ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “ธนารักษ์”เตรียมงบประมาณ 134 ล้านบาท พัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตให้สามารถรับเรือขนาดใหญ่ 9,000-20,000 เดตเวตตัน เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง แผนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตว่า กรมธนารักษ์ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ จำนวน 134 ล้านบาท แยกเป็นงบปี 2554 จำนวน26 ล้านบาทเศษ และปี 2555 จำนวน107 ล้านบาทเศษ ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ด้วยการขยายท่าเรือเพื่อรองรับเรือขนาด 9,000-20,000 เดตเวตตัน และให้สามารถจอดเทียบท่าขนสินค้าได้สะดวก ซึ่งจะรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ในการรองรับการพัฒนารองรับการเปิดการค้าเสรีโลกด้วย
ขณะที่ บริษัทเจ้าพระยาสากล จำกัด ที่เช่าบริหารท่าเรือนั้น ก็มีแผนพัฒนาท่าเรือฯอยู่แล้ว และจะมีการพิจารณาแผนพัฒนาร่วมกับกรมธนารักษ์ ส่วนสัญญาใหม่ที่จะหมดก็ขึ้นอยู่กับกรมธนารักษ์ที่จะคุยกับบริษัทต่อไป
ขณะที่ นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อต้องใช้ขนส่งสินค้าทางทะเลของภาคใต้ตอนบน เพื่อขนส่งสินค้าไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา ซึ่งเป็นการศึกษาไว้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา แต่จากการดำเนินการ ปรากฏว่า ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เดิมจะใช้เป็นเพียงขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ต้องปรับเป็นเพื่อขนส่งนักท่องเที่ยวด้วย เพื่อต้องการให้ท่าเรือบริหารจัดการได้ ต้องทำเป็นท่าเรืออเนกประสงค์ ซึ่งถือว่าผิดเป้าไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การบริหารของบริษัทที่ผ่านมาก็พออยู่ได้ แต่ทั้งนี้ ในอนาคต สัญญาที่จะกำลังพิจารณาใหม่ กรมธนารักษ์ต้องให้สัญญาที่ยาวขึ้นจากเดิม 2-3 ปี ต้องเป็นระยะ 5-10 ปี อย่างเช่น ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้สัมปทาน 30 ปี จะได้วางแผนติดตั้งเครื่องไม้ เครื่องมือได้ดีกว่านี้
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง แผนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตว่า กรมธนารักษ์ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ จำนวน 134 ล้านบาท แยกเป็นงบปี 2554 จำนวน26 ล้านบาทเศษ และปี 2555 จำนวน107 ล้านบาทเศษ ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ด้วยการขยายท่าเรือเพื่อรองรับเรือขนาด 9,000-20,000 เดตเวตตัน และให้สามารถจอดเทียบท่าขนสินค้าได้สะดวก ซึ่งจะรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ในการรองรับการพัฒนารองรับการเปิดการค้าเสรีโลกด้วย
ขณะที่ บริษัทเจ้าพระยาสากล จำกัด ที่เช่าบริหารท่าเรือนั้น ก็มีแผนพัฒนาท่าเรือฯอยู่แล้ว และจะมีการพิจารณาแผนพัฒนาร่วมกับกรมธนารักษ์ ส่วนสัญญาใหม่ที่จะหมดก็ขึ้นอยู่กับกรมธนารักษ์ที่จะคุยกับบริษัทต่อไป
ขณะที่ นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อต้องใช้ขนส่งสินค้าทางทะเลของภาคใต้ตอนบน เพื่อขนส่งสินค้าไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา ซึ่งเป็นการศึกษาไว้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา แต่จากการดำเนินการ ปรากฏว่า ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เดิมจะใช้เป็นเพียงขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ต้องปรับเป็นเพื่อขนส่งนักท่องเที่ยวด้วย เพื่อต้องการให้ท่าเรือบริหารจัดการได้ ต้องทำเป็นท่าเรืออเนกประสงค์ ซึ่งถือว่าผิดเป้าไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การบริหารของบริษัทที่ผ่านมาก็พออยู่ได้ แต่ทั้งนี้ ในอนาคต สัญญาที่จะกำลังพิจารณาใหม่ กรมธนารักษ์ต้องให้สัญญาที่ยาวขึ้นจากเดิม 2-3 ปี ต้องเป็นระยะ 5-10 ปี อย่างเช่น ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้สัมปทาน 30 ปี จะได้วางแผนติดตั้งเครื่องไม้ เครื่องมือได้ดีกว่านี้