นายกรัฐมนตรีไทย สั่งจับตาผลกระทบดูไบเวิลด์ ขอดูข้อมูลทั้งหมดก่อนหารือในครม.เศรษฐกิจพุธนี้ ยันไม่คิดลดค่าเงินบาท แต่เน้นบริหารไม่ให้แกว่งตัวมากเกินไป ด้านนพดลบอก พ่อแดงนช.แม้วยังคงอาศัยอยู่ในดูไบต่อ ส่วนการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ที่เชียงใหม่ ผลสำรวจผู้ร่วมประชุมชี้ ศก.ไทยปีหน้าจะโตแค่ 2-3% เหตุปัจจัยลบยังรุมเร้าเพียบ ให้คะแนนรัฐบาลสอบผ่านเฉียดฉิว 5.3 คะแนนจากเต็ม 10
วานนี้(29 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ”ถึงปัญหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีการขอพักชำระหนี้ 6 เดือน และการที่ประเทศเวียดนามลดค่าเงินนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดความวิตกกังวลทางด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ เราต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด คือลำพังในสองส่วนนี้ก็มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ไม่น่าจะกระทบมากต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยหรือเศรษฐกิจโลก แต่ก็คงจะต้องจับตาดูว่ามันจะมีผลลุกลามไปหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ในวันจันทร์(30 พ.ย.)จะมีการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด และมีการรายงานต่อคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในวันพุธอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับข้อกังวลของผู้ร่วมเข้าประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่จ.เชียงใหม่ ในประเด็นถ้าขาดความปรองดองในประเทศจะเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ว่า การบริหารนโยบายต่างๆ ก็มีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น แต่เมื่อมีความหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย ก็ย่อมเกิดผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนและต่างประเทศที่มองมาจากข้างนอก โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคยกับหลายอย่างในประเทศไทย
“เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสถัดไปนั้น ก็ยังมั่นใจว่าเป็นบวก โดยปีนี้ติดลบอยู่ประมาณร้อยละ 3.5-3 และปีหน้าจะเติบไปอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ซึ่งมั่นใจว่าทำได้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลกยังเปราะบางอยู่ในบางจุด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในดูไบ และการลดค่าเงินของประเทศเวียดนาม ตนคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบมาก และในภาพรวมในแง่ของการฟื้นตัวของหลายประเทศในภูมิภาคโดยเฉพาะในเอเชีย ก็มีความชัดเจน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามต่อถึงความเป็นห่วงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกในประเทศจีน นายกฯกล่าวว่า มีความเสี่ยงอยู่ในบางพื้นที่หรือบางภูมิภาค แต่ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าประเทศจีนมีวิธีบริหารจัดการที่ดีพอสมควรเมื่อเกิดปัญหาขึ้น โดยมีช่วงเวลาสั้นที่เกิดปัญหากับตลาดทุน เขาก็บริหารจัดการได้ดี
ถึงกระนั้น การที่ภาคเอกชนเสนอให้ใช้นโยบายค่าเงินบาทอ่อนนั้น เราคงพยายามให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราไม่แกว่งตัวมาก แต่คงไม่สามารถกำหนดค่าเงินได้ เพราะอาจจะย้อนไปสู่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 หรืออาจเป็นในทิศทางตรงกันข้าม เพราะฉะนั้น เราจึงพยายามไม่ให้แกว่งตัวมาก ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ใช้เวทีในต่างประเทศเรียกร้องให้ประเทศที่เป็นสาเหตุของปัญหาค่าเงิน ไปแก้ปัญหาความสมดุลตรงนั้นให้ได้
'นพดล'ชี้นายไม่กระทบ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่ ดูไบเวิลด์ประกาศพักชำระหนี้ว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ดูไบและช่วงที่ผ่านมา ก็อยู่ที่นั่นเสียส่วนใหแต่สิ่งทีี่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านไม่ได้ไปลงทุนอะไร ท่านจะย้ายไปไหนหรือไม่ คงไม่เกี่ยวกัน แต่เชื่อน่าจะยังคงอยู่ที่ดูไบ
ให้คะแนนรัฐบาลสอบผ่านเฉียดฉิว
สำหรับการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการประชุมจนแล้วเสร็จเมื่อวานนี้(29พ.ย.) โดยก่อนปิดการประชุมนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจากผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการรวม 270 คนว่า ภาคธุรกิจมีความเป็นห่วงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 53 จะเติบโต 2-3% ต่ำกว่าที่ภาครัฐประเมินไว้ว่าจะเติบโต 3%ขึ้นไป
เนื่องจากมีความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจภายนอก โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าเงินดองของเวียดนามที่จะกระทบต่อการส่งออก กับวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่ที่ดูไบ ประกอบกับปัญหาการชะลอโครงการมาบตาพุด 2 แสนล้านบาท และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น และการลงทุนของภาคเอกชน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังได้ประเมินผลงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยให้คะแนนรวมที่ 5.3 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน โดยผลงานที่รัฐบาลสอบตก และได้คะแนนน้อยที่สุดคือการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น 3.2 คะแนน รองลงเป็นการแก้ปัญหาภาคธุรกิจได้ 4.6 คะแนน และปัญหาสังคม 4.7 คะแนน และยังได้คะแนนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภาคตะวันออกแค่ 4 คะแนนเท่านั้น จากปัญหามาบตาพุด ขณะเดียวกันภาครัฐยังให้คะแนนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมเพียง 4.8 คะแนน ส่วนผลงานที่รัฐบาลสอบผ่านเกิน 5 คะแนน ได้แก่ ท่องเที่ยว ราคาสินค้าเกษตร การว่างงาน
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวปิดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ว่า การจัดทำแผนยุทธศาตร์ครั้งนี้ แม้เอกชนเป็นผู้จุดประกาย แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสัญญาที่ดี เพราะขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมที่จะทำงานร่วมกันและนำไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่ก็เสนอตัวให้เป็นจังหวัดตัวอย่างในการพัฒนาตามแผน
สื่อต่าง ปท.รายงานสับสน
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รายงานข่าวอนาคตของ “ดูไบ เวิลด์” ค่อนข้างสับสน โดย ซอว์ยา ดาวโจนส์ อ้างคนที่ได้รับการบรรยายสรุปเรื่องนี้เปิดเผยว่า ธนาคารกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งมีดูไบเป็น 1 ใน 7 รัฐของประเทศที่มีลักษณะเป็นสหพันธรัฐแห่งนี้ กำลังจะออกมาแถลงก่อนหน้าตลาดหุ้นยูเออีเปิดในวันนี้(30)ว่า จะเข้าค้ำประกันหนี้สินของดูไบ เวิลด์ เพื่อช่วยคุ้มครองพวกเจ้าหนี้ท้องถิ่นจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ผู้คนที่ทราบเรื่องเหล่านี้กล่าวว่า ธนาคารกลางยูเออีซึ่งใช้ท่าทีปิดปากเงียบมาตลอด ตั้งแต่ที่ดูไบ เวิลด์ ประกาศในวันพุธ(25) ว่าจะปรับโครงสร้างและขอหยุดการชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือนนั้น จะออกมาแถลงในคืนวันอาทิตย์(29) หรือเช้าวันจันทร์ เรื่องการเข้าไปค้ำประกันหนี้สินของดูไบ เวิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปานีรายสำคัญที่สุดของดูไบ รวมทั้งทางรัฐบาลดูไบก็เตรียมออกคำแถลงในเรื่องนี้เช่นกัน
นายแบงก์อาวุโสหลายคนในอาบูดาบีแจกแจงว่า ธนาคารกลางจะต้องคุ้มครองพวกเจ้าหนี้ท้องถิ่น หลังจากที่ได้ปล่อยกู้โดยตรงเป็นจำนวนมากแก่รัฐบาลดูไบและบรรดากิจการของรัฐดูไบในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา รวมทั้งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ดูไบ เวิลด์จะประกาศปรับโครงสร้างในวันพุธ รัฐบาลอาบูดาบีก็ยังบอกให้ธนาคารอาบูดาบี 2 แห่งที่ตนถือหุ้นใหญ่ เข้าไปรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลดูไบเป็นเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานก่อนหน้านี้ว่า แม้มีการคาดการณ์กันว่า อาบูดาบีซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและร่ำรวยที่สุดในยูเออี จะเข้าช่วยเหลือดูไบ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการตั้งเงื่อนไขอะไรบ้าง
อาบูดาบีนั้นมีบ่อน้ำมันใหญ่ๆ และยังคงได้เปรียบดุลการค้าจากการส่งออก รวมทั้งมีสินทรัพย์จำนวนมหึมา เป็นต้นว่า มีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์, มีกองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐหลายกองทุน รายใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วยจำนวนทรัพย์สินราว 400,000 – 500,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่หนี้สินของดูไบ เวิลด์นั้นมีประมาณ 59,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับราว 3 ใน 4 ของหนี้สินของรัฐดูไบทั้งหมด นักวิเคราะห์จึงเห็นว่าอาบูดาบีสามารถช่วยเหลือดูไบได้ ทว่าอาบูดาบีจะเข้าไปช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นดูไบจึงอาจต้องการเผชิญกับวิกฤตคราวนี้ด้วยตนเองมากกว่า โดยที่การกระทำเช่นนี้ดูไบก็จำเป็นต้องปรับโครงการกิจการ และพยายามเลือกรักษาสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ขณะที่จัดการกับหนี้เสียโดยเร็ว
หนังสือพิมพ์ อัลอิตติฮัด ซึ่งเป็นของรัฐอาบูดาบี รายงานข่าววานนี้โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อาวุโสของดูไบ เวิลด์ กล่าวว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทปฏิเสธเด็ดขาดไม่ยอมขายสินทรัพย์และการลงทุนจำนวนมากออกไปในราคาต่ำๆ โดยต้องการให้ได้ราคาที่เป็นธรรมและเป็นไปในเชิงพาณิชย์
วานนี้(29 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ”ถึงปัญหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีการขอพักชำระหนี้ 6 เดือน และการที่ประเทศเวียดนามลดค่าเงินนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดความวิตกกังวลทางด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ เราต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด คือลำพังในสองส่วนนี้ก็มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ไม่น่าจะกระทบมากต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยหรือเศรษฐกิจโลก แต่ก็คงจะต้องจับตาดูว่ามันจะมีผลลุกลามไปหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ในวันจันทร์(30 พ.ย.)จะมีการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด และมีการรายงานต่อคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในวันพุธอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับข้อกังวลของผู้ร่วมเข้าประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่จ.เชียงใหม่ ในประเด็นถ้าขาดความปรองดองในประเทศจะเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ว่า การบริหารนโยบายต่างๆ ก็มีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น แต่เมื่อมีความหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย ก็ย่อมเกิดผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนและต่างประเทศที่มองมาจากข้างนอก โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคยกับหลายอย่างในประเทศไทย
“เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสถัดไปนั้น ก็ยังมั่นใจว่าเป็นบวก โดยปีนี้ติดลบอยู่ประมาณร้อยละ 3.5-3 และปีหน้าจะเติบไปอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ซึ่งมั่นใจว่าทำได้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลกยังเปราะบางอยู่ในบางจุด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในดูไบ และการลดค่าเงินของประเทศเวียดนาม ตนคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบมาก และในภาพรวมในแง่ของการฟื้นตัวของหลายประเทศในภูมิภาคโดยเฉพาะในเอเชีย ก็มีความชัดเจน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามต่อถึงความเป็นห่วงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกในประเทศจีน นายกฯกล่าวว่า มีความเสี่ยงอยู่ในบางพื้นที่หรือบางภูมิภาค แต่ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าประเทศจีนมีวิธีบริหารจัดการที่ดีพอสมควรเมื่อเกิดปัญหาขึ้น โดยมีช่วงเวลาสั้นที่เกิดปัญหากับตลาดทุน เขาก็บริหารจัดการได้ดี
ถึงกระนั้น การที่ภาคเอกชนเสนอให้ใช้นโยบายค่าเงินบาทอ่อนนั้น เราคงพยายามให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราไม่แกว่งตัวมาก แต่คงไม่สามารถกำหนดค่าเงินได้ เพราะอาจจะย้อนไปสู่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 หรืออาจเป็นในทิศทางตรงกันข้าม เพราะฉะนั้น เราจึงพยายามไม่ให้แกว่งตัวมาก ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ใช้เวทีในต่างประเทศเรียกร้องให้ประเทศที่เป็นสาเหตุของปัญหาค่าเงิน ไปแก้ปัญหาความสมดุลตรงนั้นให้ได้
'นพดล'ชี้นายไม่กระทบ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่ ดูไบเวิลด์ประกาศพักชำระหนี้ว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ดูไบและช่วงที่ผ่านมา ก็อยู่ที่นั่นเสียส่วนใหแต่สิ่งทีี่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านไม่ได้ไปลงทุนอะไร ท่านจะย้ายไปไหนหรือไม่ คงไม่เกี่ยวกัน แต่เชื่อน่าจะยังคงอยู่ที่ดูไบ
ให้คะแนนรัฐบาลสอบผ่านเฉียดฉิว
สำหรับการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการประชุมจนแล้วเสร็จเมื่อวานนี้(29พ.ย.) โดยก่อนปิดการประชุมนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจากผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการรวม 270 คนว่า ภาคธุรกิจมีความเป็นห่วงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 53 จะเติบโต 2-3% ต่ำกว่าที่ภาครัฐประเมินไว้ว่าจะเติบโต 3%ขึ้นไป
เนื่องจากมีความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจภายนอก โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าเงินดองของเวียดนามที่จะกระทบต่อการส่งออก กับวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่ที่ดูไบ ประกอบกับปัญหาการชะลอโครงการมาบตาพุด 2 แสนล้านบาท และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น และการลงทุนของภาคเอกชน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังได้ประเมินผลงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยให้คะแนนรวมที่ 5.3 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน โดยผลงานที่รัฐบาลสอบตก และได้คะแนนน้อยที่สุดคือการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น 3.2 คะแนน รองลงเป็นการแก้ปัญหาภาคธุรกิจได้ 4.6 คะแนน และปัญหาสังคม 4.7 คะแนน และยังได้คะแนนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภาคตะวันออกแค่ 4 คะแนนเท่านั้น จากปัญหามาบตาพุด ขณะเดียวกันภาครัฐยังให้คะแนนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมเพียง 4.8 คะแนน ส่วนผลงานที่รัฐบาลสอบผ่านเกิน 5 คะแนน ได้แก่ ท่องเที่ยว ราคาสินค้าเกษตร การว่างงาน
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวปิดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ว่า การจัดทำแผนยุทธศาตร์ครั้งนี้ แม้เอกชนเป็นผู้จุดประกาย แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสัญญาที่ดี เพราะขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมที่จะทำงานร่วมกันและนำไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่ก็เสนอตัวให้เป็นจังหวัดตัวอย่างในการพัฒนาตามแผน
สื่อต่าง ปท.รายงานสับสน
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รายงานข่าวอนาคตของ “ดูไบ เวิลด์” ค่อนข้างสับสน โดย ซอว์ยา ดาวโจนส์ อ้างคนที่ได้รับการบรรยายสรุปเรื่องนี้เปิดเผยว่า ธนาคารกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งมีดูไบเป็น 1 ใน 7 รัฐของประเทศที่มีลักษณะเป็นสหพันธรัฐแห่งนี้ กำลังจะออกมาแถลงก่อนหน้าตลาดหุ้นยูเออีเปิดในวันนี้(30)ว่า จะเข้าค้ำประกันหนี้สินของดูไบ เวิลด์ เพื่อช่วยคุ้มครองพวกเจ้าหนี้ท้องถิ่นจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ผู้คนที่ทราบเรื่องเหล่านี้กล่าวว่า ธนาคารกลางยูเออีซึ่งใช้ท่าทีปิดปากเงียบมาตลอด ตั้งแต่ที่ดูไบ เวิลด์ ประกาศในวันพุธ(25) ว่าจะปรับโครงสร้างและขอหยุดการชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือนนั้น จะออกมาแถลงในคืนวันอาทิตย์(29) หรือเช้าวันจันทร์ เรื่องการเข้าไปค้ำประกันหนี้สินของดูไบ เวิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปานีรายสำคัญที่สุดของดูไบ รวมทั้งทางรัฐบาลดูไบก็เตรียมออกคำแถลงในเรื่องนี้เช่นกัน
นายแบงก์อาวุโสหลายคนในอาบูดาบีแจกแจงว่า ธนาคารกลางจะต้องคุ้มครองพวกเจ้าหนี้ท้องถิ่น หลังจากที่ได้ปล่อยกู้โดยตรงเป็นจำนวนมากแก่รัฐบาลดูไบและบรรดากิจการของรัฐดูไบในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา รวมทั้งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ดูไบ เวิลด์จะประกาศปรับโครงสร้างในวันพุธ รัฐบาลอาบูดาบีก็ยังบอกให้ธนาคารอาบูดาบี 2 แห่งที่ตนถือหุ้นใหญ่ เข้าไปรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลดูไบเป็นเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานก่อนหน้านี้ว่า แม้มีการคาดการณ์กันว่า อาบูดาบีซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและร่ำรวยที่สุดในยูเออี จะเข้าช่วยเหลือดูไบ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการตั้งเงื่อนไขอะไรบ้าง
อาบูดาบีนั้นมีบ่อน้ำมันใหญ่ๆ และยังคงได้เปรียบดุลการค้าจากการส่งออก รวมทั้งมีสินทรัพย์จำนวนมหึมา เป็นต้นว่า มีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์, มีกองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐหลายกองทุน รายใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วยจำนวนทรัพย์สินราว 400,000 – 500,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่หนี้สินของดูไบ เวิลด์นั้นมีประมาณ 59,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับราว 3 ใน 4 ของหนี้สินของรัฐดูไบทั้งหมด นักวิเคราะห์จึงเห็นว่าอาบูดาบีสามารถช่วยเหลือดูไบได้ ทว่าอาบูดาบีจะเข้าไปช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นดูไบจึงอาจต้องการเผชิญกับวิกฤตคราวนี้ด้วยตนเองมากกว่า โดยที่การกระทำเช่นนี้ดูไบก็จำเป็นต้องปรับโครงการกิจการ และพยายามเลือกรักษาสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ขณะที่จัดการกับหนี้เสียโดยเร็ว
หนังสือพิมพ์ อัลอิตติฮัด ซึ่งเป็นของรัฐอาบูดาบี รายงานข่าววานนี้โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อาวุโสของดูไบ เวิลด์ กล่าวว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทปฏิเสธเด็ดขาดไม่ยอมขายสินทรัพย์และการลงทุนจำนวนมากออกไปในราคาต่ำๆ โดยต้องการให้ได้ราคาที่เป็นธรรมและเป็นไปในเชิงพาณิชย์