สศอ.แจงสัญญาณการผลิตภาคอุตฯ หลัก ฟื้นตัวอย่างชัดเจน

สศอ.เชื่อดัชนีอุตฯ ปลายปีนี้เป็นบวกได้แน่นอน แม้เดือน ต.ค.จะกลับมาติดลบเล็กน้อย ชี้ สัญญาณอุตสาหกรรมหลักเริ่มฟื้นตัว อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ระดับ 61%

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2552 ที่ออกมาติดลบ 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าเป็นการปรับตัวในระยะสั้นทางธุรกิจของผู้ประกอบการ หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวเป็นบวกได้ 1%

ผู้อำนวยการ สศอ.เชื่อว่า ตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ น่าจะเป็นบวกได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของทั่วโลกเริ่มมีผล ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมไทยฟื้นตัวตามไปด้วย

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมหลักๆ โดยเฉพาะการผลิต Hard Disk Drive การผลิตเหล็ก และเม็ดพลาสติก ยอดผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ขณะที่การผลิตยานยนต์เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผลิตและจำหน่ายติดลบน้อยลง ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ระดับ 61%

สำหรับการผลิต Hard disk drive เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนการผลิตและจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และ 6.5 โดยมีทิศทางการฟื้นตัวกลับเข้ามาผู้ประกอบการเริ่มมีคำสั่งซื้อล่วงหน้ากลับเข้ามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงการผลิตและส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก

ปัจจัยดังกล่าว คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญส่งให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายโดยรวมเพิ่มขึ้น 66.8% และ 42.4% ตามลำดับ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ จากภาครัฐมีความชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ได้มีการเปิดประมูล และมีคู่สัญญากับภาครัฐเรียบร้อย ซึ่งจะเริ่มลงมือก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้ ผู้ผลิตจึงมีความมั่นใจผลิตสินค้าออกมาไว้ในสตอก เพื่อรองรับความต้องการอย่างเพียงพอ

ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวถึงภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2552 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่า ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 180.19 ลดลงร้อยละ 0.5 จากระดับ 181.11 ดัชนีผลผลิต (มูลค่าผลผลิต) อยู่ที่ระดับ 182.24 ลดลงร้อยละ 0.9 จากระดับ 183.90 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 170.39 ลดลงร้อยละ 19.1 จากระดับ 210.61

ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 182.71 ลดลงร้อยละ 3.5 จากระดับ 189.39 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 111.25 ลดลงร้อยละ 4.2 จากระดับ 116.18 ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 184.08 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากระดับ 177.51 ดัชนีผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 164.54 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากระดับ 135.89 ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 61