xs
xsm
sm
md
lg

เสธ.หนั่นยุมาร์คปรับครม. อ้างลดแรงกดดันในพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า เมื่อรัฐบาลทำงานมาครบ 1 ปี ควรจะมีการปรับครม. เพื่อเปลี่ยนกันทำหน้าที่ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี กล้าตัดสินใจที่จะปรับครม. และเชื่อว่าประชาชนก็ต้องการให้ปรับเช่นกัน เพราะ1 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละคนทำอะไรบ้าง นอกจากนี้ การปรับครม.ยังจะช่วยลดแรงกระเพื่อมภายในพรรคได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคที่มีการไปรับปากกันเอาไว้
" ผมว่าถึงเวลาคงต้องปรับ อย่างน้อยประชาชนก็ตื่นเต้นขึ้น และเมื่อปรับใหม่ ก็ต้องให้ดีกว่าเดิม ถ้าเป็นรัฐบาลพรรคเดียว นายกฯจะปรับอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะลำบากหน่อย แต่ผมก็ยังเชื่อในความกล้าตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี จากการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่า เขากล้าตัดสินใจ" พล.ต.สนั่นกล่าว
ส่วนการปรับครม.จะทำให้นายกรัฐมนตรี ขัดแย้งกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า หากจะมีการปรับครม. ทั้ง 2 คน คงปรึกษากัน เชื่อว่าคุยกันได้ ไม่ขัดแย้งกัน เมื่อถามว่า จะกลับไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า" จะไปทำไมอีก อายุจนป่านนี้แล้ว ก็ช่วยกันไป ดูแลกันไป น้องๆ ในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังรักใคร่กันเหมือนเดิม" พล.ต.สนั่นกล่าว
ด้านนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันว่านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่ได้น้อยใจ ที่พล.ต.สนั่น ไม่บอกเรื่องเตรียมวางมือทางการเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร บุตรชายได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และเรื่องนี้ ทางพรรคยังไม่ได้มีการหารือกันอย่างจริงจัง และยังไม่มีการนำเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการปรับครม.แต่อย่างใด เพราะนายกฯ ยังไม่มีการส่งสัญญาณมา
ทั้งนี้ การออกมาประกาศวางมือทางการเมืองของพล.ต.สนั่น ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณ หรือมีนัยใดๆ เป็นเพียงต้องการให้บุตรได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งพรรคยังไม่ได้มีการหารือว่า จะให้นายศิริวัฒน์ ทดลองนั่งเก้าอี้กระทรวงใด เพราะต้องไปตรวจสอบก่อนว่า นายศิริวัฒน์ อายุถึง 35 ปีหรือยัง

**อย่าปรับครม.หนีซักฟอก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณี พล.ต สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชายขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่แก้ปัญหาให้กับตนเอง แทนที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน และประเทศชาติ เหมือนสมบัติผลัดกันชม หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปรับ ครม. ตามที่ พล.ต สนั่น เสนอ ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาและเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวก โดยไม่คำนึงถึงปัญหาของประชาชน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดสวนดุสิตโพล ระบุว่า ประชาชน 71.43 % เชื่อว่าเศรษฐกิจยังแย่ และ 49.40 % ไม่เชื่อว่าปี 53 เศรษฐกิจจะฟื้นนั้น สะท้อนว่า ทีมเศรษฐกิจที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าทีมนั้น ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ยาเสพติดก็ยังระบาด อาชญากรรมก็ยังพุ่ง การเมืองยังมีความขัดแย้งสูง ความมั่นคงใน 3 จังหวัดภาคใต้ ก็ยังมีผู้บาดเจ็บและถูกฆ่ารายวัน
ทั้งนี้ การปรับครม. ต้องทำเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การปรับครม. เพียงเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า หรือปรับเพื่อเล่นเกมแบ่งอำนาจ ไม่ยึดโควต้า ไม่เห็นแก่หน้าของพรรคของพวก

**ปชป.คุย 1 ปีมีผลงานเพียบ
ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยตั้งข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลเตรียมชิงปรับครม. หวังหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ประเมินการทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่านโยบายสำคัญๆได้มีผลในทางปฏิบัติต่อทุกกลุ่มประชาชน โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ก็ได้รับการแก้ไขไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม หากจะมีการปรับ ครม.ก็ถือเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ที่ทำเพื่อต้องการหนุนให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลต้องการหนีการอภิปรายนั้น ถือว่าไม่เป็นความจริง พิสูจน์ได้จากที่ผ่านมารัฐบาลให้ความร่วมมือกับสภาฯ มาโดยตลอด โดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการเข้าตอบกระทู้ถามในการประชุมสภาฯ มากกว่าบางรัฐบาล ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการทำงานของสภาฯ รัฐบาลจะให้ความสนับสนุนโดยดี ไม่หนี หรือขัดขวางการทำงานของสภาฯ
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับครม.โดยยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ รัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้ดี และไม่มีเงื่อนไขหรือพันธสัญญาว่า หากทำงานผ่าน 1 ปี แล้วจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำหน้าที่บ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น