xs
xsm
sm
md
lg

สศอ.เตรียมดันอุตฯ ไทย สู่ฮับสินค้าสิ่งแวดล้อมอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งเป้าไทยเป็นผู้นำสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งอาเซียนภายใน 10 ปี ลุยศึกษาเชิงลึกระเบียบประเทศคู่ค้า หวังรักษาตลาดเดิมเพิ่มมูลค่าสินค้าเหนือคู่แข่ง

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศอ.กำลังดำเนินโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภายใต้ระเบียบประเทสคู่ค้า ในระยะที่ 2 ภายใต้กรอบการดำเนินงานในปี 2554-2556 เพื่อจะเร่งยกระดับให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางในการผลิตสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมในอาเซียน และสามารถสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในระดับสากลและเป็นที่ยอมรับของประเทศคู่ค้าสำคัญ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการใช้สินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศอย่างแพร่หลาย ป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าด้อยคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหลักได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องฐานข้อมูล,ห้องปฏิบัติการ, ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านกฏระเบียบและศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผลิตสินค้า Eco Product เป็นต้น“

ทั้งนี้ยังได้มุ่งเน้นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตื่นตัว และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภายใต้กฎระเบียบของสหภาพยุโรป พร้อมทั้งการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้ดำเนินการมาแล้วในระยะที่ 1 เช่น การเข้าถึงห้องปฏิบัติการทดสอบ 5 แห่ง และศูนย์ความเป็นเลิศด้านสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะให้บริการออกแบบผลิตภัณฑ์ ปรับกระบวนการผลิต และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิตสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ได้มีการติดตามกฏระเบียบมาตรการต่างๆ ทั้งที่มีผลบังคับใช้แล้วและมาตรการใหม่ๆ ที่จะมีการประกาศออกมาในอนาคต

นางสุทธินีย์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงการปรับตัวให้ได้ตามกฎระเบียบดังกล่าว ซึ่งจะเป็นโอกาสทางการแข่งขันครั้งสำคัญที่จะทำให้ไทยสามารถส่งออกและขยายตลาดไปยังประเทศสมาชิกในยุโรปและประเทศต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสามารถยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศให้เป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการผลิตสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม โดยใช้จุดเด่นด้านนี้มาเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่กำลังหันมาให้ความสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น