การ “ถอย” ของกลุ่มเสื้อแดง พิสูจน์อีกครั้งว่า ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ “แดง” ในความหมายทางการเมืองฝ่ายซ้ายแต่ประการใด เพราะไม่ได้คิดและทำบนพื้นฐานการกำหนดของเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ ไม่เคารพประวัติศาสตร์ ไม่เริ่มจากความเป็นจริงของประเทศไทย ไม่คำนึงถึงลักษณะของยุคสมัย จึงต้อง “ถอย” โดยตลอด ทั้งๆ ที่พยายาม “บุก” มาโดยตลอด จากที่เคย “บุก” ใหญ่ กลายเป็น “ถอย” ใหญ่ และนับวันแต่จะต้องถอยๆๆ กระทั่งจนตรอก
ก็ในเมื่อคนที่พวกเขาเชิดชู เป็นนักการเมืองโกงกิน ประเภท “โคตรโกง” และ “โกงทั้งโคตร” แล้วจะมีสถานภาพอันใดที่จะเป็น “ตัวแทน” ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ เพราะในตัวเขาเองก็ตกยุคไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเสื้อแดงอ้างหลักวิวัฒนาการสังคมหยาบๆ โดยไม่เริ่มจากสภาพเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ดึงดันพามวลชนจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหว นัยว่าเพื่อ “โค่นล้มระบอบอำมาตย์” ซึ่งเป็นเพียงข้ออ้าง “ล่อเป้า” ให้มวลชนหลงทิศผิดทาง หันไปโจมตีสถาบันกษัตริย์ แทนการโจมตีกลุ่มทุนสามานย์ที่เป็นปัญหาปมเงื่อนของประเทศไทย
จึง “ฟันธง” ได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาของประเทศไทย แต่มุ่งแก้ปัญหาให้นักการเมือง “โคตรโกง” ของประเทศไทย
แม้จะอ้างถึงหลักทฤษฎีของปรมาจารย์ แต่ก็อ้างแบบผิดๆ เพราะไม่เริ่มจากความเป็นจริง เท่ากับหลอกตัวเอง หลอกมวลชน ร่วมกันทำในสิ่งที่ไม่เกิดมรรคผลใดๆ ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน
ถึงวันนี้ ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง นี่คือสัจธรรม แต่การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยจะต้องเกิดขึ้นบนฐานความเป็นจริงของประเทศไทย ในบริบทของสังคมโลกวันนี้
นั่นคือ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีการเมืองใหม่ มีการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ประชาชนชาวไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ต้องยอมรับว่า พัฒนาการของประเทศไทยในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา มีข้อเสียสำคัญอยู่อย่างหนึ่ง คือการใช้อำนาจบริหารประเทศโดยกลุ่มอำนาจต่างๆ หลักๆ ก็คือกลุ่มทหารและกลุ่มพ่อค้านายทุน ดำเนินมาอย่างฉ้อฉล เป็นส่วนเสริมให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการประพฤติมิชอบ ฉ้อราษฎร์บังหลวง กินกันมั่ว ทั้งตามน้ำและทวนน้ำเป็นอาจิณ จนเป็นเรื่อง “เลว” ปกติ ในสายตาประชาชน
ประเทศไทยจึงมีการพัฒนาแบบขาดวิ่น พัฒนาแต่เปลือกมาโดยตลอด สังคมไทยเต็มไปด้วยรูรั่ว ดุจยางรถที่แบบแบน คุณภาพประชากรตกต่ำ ทำให้ประเทศไทยเคลื่อนตัวไปได้อย่างยากเย็น พอเศรษฐกิจพองตัว ก็แตกเป็นฟองสบู่ ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะ “กลวง” ใน แม้เมื่อเริ่มต้นกันใหม่ ผู้ใช้อำนาจบริหารกลุ่มใหม่ (กลุ่มทุนในระบอบทักษิณ) ก็เห็นเป็นโอกาสผูกขาดประเทศไทย ใช้อำนาจฉ้อฉลครบวงจร สวนทางกับกระแสการเมืองเอเชียที่มุ่งไปสู่การเมืองสะอาด
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเสื้อแดงสนับสนุนนักการเมืองโกงกินอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในทางความคิดก็ผิดมาตั้งแต่เริ่มต้น แม้อ้างว่าต้องการอาศัยอำนาจการเมืองกลุ่มทุนสามานย์ล้มล้างระบอบอำมาตย์ ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงทางภววิสัยของประเทศไทย แก้ไม่ตรงจุด
เพราะ ณ วันนี้ ประเทศไทยไม่มีระบอบอำมาตย์ มีแต่กลุ่มทุนเก่ากับกลุ่มทุนใหม่ ที่ผลัดกันขึ้นใช้อำนาจบริหารประเทศแบบฉ้อฉล จัดอยู่ในปริมณฑลของอำนาจการเมืองเก่าที่จะต้องถูกล้างออกไปให้พ้นเส้นทางเดินของประเทศไทย เพื่อรัฐนาวาไทย หรือยานอวกาศรัฐไทย สามารถย้ายวงโคจร จากวงโคจรเดิมที่เป็นการเมืองเก่า ผู้ใช้อำนาจทุจริตโกงกินไปสู่วงโคจรใหม่ที่เป็นการเมืองใหม่ ผู้ใช้อำนาจสุจริต ไม่โกงไม่กิน “ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ ทำงานเป็น”
ทำได้เช่นนี้แล้วเท่านั้น ประเทศไทยจึงจะสามารถขับเคลื่อนตัวเองไปบนเส้นทาง (วรโคจร) ของการพัฒนาที่แท้จริง ประชาชนชาวไทยจึงจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า กลุ่มเสื้อแดงชูธง “ประชาธิปไตย” ไปต่อสู้กับ “ระบอบอำมาตย์” จึงเป็นการต่อสู้ที่พลาดเป้า เป็นความสูญเปล่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทยแต่ประการใด ตรงกันข้าม กลับเป็นอุปสรรคของการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง สร้างความสับสนในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนที่ยากจน ทั้งในเมืองและในชนบท
ทางที่ดี พวกเขาควรทบทวนตัวเอง แล้วปรับแนวคิดใหม่ ยึดเอาความเป็นจริงเป็นตัวตั้ง กำหนดเป้าหมายการต่อสู้ให้ถูกต้อง แล้วร่วมกับมวลมหาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่
ย้ำอีกทีกับคนเสื้อแดง (ที่มีอุดมการณ์) ว่า ณ วันนี้ ปัญหาประเทศไทย อยู่ที่กลุ่มการเมืองใช้อำนาจแบบฉ้อฉล ทุจริตโกงกิน เป็นต้นเหตุของการทุจริตคิดมิชอบในแวดวงราชการ และลามไปถึงวงการธุรกิจเอกชนที่ต้องดำเนินงานกับภาคราชการในแทบทุกมิติ ทำให้ประเทศไทยถูกหนอนทุจริตชอนไชไปทั่ว ไม่อยู่ในสภาพที่จะขับเคลื่อนตัวเองไปได้อีกต่อไป
ถ้าเปรียบเป็นเรือก็ผุโทรม จะจมมิจมแหล่
ถ้าเป็นยานอวกาศ ก็อยู่ในสภาวะเฉื่อยและช้าลงเรื่อยๆ ทำท่าจะหลุดจากวงโคจร ตกลงสู่พื้นโลกอยู่รอมร่อแล้ว
พวกเขาต้องตั้งโจทย์ใหม่แล้วว่า ปัญหาการใช้อำนาจแบบฉ้อฉล ทุจริตโกงกิน คือตัวปัญหาที่จะต้องแก้ไขให้ตกไป โดยการล้างอำนาจกลุ่มทุนสามานย์เป็นอันดับแรก หากมิใช่ร่วมมือกับกลุ่มทุนสามานย์ ทำลายล้างอำนาจกลุ่มทุนอื่นๆ แล้วยกกลุ่มทุนสามานย์ขึ้นเถลิงอำนาจ ผูกขาดประเทศไทยไปนานเท่านาน
กลุ่มทุนสามานย์ หมายถึงกลุ่มพ่อค้านายทุนที่ใช้อำนาจเงินเข้ายึดอำนาจการเมือง แล้วใช้อำนาจการเมืองขยายฐานอำนาจเงิน หมุนเวียนเป็นวงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่โดดเด่นก็คือกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณ
การคิดและทำที่ถูกต้อง จะปรากฏออกมาในรูปที่ทุกฝ่ายรวมพลังกันเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพลังมวลชนในภูมิภาคที่กำลังเคลื่อนไหวต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมทั้งหลายทั้งปวง โดยไม่แบ่งเขาแบ่งเรา ช่วยกันเข็นเรือให้พ้นสันดอน ช่วยกันปรับวงโคจรของยานอวกาศ “รัฐไทย” ให้เข้าสู่วงโคจรใหม่
นั่นคือ ทุกฝ่ายรวมพลังกันเข้า ต่อต้านการทุจริตโกงกินของนักการเมือง ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนใหม่หรือทุนเก่า ที่กำลังแสดงบทบาทเป็น “ทุนสามานย์”
หลักคิดชี้นำคือ แก้ให้ถูกจุด ทำให้ถูกทาง
มาบัดนี้ กลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แกนนำกลุ่มทุนสามานย์ กำลังอับจนกับการคิดและทำของตนเอง ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ ต้องหยุดแล้วคิดกันใหม่ ทำความเข้าใจในปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทย หันมาจับมือ รวมตัวกันเข้า ดำเนินการต่อสู้ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่ให้สำเร็จ ประเทศไทยจึงจะไปรอด และไปได้ดีเกินกว่าที่เราเคยจินตนาการ
ถึงตรงนี้ ต้องบอกคนเสื้อแดงที่หลงผิดอีกครั้งว่า ณ วันนี้ การแก้ไขปัญหาประเทศไทย คือการแก้ปัญหาทางการเมือง ด้วยการกำจัดการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่ มิใช่การแก้ปัญหาทางชนชั้น ที่ต้องแก้ด้วยการปฏิวัติทางชนชั้น
เพียงแก้ปัญหาทางการเมือง ประเทศไทยก็จะพลิกตัวเองจากความล้าหลัง ประชาชนลำบากยากจน ไปเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุขได้ในชั่วอึดใจ
ส่วนการแก้ไขปัญหาทางชนชั้น ก็ต้องรอให้เป็นหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของคนรุ่นต่อไป
ก็ในเมื่อคนที่พวกเขาเชิดชู เป็นนักการเมืองโกงกิน ประเภท “โคตรโกง” และ “โกงทั้งโคตร” แล้วจะมีสถานภาพอันใดที่จะเป็น “ตัวแทน” ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ เพราะในตัวเขาเองก็ตกยุคไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเสื้อแดงอ้างหลักวิวัฒนาการสังคมหยาบๆ โดยไม่เริ่มจากสภาพเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ดึงดันพามวลชนจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหว นัยว่าเพื่อ “โค่นล้มระบอบอำมาตย์” ซึ่งเป็นเพียงข้ออ้าง “ล่อเป้า” ให้มวลชนหลงทิศผิดทาง หันไปโจมตีสถาบันกษัตริย์ แทนการโจมตีกลุ่มทุนสามานย์ที่เป็นปัญหาปมเงื่อนของประเทศไทย
จึง “ฟันธง” ได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาของประเทศไทย แต่มุ่งแก้ปัญหาให้นักการเมือง “โคตรโกง” ของประเทศไทย
แม้จะอ้างถึงหลักทฤษฎีของปรมาจารย์ แต่ก็อ้างแบบผิดๆ เพราะไม่เริ่มจากความเป็นจริง เท่ากับหลอกตัวเอง หลอกมวลชน ร่วมกันทำในสิ่งที่ไม่เกิดมรรคผลใดๆ ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน
ถึงวันนี้ ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง นี่คือสัจธรรม แต่การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยจะต้องเกิดขึ้นบนฐานความเป็นจริงของประเทศไทย ในบริบทของสังคมโลกวันนี้
นั่นคือ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีการเมืองใหม่ มีการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ประชาชนชาวไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ต้องยอมรับว่า พัฒนาการของประเทศไทยในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา มีข้อเสียสำคัญอยู่อย่างหนึ่ง คือการใช้อำนาจบริหารประเทศโดยกลุ่มอำนาจต่างๆ หลักๆ ก็คือกลุ่มทหารและกลุ่มพ่อค้านายทุน ดำเนินมาอย่างฉ้อฉล เป็นส่วนเสริมให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการประพฤติมิชอบ ฉ้อราษฎร์บังหลวง กินกันมั่ว ทั้งตามน้ำและทวนน้ำเป็นอาจิณ จนเป็นเรื่อง “เลว” ปกติ ในสายตาประชาชน
ประเทศไทยจึงมีการพัฒนาแบบขาดวิ่น พัฒนาแต่เปลือกมาโดยตลอด สังคมไทยเต็มไปด้วยรูรั่ว ดุจยางรถที่แบบแบน คุณภาพประชากรตกต่ำ ทำให้ประเทศไทยเคลื่อนตัวไปได้อย่างยากเย็น พอเศรษฐกิจพองตัว ก็แตกเป็นฟองสบู่ ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะ “กลวง” ใน แม้เมื่อเริ่มต้นกันใหม่ ผู้ใช้อำนาจบริหารกลุ่มใหม่ (กลุ่มทุนในระบอบทักษิณ) ก็เห็นเป็นโอกาสผูกขาดประเทศไทย ใช้อำนาจฉ้อฉลครบวงจร สวนทางกับกระแสการเมืองเอเชียที่มุ่งไปสู่การเมืองสะอาด
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเสื้อแดงสนับสนุนนักการเมืองโกงกินอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในทางความคิดก็ผิดมาตั้งแต่เริ่มต้น แม้อ้างว่าต้องการอาศัยอำนาจการเมืองกลุ่มทุนสามานย์ล้มล้างระบอบอำมาตย์ ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงทางภววิสัยของประเทศไทย แก้ไม่ตรงจุด
เพราะ ณ วันนี้ ประเทศไทยไม่มีระบอบอำมาตย์ มีแต่กลุ่มทุนเก่ากับกลุ่มทุนใหม่ ที่ผลัดกันขึ้นใช้อำนาจบริหารประเทศแบบฉ้อฉล จัดอยู่ในปริมณฑลของอำนาจการเมืองเก่าที่จะต้องถูกล้างออกไปให้พ้นเส้นทางเดินของประเทศไทย เพื่อรัฐนาวาไทย หรือยานอวกาศรัฐไทย สามารถย้ายวงโคจร จากวงโคจรเดิมที่เป็นการเมืองเก่า ผู้ใช้อำนาจทุจริตโกงกินไปสู่วงโคจรใหม่ที่เป็นการเมืองใหม่ ผู้ใช้อำนาจสุจริต ไม่โกงไม่กิน “ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ ทำงานเป็น”
ทำได้เช่นนี้แล้วเท่านั้น ประเทศไทยจึงจะสามารถขับเคลื่อนตัวเองไปบนเส้นทาง (วรโคจร) ของการพัฒนาที่แท้จริง ประชาชนชาวไทยจึงจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า กลุ่มเสื้อแดงชูธง “ประชาธิปไตย” ไปต่อสู้กับ “ระบอบอำมาตย์” จึงเป็นการต่อสู้ที่พลาดเป้า เป็นความสูญเปล่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทยแต่ประการใด ตรงกันข้าม กลับเป็นอุปสรรคของการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง สร้างความสับสนในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนที่ยากจน ทั้งในเมืองและในชนบท
ทางที่ดี พวกเขาควรทบทวนตัวเอง แล้วปรับแนวคิดใหม่ ยึดเอาความเป็นจริงเป็นตัวตั้ง กำหนดเป้าหมายการต่อสู้ให้ถูกต้อง แล้วร่วมกับมวลมหาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่
ย้ำอีกทีกับคนเสื้อแดง (ที่มีอุดมการณ์) ว่า ณ วันนี้ ปัญหาประเทศไทย อยู่ที่กลุ่มการเมืองใช้อำนาจแบบฉ้อฉล ทุจริตโกงกิน เป็นต้นเหตุของการทุจริตคิดมิชอบในแวดวงราชการ และลามไปถึงวงการธุรกิจเอกชนที่ต้องดำเนินงานกับภาคราชการในแทบทุกมิติ ทำให้ประเทศไทยถูกหนอนทุจริตชอนไชไปทั่ว ไม่อยู่ในสภาพที่จะขับเคลื่อนตัวเองไปได้อีกต่อไป
ถ้าเปรียบเป็นเรือก็ผุโทรม จะจมมิจมแหล่
ถ้าเป็นยานอวกาศ ก็อยู่ในสภาวะเฉื่อยและช้าลงเรื่อยๆ ทำท่าจะหลุดจากวงโคจร ตกลงสู่พื้นโลกอยู่รอมร่อแล้ว
พวกเขาต้องตั้งโจทย์ใหม่แล้วว่า ปัญหาการใช้อำนาจแบบฉ้อฉล ทุจริตโกงกิน คือตัวปัญหาที่จะต้องแก้ไขให้ตกไป โดยการล้างอำนาจกลุ่มทุนสามานย์เป็นอันดับแรก หากมิใช่ร่วมมือกับกลุ่มทุนสามานย์ ทำลายล้างอำนาจกลุ่มทุนอื่นๆ แล้วยกกลุ่มทุนสามานย์ขึ้นเถลิงอำนาจ ผูกขาดประเทศไทยไปนานเท่านาน
กลุ่มทุนสามานย์ หมายถึงกลุ่มพ่อค้านายทุนที่ใช้อำนาจเงินเข้ายึดอำนาจการเมือง แล้วใช้อำนาจการเมืองขยายฐานอำนาจเงิน หมุนเวียนเป็นวงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่โดดเด่นก็คือกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณ
การคิดและทำที่ถูกต้อง จะปรากฏออกมาในรูปที่ทุกฝ่ายรวมพลังกันเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพลังมวลชนในภูมิภาคที่กำลังเคลื่อนไหวต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมทั้งหลายทั้งปวง โดยไม่แบ่งเขาแบ่งเรา ช่วยกันเข็นเรือให้พ้นสันดอน ช่วยกันปรับวงโคจรของยานอวกาศ “รัฐไทย” ให้เข้าสู่วงโคจรใหม่
นั่นคือ ทุกฝ่ายรวมพลังกันเข้า ต่อต้านการทุจริตโกงกินของนักการเมือง ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนใหม่หรือทุนเก่า ที่กำลังแสดงบทบาทเป็น “ทุนสามานย์”
หลักคิดชี้นำคือ แก้ให้ถูกจุด ทำให้ถูกทาง
มาบัดนี้ กลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แกนนำกลุ่มทุนสามานย์ กำลังอับจนกับการคิดและทำของตนเอง ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ ต้องหยุดแล้วคิดกันใหม่ ทำความเข้าใจในปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทย หันมาจับมือ รวมตัวกันเข้า ดำเนินการต่อสู้ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่ให้สำเร็จ ประเทศไทยจึงจะไปรอด และไปได้ดีเกินกว่าที่เราเคยจินตนาการ
ถึงตรงนี้ ต้องบอกคนเสื้อแดงที่หลงผิดอีกครั้งว่า ณ วันนี้ การแก้ไขปัญหาประเทศไทย คือการแก้ปัญหาทางการเมือง ด้วยการกำจัดการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่ มิใช่การแก้ปัญหาทางชนชั้น ที่ต้องแก้ด้วยการปฏิวัติทางชนชั้น
เพียงแก้ปัญหาทางการเมือง ประเทศไทยก็จะพลิกตัวเองจากความล้าหลัง ประชาชนลำบากยากจน ไปเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุขได้ในชั่วอึดใจ
ส่วนการแก้ไขปัญหาทางชนชั้น ก็ต้องรอให้เป็นหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของคนรุ่นต่อไป