นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศและที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงกรณีที่ประเทศกัมพูชาประกาศยกเลิกกู้เงิน 1,400 ล้านบาทจากไทย ว่า ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีอาจทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามจมลึกกว่าเก่า ซึ่งมีมีเรื่อง น่าเป็นห่วง 3 ประการที่กัมพูชาอาจนำมาใช้ คือ1.เกรงว่าจะมีการปิดน่านน้ำทำให้ ชาวประมงเดือดร้อนหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการไทยทำการข่มขู่ว่าจะเลิกเอ็มโอยู พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 2.กังวลว่าจะเกิดการปิดพรมแดน ส่งผลให้เสียโอกาส การค้าขายที่เราได้ดุลเกือบ 20 เท่า ได้กำไรกว่า 6 หมื่นล้านบาท 3.ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหารอาจถูกนำขึ้นสู่เวทีโลกและทำให้ไทยตกอยู่ในภาวะสุ่มเสียงเสียเปรียบและที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่มีแนวทางแก้ไขเรื่องนี้เลย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามลงนั้นคือ 1.การแต่งตั้ง นายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ 2.สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ได้บอกว่าจะทวงคืนปราสาทพระวิหารซึ่งข้อเท็จจริงทำไม่ได้แล้ว จึงเป็นการสร้างความ ขุ่นเคืองใจ 3.การขู่ยกเลิกเอ็มโอยูตนขอกล่าวหารัฐบาลชุดนี้เลยว่ากำลังนำประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกันนำกระแสชาตินิยมมาดำเนินนโยบายต่างประเทศ
นายนพดล ยืนยันว่าการที่กัมพูชาไม่กู้เงินไทยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการแนะนำอะไรทั้งสิ้น รัฐบาลอย่าคิดว่าตัวเองเป็นประเทศหากเกิดความ เสียหายอะไรขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ความสัมพันธ์มันแย่ลงไปอีกเมื่อรัฐบาลไปยื่นคำขาดว่าให้ปลดพ.ต.ท.ทักษิณออกจากที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา เขาก็ไม่คุยกับคุณแต่ตอบโต้กลับมา วันนี้พม่า ลาวก็มีท่าทีไม่ต้อนรับประเทศไทย รัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบายตีซี้ประเทศมหาอำนาจแต่ละเลยประเทศเพื่อนบ้านผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวอยู่อย่างไรบ้าง นายนพดล กล่าวว่ากระบวนการก่อนและหลังการตัดสิน พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่หาก สมมติว่ามีการตัดสินออกมาว่านายชุติพงษ์มีความผิด พ.ต.ท.ทักษิณจะช่วยเหลืออย่าง เต็มที่แน่นอนขอให้คุณแม่นายชุติพงษ์มั่นใจได้เลย โดยจะขอความเมตตาธรรมจากรัฐบาลกัมพูชาแต่ยังไม่ทราบว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร จะนิรโทษกรรมได้หรือไม่อย่างไร ก็ตามหากรัฐบาลไทยสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เราก็ไม่อยากไปยุ่งแต่ก็ไม่มั่นใจเพราะรัฐบาลไปด่าเขาไว้อย่างนั้นทั้งนี้ส่วนตัวรู้แนวทางที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยาก เปิดเผยแต่นายศิวรักษ์นั้นเป็นเพียงผู้ถูกใช้ไปทำงานไม่ใช่คนคิดริเริ่มคิดแผนการอะไร
ส่วนที่โพลระบุว่าอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณและนายอภิสิทธิ์ หันหน้ามาเจรจากัน นายนพดลตอบว่า การจะพูดจากันต้องมีความจริงใจ ปรองดองและต้องมีคนกลาง ที่น่าเชื่อถือมาพูดคุยคนกลางดังกล่าวจะต้อวงมีความเป็นธรรมโดยพื้นฐานรู้กระบวนการที่มาที่ไปทั้งหมด มองสังคมโดยองค์รวมต้องไม่เลือกว่าประชาธิปไตย หรืออำมาตย์จะชนะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ประเทศต้องชนะ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงว่า กรณีที่กัมพูชาได้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญากู้เงินสร้างถนน 1.4พันล้านบาท แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวและนายกิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ น่าจะเป็น อุปสรรคปัญหาสำคัญซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องฝากกระจกไปให้นายกษิต ส่องดูว่าตัวเอง ได้ทำอะไรบ้างใน11 เดือนที่ผ่านมา เป็นความล้มเหลวรายวัน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ควรกำจัดจุดอ่อนด้วยการปลดนายกษิต ออกจากตำแหน่ง แต่ก็ต้องดูว่านายอภิสิทธิ์ จะกล้าหรือไม่
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามลงนั้นคือ 1.การแต่งตั้ง นายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ 2.สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ได้บอกว่าจะทวงคืนปราสาทพระวิหารซึ่งข้อเท็จจริงทำไม่ได้แล้ว จึงเป็นการสร้างความ ขุ่นเคืองใจ 3.การขู่ยกเลิกเอ็มโอยูตนขอกล่าวหารัฐบาลชุดนี้เลยว่ากำลังนำประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกันนำกระแสชาตินิยมมาดำเนินนโยบายต่างประเทศ
นายนพดล ยืนยันว่าการที่กัมพูชาไม่กู้เงินไทยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการแนะนำอะไรทั้งสิ้น รัฐบาลอย่าคิดว่าตัวเองเป็นประเทศหากเกิดความ เสียหายอะไรขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ความสัมพันธ์มันแย่ลงไปอีกเมื่อรัฐบาลไปยื่นคำขาดว่าให้ปลดพ.ต.ท.ทักษิณออกจากที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา เขาก็ไม่คุยกับคุณแต่ตอบโต้กลับมา วันนี้พม่า ลาวก็มีท่าทีไม่ต้อนรับประเทศไทย รัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบายตีซี้ประเทศมหาอำนาจแต่ละเลยประเทศเพื่อนบ้านผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวอยู่อย่างไรบ้าง นายนพดล กล่าวว่ากระบวนการก่อนและหลังการตัดสิน พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่หาก สมมติว่ามีการตัดสินออกมาว่านายชุติพงษ์มีความผิด พ.ต.ท.ทักษิณจะช่วยเหลืออย่าง เต็มที่แน่นอนขอให้คุณแม่นายชุติพงษ์มั่นใจได้เลย โดยจะขอความเมตตาธรรมจากรัฐบาลกัมพูชาแต่ยังไม่ทราบว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร จะนิรโทษกรรมได้หรือไม่อย่างไร ก็ตามหากรัฐบาลไทยสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เราก็ไม่อยากไปยุ่งแต่ก็ไม่มั่นใจเพราะรัฐบาลไปด่าเขาไว้อย่างนั้นทั้งนี้ส่วนตัวรู้แนวทางที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยาก เปิดเผยแต่นายศิวรักษ์นั้นเป็นเพียงผู้ถูกใช้ไปทำงานไม่ใช่คนคิดริเริ่มคิดแผนการอะไร
ส่วนที่โพลระบุว่าอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณและนายอภิสิทธิ์ หันหน้ามาเจรจากัน นายนพดลตอบว่า การจะพูดจากันต้องมีความจริงใจ ปรองดองและต้องมีคนกลาง ที่น่าเชื่อถือมาพูดคุยคนกลางดังกล่าวจะต้อวงมีความเป็นธรรมโดยพื้นฐานรู้กระบวนการที่มาที่ไปทั้งหมด มองสังคมโดยองค์รวมต้องไม่เลือกว่าประชาธิปไตย หรืออำมาตย์จะชนะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ประเทศต้องชนะ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงว่า กรณีที่กัมพูชาได้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญากู้เงินสร้างถนน 1.4พันล้านบาท แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวและนายกิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ น่าจะเป็น อุปสรรคปัญหาสำคัญซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องฝากกระจกไปให้นายกษิต ส่องดูว่าตัวเอง ได้ทำอะไรบ้างใน11 เดือนที่ผ่านมา เป็นความล้มเหลวรายวัน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ควรกำจัดจุดอ่อนด้วยการปลดนายกษิต ออกจากตำแหน่ง แต่ก็ต้องดูว่านายอภิสิทธิ์ จะกล้าหรือไม่
