xs
xsm
sm
md
lg

ถ่วงได้อีก!สั่งรวมร่างกม.ค้าปลีก ครม.เศรษฐกิจอ้างมีประเด็นต่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.เศรษฐกิจ สั่งพาณิชย์-ทีทีอาร์-กฤษฎีกา รวมร่างกฎหมาย ก่อนเสนอให้ครม.ตัดสินใจสัปดาห์หน้า อ้างมีประเด็นถกเถียงกันมาก ทั้งหลักเกณฑ์การขออนุญาตตั้งหรือขยายสาขา และบอร์ดที่ดูแล

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นำร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ฉบับของกระทรวงพาณิชย์และร่างที่ทีทีอาร์จัดทำขึ้น ไปพิจารณาร่วมกันว่ามีประเด็นใดที่รับกันได้ และประเด็นใดที่ยังเห็นแตกต่างกันและประเด็นใดที่ต้องการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดสินใจ โดยคาดว่าจะเสนอให้ครม.พิจารณาได้ในสัปดห์หน้า

“ประเด็นที่มีการถกเถียงกันมาก คือ หลักเกณฑ์การกำกับดูแล โดยเฉพาะการอนุญาตให้เปิดหรือขยายสาขาค้าปลีกค้าส่งควรจะเป็นอย่างไร ใช้หลักเกณฑ์อะไรควบคุม และประเด็นเกี่ยวกับคณะกรรมการที่เข้ามาดูแลตามกฎหมาย”นายยรรยงกล่าว

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดการขออนุญาตตั้ง หรือขยายสาขา โดยแบ่งขนาดเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ร้านค้าขนาดใหญ่มาก พื้นที่ 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องมีระยะห่างจากเขตเทศบาลไม่ต่ำกว่า 10 กม. เวลาเปิดปิด 12-16 ชั่วโมง ร้านค้าขนาดใหญ่ พื้นที่ 1,000-2,999 ตารางเมตร ต้องห่างเขตเทศบาลไม่ต่ำกว่า 5 กม. เวลาเปิดปิด 12-16 ชั่วโมง ร้านค้าขนาดกลางพื้นที่ 300-999 ตารางเมตรต้องห่างจากเขตเทศบาลไม่ต่ำกว่า 3 กม. เวลาเปิดปิด 12-16 ชั่วโมง และร้านค้าขนาดเล็ก พื้นที่ 120-299 ตารางเมตร ต้องห่างจากเขตเทศบาลไม่ต่ำกว่า 1 กม.ไม่กำหนดระยะเวลาเปิดปิด

ส่วนการควบคุมดูแลตามกฎหมาย จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการกลางกำกับดูแลค้าปลีกค้าส่ง กำกับดูแลภาพรวมของนโยบาย และคณะกรรมการระดับจังหวัด กำกับดูแลเรื่องการขยายสาขาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ และยังเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาค้าปลีกรายย่อยขึ้นมาด้วย

ขณะที่ร่างของทีทีอาร์ยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตตั้งหรือขยายสาขา แต่ให้ออกเป็นกฎกระทรวงในภายหลัง และให้มีคณะกรรมการส่วนกลางกำกับดูแลกฎหมายเพียงชุดเดียว มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลต้องการให้มีการรวมร่างกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์กับร่างของทีทีอาร์เข้าด้วยกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันว่าร่างของกระทรวงฯ เป็นร่างที่ดีที่สุด เพราะได้ผ่านการประชาพิจารณ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมทั้งประเทศ และที่ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ในกฎหมายเลย ก็ต้องการให้มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนใครอยู่ในข่ายที่ต้องขออนุญาต แต่ของทีทีอาร์ ต้องมากำหนดภายหลัง ทำให้เสียเวลา และเปิดช่องให้มีการล๊อบบี้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อค้าปลีกรายใหญ่ได้

สำหรับการแยกให้มีคณะกรรมการ 2 ชุด โดยคณะกรรมการส่วนกลางจะดูแลนโยบายในภาพรวม ส่วนกรรมการระดับจังหวัด จะดูแลในระดับจังหวัด และการปฏิบัติใดๆ จะต้องยึดกรอบที่คณะกรรมการส่วนกลางกำหนด ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำอะไรได้โดยลำพัง ทำให้ไม่สามารถล๊อบบี้ได้ เหมือนที่มีการกังวลกัน ส่วนร่างทีทีอาร์ให้มีคณะกรรมการส่วนกลางเพียงคณะเดียว อาจจะทำให้เกิดปัญหาการไม่เข้าใจความต้องการของท้องถิ่นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น