xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีอุตฯต.ค.กระเตื้องขึ้นติดลบแค่ 0.5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สศอ.เผยดัชนีอุตฯ ต.ค. ติดลบเล็กน้อย หลังจากอุตฯหลักมีสัญญาณฟื้นชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่ม Hard disk drive เหล็ก และเม็ดพลาสติก ส่วนการผลิตรถยนต์ติดลบน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับ 61%

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(ดัชนีอุตฯ) ประจำเดือนตุลาคมนี้ ติดลบ 0.5% เมี่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวในระยะสั้นทางธุรกิจของผู้ประกอบการ หลังจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา ดัชนีอุตฯปรับตัวเป็นบวก 1% เชื่อว่าช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ ดัชนีอุตฯบวกได้อย่างแน่นอน หลังจากมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของทั่วโลกเริ่มมีผล

ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมไทยฟื้นตัวตามไปด้วย อุตสาหกรรมหลักโดยเฉพาะการผลิต Hard Disk Drive การผลิตเหล็ก และเม็ดพลาสติก ยอดผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ขณะที่การผลิตยานยนต์เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผลิตและจำหน่ายติดลบน้อยลง ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 61%

ทั้งนี้ การผลิต Hard disk drive เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่าการผลิตและจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และ 6.5% เนื่องจากปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับตัวไม่ทัน ส่งผลต่อภาวะการจ้างงานที่ทำให้หลายแห่งมีการปรับลดพนักงานลงอย่างมาก แต่สำหรับปีนี้ทิศทางการฟื้นตัวกลับเข้ามาแล้วผู้ประกอบการเริ่มมีคำสั่งซื้อล่วงหน้ากลับเข้ามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงการผลิตและส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้เป็นไปอย่างคึกคัก คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญส่งให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

การผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก มีการผลิตและจำหน่ายโดยรวมเพิ่มขึ้น 66.8% และ 42.4% ตามลำดับ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ จากภาครัฐมีความชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ได้มีการเปิดประมูล และมีคู่สัญญากับภาครัฐเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะเริ่มลงมือก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งปัจจัยจากภาคธุรกิจก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวจึงมีความต้องการบริโภคเหล็กมากขึ้น ขณะที่ราคาเหล็กโลกปีนี้มีเสถียรภาพมากขึ้น และทิศทางการจำหน่ายมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ผู้ผลิตจึงมีความมั่นใจผลิตสินค้าออกมาไว้ในสต๊อก เพื่อรองรับความต้องการอย่างเพียงพอ

 การผลิตเม็ดพลาสติก มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 15.9% และ 12.2%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่กลับมา จึงเริ่มมีการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ การผลิตยานยนต์   พบว่า การผลิตได้ติดลบน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ -12.9% เทียบกับที่เคยติดลบไม่ต่ำกว่า -40% ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากมีการปรับปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรับกับการส่งออกที่มียอดคำสั่งซื้อกลับเข้ามามากขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจกลับฟื้นขึ้นมา จึงพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อรถใหม่มากขึ้น

นางสุทธินีย์ กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2552 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนพบว่า ดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 180.19 ลดลง 0.5% จากระดับ 181.11ดัชนีผลผลิต อยู่ที่ระดับ 182.24 ลดลง -0.9% จากระดับ 183.90 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 1170.39 ลดลง -19.1% จากระดับ 210.61 ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 182.71 ลดลง -3.5% จากระดับ 189.39 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 111.25 ลดลง -4.2% จากระดับ 116.18 ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 184.08 เพิ่มขึ้น 3.7% จากระดับ 177.51 ดัชนีผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 164.54 เพิ่มขึ้น 21.0% จากระดับ 135.89 ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 61%
กำลังโหลดความคิดเห็น