ASTVผู้จัดการรายวัน - บรรยากาศลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบวันที่ 2 ยังเงียบเหงา ออมสินยอดลง ขณะที่ ธ.ก.ส.สวนทางเกษตรกรแห่ลงทะเบียนมากขึ้น รวม 2 แบงก์ยอดแตะ 5.8 หมื่นคน มูลหนี้ 6.6 พันล้านบาท ยอดรวมออมสินกรุงเทพฯ ยังครองแชมป์ ส่วนธ.ก.ส.บุรีรัมย์นำโด่ง
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงบรรยากาศการลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบวันที่ 2 ว่า บรรยากาศยังค่อนข้างเงียบ เหงา โดยจำนวนผู้ลงทะเบียนน้อยกว่าวันแรกที่ลงทะเบียนกับสาขาของออมสินยอดรวมกว่า 2.3 หมื่นคน แต่ธนาคารก็ยังไม่ได้มีการปรับแผนการทำงานทั้งการเตรียมเจ้าหน้าที่และสถานที่ไว้รองรับผู้มาลงทะเบียน ที่อาจจะมีมากขึ้นในอนาคต
"โครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินและเราไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีผู้เข้าโครงการมกาหรือน้อย เพียงแต่ดูจากสถิติการขึ้นทะเบียนคนจนเมื่อ 4-5 ปีก่อนจึงยึดเอาที่ตัวเลขประมาณการณ์ 1 ล้านคนที่จะมาลงทะเบียนครั้งนี้ แต่คิดว่าที่ผ่านมามีประชานที่มาขอสินเชื่อธนาคารประชาจากออมสิน และสินเชื่อฟาสต์แทร็กไปแล้วจำนวนมาก จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้กู้ยืมเงินนอกระบบไม่มากอย่างที่คิด โดยกลุ่มที่มาลงทะเบียนไม่น่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าที่กู้ยืมเงินจากธนาคารแต่เป็นกลุ่มที่บริการของแบงก์ยังไปไม่ถึงมากกว่า เช่น อยู่ตามตรอก ซอกซอยต่างๆ " นายเลอศักดิ์กล่าว และว่าธนาคารจะมีการประชุมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เพื่อปรับการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจากทั่วประเทศ เฉพาะที่สาขาธนาคารออมสินและจุดลงทะเบียนเพิ่มเติมรวมกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 1-2 ธันวาคม 2552 มีประชาชนมาลงทะเบียนรวมแล้วทั้งหมด 34,975 ราย คิดเป็นยอดมูลหนี้รวมทั้งสิ้น 3,868.64 ล้านบาท โดยวันที่ 2 มีเพิ่มเข้ามา จำนวน 11,890 คน มูลหนี้ประมาณ 1,300 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ 1. จังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,861 ราย มูลหนี้รวม 408.05 ล้านบาท 2. จังหวัดชลบุรี จำนวน 1,583 ราย มูลหนี้รวม 161.67 ล้านบาท และ 3. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1,551 ราย มูลหนี้รวม 164.38 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่ลงทะเบียนน้อยที่สุด คือ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 28 ราย มูลหนี้รวม 2.42 ล้านบาท 2. จังหวัดแพร่ จำนวน 36 ราย มูลหนี้รวม 3.8 ล้านบาท และ 3. อุทัยธานี จำนวน 46 ราย มูลหนี้รวม 5.4 ล้านบาท
ด้านบรรยากาศการลงทะเบียนผ่านสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศวันที่ 2 พบว่า มียอดทั้งสิ้น 14,137 ราย มูลหนี้ 1,666 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มาลงทะเบียนสูงสุดคือบุรีรัมย์ จำนวน 967 ราย มูลหนี้ 101 ล้านบาท รองลงมาคือ อุดรธานี 796 ราย มูลหนี้ 92 ล้านบาท และศรีสะเกษ จำนวน 623 ราย มูลหนี้ 65 ล้านบาท รวม 2 วันมีผู้มาลงทะเบียนผ่านสาขาของธ.ก.ส.ทั้งสิ้น 23,945 ราย มูลหนี้รวม 2,771 ล้านบาท เมื่อรวมยอด 2 วันการลงทะเบียนของลูกหนี้นอกระบบผ่าน 2 ธนาคารมียอมรวมทั้งสิ้น 58,920 ราย รวมมูลหนี้ 6,639 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของธ.ก.ส. ยังไม่พบว่ามีปัญหาในการลงทะเบียนทั้งการปลอมแปลงเอกสารการกู้ยืมหรืออื่นๆ เพราะผู้มาลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารและมีความซื่อสัตย์ อีกทั้งธนาคารอนุโลมให้ลงทะเบียนได้แม้ไม่มีเอกสารการกู้ยืมเพียงแต่ต้องกรอกชื่อเจ้าหนี้และมูลหนี้เอาไว้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะไปตรวจสอบการเป็นหนี้ที่แท้จริงต่อไป
"การลงทะเบียนของธ.ก.ส.วันที่ 2 มีประชาชนมาลงทะเบียนมากขึ้น อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาไม่ทันวันแรกและเตรียมเอกสารมาให้ครบถ้วน โดยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่มาลงทะเบียนมากที่สุด" เจ้าหน้าที่ธนาคาร กล่าว
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงบรรยากาศการลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบวันที่ 2 ว่า บรรยากาศยังค่อนข้างเงียบ เหงา โดยจำนวนผู้ลงทะเบียนน้อยกว่าวันแรกที่ลงทะเบียนกับสาขาของออมสินยอดรวมกว่า 2.3 หมื่นคน แต่ธนาคารก็ยังไม่ได้มีการปรับแผนการทำงานทั้งการเตรียมเจ้าหน้าที่และสถานที่ไว้รองรับผู้มาลงทะเบียน ที่อาจจะมีมากขึ้นในอนาคต
"โครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินและเราไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีผู้เข้าโครงการมกาหรือน้อย เพียงแต่ดูจากสถิติการขึ้นทะเบียนคนจนเมื่อ 4-5 ปีก่อนจึงยึดเอาที่ตัวเลขประมาณการณ์ 1 ล้านคนที่จะมาลงทะเบียนครั้งนี้ แต่คิดว่าที่ผ่านมามีประชานที่มาขอสินเชื่อธนาคารประชาจากออมสิน และสินเชื่อฟาสต์แทร็กไปแล้วจำนวนมาก จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้กู้ยืมเงินนอกระบบไม่มากอย่างที่คิด โดยกลุ่มที่มาลงทะเบียนไม่น่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าที่กู้ยืมเงินจากธนาคารแต่เป็นกลุ่มที่บริการของแบงก์ยังไปไม่ถึงมากกว่า เช่น อยู่ตามตรอก ซอกซอยต่างๆ " นายเลอศักดิ์กล่าว และว่าธนาคารจะมีการประชุมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เพื่อปรับการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจากทั่วประเทศ เฉพาะที่สาขาธนาคารออมสินและจุดลงทะเบียนเพิ่มเติมรวมกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 1-2 ธันวาคม 2552 มีประชาชนมาลงทะเบียนรวมแล้วทั้งหมด 34,975 ราย คิดเป็นยอดมูลหนี้รวมทั้งสิ้น 3,868.64 ล้านบาท โดยวันที่ 2 มีเพิ่มเข้ามา จำนวน 11,890 คน มูลหนี้ประมาณ 1,300 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ 1. จังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,861 ราย มูลหนี้รวม 408.05 ล้านบาท 2. จังหวัดชลบุรี จำนวน 1,583 ราย มูลหนี้รวม 161.67 ล้านบาท และ 3. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1,551 ราย มูลหนี้รวม 164.38 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่ลงทะเบียนน้อยที่สุด คือ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 28 ราย มูลหนี้รวม 2.42 ล้านบาท 2. จังหวัดแพร่ จำนวน 36 ราย มูลหนี้รวม 3.8 ล้านบาท และ 3. อุทัยธานี จำนวน 46 ราย มูลหนี้รวม 5.4 ล้านบาท
ด้านบรรยากาศการลงทะเบียนผ่านสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศวันที่ 2 พบว่า มียอดทั้งสิ้น 14,137 ราย มูลหนี้ 1,666 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มาลงทะเบียนสูงสุดคือบุรีรัมย์ จำนวน 967 ราย มูลหนี้ 101 ล้านบาท รองลงมาคือ อุดรธานี 796 ราย มูลหนี้ 92 ล้านบาท และศรีสะเกษ จำนวน 623 ราย มูลหนี้ 65 ล้านบาท รวม 2 วันมีผู้มาลงทะเบียนผ่านสาขาของธ.ก.ส.ทั้งสิ้น 23,945 ราย มูลหนี้รวม 2,771 ล้านบาท เมื่อรวมยอด 2 วันการลงทะเบียนของลูกหนี้นอกระบบผ่าน 2 ธนาคารมียอมรวมทั้งสิ้น 58,920 ราย รวมมูลหนี้ 6,639 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของธ.ก.ส. ยังไม่พบว่ามีปัญหาในการลงทะเบียนทั้งการปลอมแปลงเอกสารการกู้ยืมหรืออื่นๆ เพราะผู้มาลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารและมีความซื่อสัตย์ อีกทั้งธนาคารอนุโลมให้ลงทะเบียนได้แม้ไม่มีเอกสารการกู้ยืมเพียงแต่ต้องกรอกชื่อเจ้าหนี้และมูลหนี้เอาไว้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะไปตรวจสอบการเป็นหนี้ที่แท้จริงต่อไป
"การลงทะเบียนของธ.ก.ส.วันที่ 2 มีประชาชนมาลงทะเบียนมากขึ้น อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาไม่ทันวันแรกและเตรียมเอกสารมาให้ครบถ้วน โดยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่มาลงทะเบียนมากที่สุด" เจ้าหน้าที่ธนาคาร กล่าว
