xs
xsm
sm
md
lg

นิพิฏฐ์ปัดข่าวเคือง"เทือก" พร้อมรับเก้าอี้รมต.หาก"มาร์ค"จัดให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่า เมื่อเช้าวานนี้ (7 ธ.ค.) สื่อวิทยุ คลื่นเอฟเอ็ม 97 โทรมาสัมภาษณ์ตนก็พูดไปตามข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่ที่มีการฟอร์มทีมครม. อภิสิทธิ์ 1 ในช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 51 ซึ่งมีการตั้งนายวีระชัย วีระเมธากุล เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ในโควต้าพิเศษ ยอมรับว่าตนไม่พอใจจริง และได้ไปคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องนี้ว่า ตนมีความไม่สบายใจ ก็ได้รับคำอธิบายจากนายกฯ หลังจากหมดเรื่องนี้ตนก็ไม่เคยพูดถึงการปรับครม.ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ อีกเลยจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้รวมถึงกรณีที่มีข่าวว่า ตนมีรายชื่อโผครม.อยู่ในมือ ขอยืนยันว่าไม่มีรายชื่อใดๆ และตนก็ไม่เคยพบปะ หารือ หรือพูดคุยเรื่องโผ ครม.กับส.ส.ในพรรคเลย ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา ดังนั้นข่าวที่ออกมาทั้งหมด ทั้งก่อนหน้านี้ และขณะนี้ ล้วนเป็นการคาดการณ์ หรือ อนุมานของสื่อทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้เคยมีบัญชีรายชื่อของผู้ที่มาเป็นรัฐมนตรี อีก 4-5 คน เช่นนานนิพนธ์ บุญญามณี นายจุติ ไกรกฤษ์ นายเฉลิมชัย ศิลาอ่อน และ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีการปรับใหญ่หลังปีใหม่ โดยให้ชุดนี้ขึ้นมาแทน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ เพราะโดยมารยาท ส.ส.จะไปกดดันนายกฯไม่ได้ ถือเป็นอำนาจของนายกฯ ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลในการตัดสินใจ และส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีการปรับ หรือไม่ปรับ แรงกระเพื่อมในพรรคก็คงไม่มี หรือมีก็คงเป็นแค่ช่วงหนึ่ง 10-20 วัน ในที่สุดก็จบ ถ้าหัวหน้าพรรคได้อธิบายชี้แจงเหตุผล เหมือนครั้งที่ตนไม่พอใจ นายวีระชัย แต่เมื่อรับฟังเ หตุผลของนายกฯ ตนก็รับฟังได้
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวยืนยันว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ทำงานครบ 1 ปี จะมีการปรับครม. ประเมินผลงาน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าอำนาจอยู่ที่นายกฯ แต่สำหรับในพรรค ตนยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคเท่านั้น หากท่านบอกว่า ปรับก็ปรับ ถ้าบอกว่าไม่สมควรปรับ ก็ไม่ปรับ ส่วนคนอื่นจะชี้นำอย่างไร ตนไม่สนใจ
เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากดันลูกชายขึ้นเป็นรองนายกฯแทน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่าเรื่องการปรับในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นเรื่องภายในพรรคเขา แต่สำหรับพล.ต.สนั่น ยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและลึกซึ้ง โดยเฉพาะพล.ต.สนั่น กับ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพบท่านในสภา สำหรับตนยังรู้สึกเช่นเดิม เหมือนว่าท่านอยู่พรรคประชาธิปัตย์ พบปะพูดคุยให้คำปรึกษาข้อคิดต่างๆ แม้ท่านจะไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวิธีการใดๆ เลย คิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ ส่วนท่านจะกลับมาหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ตนตอบไม่ได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มี ส.ส.ไม่พอใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเรื่องปกติ ที่ทำให้คนไม่พอใจ แต่ถือว่านายสุเทพ ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว และส่วนตัวก็ไม่มีอะไรไม่พอใจ นายสุเทพ เรื่องที่เป็นข่าวเพราะสื่อตั้งคำถามขึ้นมา ตนก็ตอบไปตามข้อเท็จจริงว่าจะทำให้ทุกคนพึงพอใจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

**เตรียมจัดสมัชชาประชาชน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า พรรคได้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล และในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล ได้เห็นความสำคัญของสัญญาประชาคมที่ให้ไว้ก่อนเข้ามาเป็นรัฐบาล
ดังนั้น เพื่อเป็นการประเมินความคาดหวังที่ประชาชนเคยมีต่อคำมั่นสัญญาดังกล่าว พรรคจะเดินหน้าจัดสมัชชาประชาชนต่อภายในเดือน ธ.ค.ปี 52 และ ม.ค. ปี 53 โดยจะเริ่มที่จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของพรรคในฐานะแกนนำรัฐบาล และรับฟังปัญหาอื่นๆ ที่ประชาชนยังรู้สึกว่ารัฐบาลจะต้องเดินหน้าแก้ไขต่อไป
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการประเมินการทำงานของรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย ์ เพราะขณะนี้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจ รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาจนสำเร็จ ผ่านพ้นจุดต่ำสุด และสามารถกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เกิดวิกฤติ แต่ยอมรับว่า ปัญหาความสมานฉันท์ คงจะต้องแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการและนโยบายที่เป็นนโยบายหลักถือว่า นโยบายเฉพาะหน้าในการแก้ไขปัญหา เพื่อลดภาระของประชาลชน และเพิ่มกำลังซื้อของครัวเรือน ถือว่าบรรลุผลตามกรอบเวลาใน 6 เดือนแรก ในนโยบายระยะกลาง มุ่งเน้นไปที่การหยุดการเลิกจ้างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติการเลิกจ้างครั้งใหญ่ ถือว่ามาตรการชะลอการเลิกจ้าง ประสบผลสำเร็จ และสมควรที่จะดำเนินนโยบายอื่นต่อที่เป็นนโยบายระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติ ตามโครงการแผนปฏิบัติการ ไทยเข้มแข็ง
เมื่อถามว่านายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามี ส.ส.ในพรรคไม่ค่อยพอใจการทำงานของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า การแสดงความเห็นต่อการทำงานของรัฐบาลของคนในพรรค เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่สิ่งผิดปกติ เพราะพรรคยึดหลักประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อยากให้การแสดงความเห็นของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปสร้างผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ซึ่งตั้งอยู่บนความคาดหวังของประชาชน ทั้งนี้การจะปรับครม.ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ส่วน คือ 1. เสียงเรียกร้องประชาชน 2. การตัดสินใจของนายกฯ การหมุนเวียนให้บุคคลอื่นที่มีความสามารถเข้ามานั่งทำงานในครม. สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานของนายกฯ

**ปรับครม.ไม่ดี"เทือก"เดือดร้อนแน่

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจากผลโพลที่ออกมานั้น ล้วนสนับสนุนให้มีการปรับ ครม.หลังรัฐบาลบริหารงานมาครบ 1 ปี เพราะวันนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และการทุจริต ซึ่งนายกรัฐมนตรี ต้องไปคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ หรือแก้ปัญหาการเมือง อย่ากลัวว่าปรับครม.แล้วจะกระทบกระเทือน เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค
อย่างไรก็ตาม วันนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางคนมาสะท้อนว่า มีคนไม่พอใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ซึ่งถ้าปรับครม.ไม่ดี เก้าอี้ผู้จัดการรัฐบาลก็ร้อนเหมือนกัน ทั้งนี้ถ้าหากรัฐบาลปล่อยให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วค่อยปรับครม. จะลำบากแน่นอน เพราะแผลต่างๆ จะยิ่งชัดเจนขึ้น คงต้องไปเลือกตั้งใหม่อย่างเดียว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยชนะแน่นอน และบางโพลบอกว่า จะได้เกินครึ่ง หรือถึง 300 เสียง ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็นพรรคต่ำ10
กำลังโหลดความคิดเห็น