจาก พล.ต.สนั่น ไม่พอใจบทสัมภาษณ์ของนายบุญยอด ที่ลามปามมาถึงตน ทำให้ พล.ต.สนั่นให้สัมภาษณ์ตอบโต้อย่างรุนแรง
บุญยอดโต้ไม่ได้ลามปามผู้ใหญ่
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่เป็นไรที่ พล.ต.สนั่นในฐานะผู้ใหญ่กว่าต่อว่าและตำหนิตนว่าก่อนพรรษากว่า แต่ตนเหนือกว่า ลูกชายของ พล.ต.สนั่น โดยเฉพาะอายุที่มากกว่า ซึ่งตนอายุ 44 ปีแล้ว และรับรองว่าคนรู้จักตนมากกว่าบุตรชาย พล.ต.สนั่น แน่ ทั้งนี้สิ่งที่ตนวิจารณ์ไปทั้งหมด ไม่ใช่เป็นการลามปามผู้ใหญ่ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่านักการเมืองรุ่นเก่า จะมายกตำแหน่งให้กันเหมือนสมบัติผลัดกันชมไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อข่าวออกไปแล้วถูกผู้ใหญ่ในพรรคตำหนิหรือไม่ นายบุญยอด กล่าวว่า ไม่มีใครตำหนิ เพราะสิ่งที่ตนพูดไปนั้นถือเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ในนาม รองโฆษกพรรค ส่วนเรื่องของรัฐบาล ก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้โอกาส เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ หากตั้งมาแล้วไม่ดีก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ชวรัตน์ไม่ปรับครม.ของภท.
นาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยังไม่มีนโยบายปรับครม. เท่าที่ประเมินทุกคนยังทำงานเข้าเกณฑ์ เชื่อว่าสอบผ่าน และก็ยังไม่เคยได้ยินว่านายกฯจะปรับ ครม. อาจมีการปรับในส่วนของรองนายกฯ แต่พรรคเราไม่มีตำแหน่งรองนายกฯให้ปรับ ถ้าแลกส้ม ก็ต้องแลกกับส้ม เอาแอปเปิ้ลไปแลกกับส้มเขาก็ไม่ยอม
ที่บอกว่าโผลอยากให้ปรับ ก็อยากถามว่าชาวบ้านคนไหนอยากให้ปรับ คนที่มาเป็นรัฐมนตรีได้ต้องผ่านการเลือกตั้งมา ชาวบ้านต้องเชื่อและมีความมั่นใจในตัวรัฐมนตรีอยู่แล้ว ถ้าชาวบ้านอยากให้ปรับ ยังฟังไม่ขึ้น
เทพไทติงลูกทีมปชป.ระวังความเห็น
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาสวมบทเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกในพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการปรับ ครม.นั้น เชื่อว่าไม่สามารถสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีวินัยเคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเองก็รับฟังความเห็นของ สมาชิกพรรค และที่ระบุว่าคนในพรรคไม่พอใจบทบาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ไม่เป็นความจริง
ผมเชื่อว่าส.ส.ทุกคนในพรรคยังให้ความเคารพต่อท่านสุเทพ เพราะเชื่อว่า ถ้าไม่มีท่านสุเทพก็คงไม่มีรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และที่ระบุว่า ถ้าปรับ ครม.แล้วไม่ดี เก้าอี้ของผู้จัดการรัฐบาลจะร้อนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้อำนาจการตัดสินใจสูงสุดในการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯคนเดียว แต่ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ นายกฯก็จะประสานกับผู้จัดการรัฐบาล อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้นขอใฟ้ส.ส.พรรคทุกคนพึงระวังการแสดงความเห็น ผ่านสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะอาจจะเป็นเงื่อนไขที่ถูกนำไปขยายผล ของบางฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อรัฐบาลได้ และเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของคนไทย ที่อยากจะเห็นรัฐบาลชุดนี้นำพาชาติฝ่าวิกฤตปัญหาไปให้ได้
พท.อย่าฝันหวานคิดว่าจะชนะเลือกตั้ง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุโดยอ้างผลการสำรวจโพลล์ของพรรคว่า หากมีการยุบสภาพรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส. 300 เสียงนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ตนอยาก ถามว่าผลโพลล์ดังกล่าวมีการสำรวจจริงหรือไม่ หรือแค่เป็นการมั่วนั่งเทียนของคน ในพรรคเพียงไม่กี่คน ขอให้กลับไปถามสมาชิกพรรคของตัวเองก่อนว่าพร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้งหริอไม่ เพราะหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ในไทม์ ออนไลน์จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงขั้นรุนแรง สมคบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของ กัมพูชาทรยศต่อชาติ ถามคนไทยทั้งชาติว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนไทยในภาคอีสานต่างบอกว่ารับไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมจาบจ้วง เป็นอาจิณ และการเข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ของรัฐาลกัมพูชาก็เป็นการเผยธาตุแท้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าแค่ละประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของชาติไทย
ผมจึงไม่อยากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยฝันหวานไปถึงการยุบสภา ซึ่งอาจ เกิดขึ้นได้ ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองจำเป็นต้องให้รัฐบาลตัดสินใจเช่นนั้น แต่รัฐบาลจะไม่ยึดเอาผลสำรวจโพลหรือการได้เปรียบทางการเมืองมาเป็นเงื่อนไขในการ ยุบสภา เพราะนายกฯประกาศชัดเจนแล้วว่า ยุบสภาก็ต่อเมื่อ 3 เงื่อนไขมีความพร้อม คือ รัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจไทยดีขึ้นและสามารถจัดการปัญหาลดความ แตกแยกในสังคมไทยลงได้ จนถึงวันนี้เชื่อว่ารัฐบาลยังมีความสามารถบริการประเทศได้ และผลงานของรัฐบาลก็ปรากฏเป็นที่ยอมรับของประชาชนโดยลำดับ เมื่อ พรร คเพื่อไทยชอบอ้างผลโพลมาโม้โอ้อวด ผมก็อยากให้กลับไปดูผลโพลที่คนไทยร้อยละ 60 อยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่บริหารประเทศต่อ พร้อมทั้งดูดัชนีความสุขของคนไทยทั้งชาติ ที่ล่าสุดเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และช่วยกลับไปบอกให้คนเสื้อแดง ซึ่งเป็น แนวร่วมเดียวกัน ให้ยุติการชุมนุมเพราะผลโพลล์ออกมาว่า ไม่ต้องการให้คนเสื้อแดง มาป่วน ก่อกวนบรรยากาศช่วงความสุขของคนไทยอีกต่อไป
พท.ท้าย่าปรับครม.หนี้ซักฟอก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรควิเคราะห์ถึงการปรับครม.ว่า รัฐบาลจะปรับครม.อย่างแน่นอน เนื่องจากกระแสต่างๆ บีบให้ต้องดำเนินการ พรรคเพื่อไทย จึงขอท้าว่า อย่าปรับครม.เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รอให้การอภิปรายผ่านพ้น ไปก่อนค่อยทำการปรับครม.
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะแถลงผลการตรวจสอบรัฐบาลหลังบริหารประเทศมาแล้ว 1 ปี ในวันที่ 21 ธ.ค. ก่อนที่รัฐบาลจะทำการแถลงผลงานในวันที่ 23 ธ.ค. โดยจะแจกแจงการทุจริตโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการชุมชนพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง โครงการต้นกล้าอาชีพที่ต้องยกเลิกไป และการทุจริตในกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ นอกจากนี้จะให้คะแนนรัฐมนตรีด้วยว่าใครสอบได้ใครสอบตก ใครเป็นรัฐมนตรีลืมโลก และใครที่เป็นรัฐมนตรีโลกลืม
