วิปรัฐบาลชงที่ประชุมร่วมรัฐสภาตั้งกรรมาธิการฯเลื่อนพิจารณา เจบีซีออกไปอีก 90 วัน ยันยกเลิกเอ็มโอยูกับกัมพูชา ไม่ผิดมาตรา 190 เพราะไม่ได้มีบทบัญญัติไว้ แต่เพื่อความชัดเจน พร้อมส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ขณะเดียวกันยัน รบ.จะพิจารณามาตรการที่จะตอบโต้กับกัมพูชาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับคนไทยมากที่สุด
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมร่วมรัฐสภาเตรียมหารือเรื่องบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเขตแดนไทยกัมพูชา (เจบีซี) รวม 3 ฉบับว่า วิปรัฐบาลได้มีการหารือเรื่องบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา โดยเห็นว่าควรที่จะมีการทบทวนและตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อให้ไปศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ปี 2544 ที่เกี่ยวกับผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนในทะเล จึงขอขยายการพิจารณาจากเดิม 15 วันเป็น 90 วัน เรื่องนี้ตนอยากให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย ซึ่งรัฐบาลและรัฐมนตรีพร้อมที่จะชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะนายกฯ พร้อมที่จะตอบคำถาม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ข้อมูลภายในและมีผลประโยชน์ร่วมกับประเทศกัมพูชา รัฐบาลจึงต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศ อย่างไรก็ตามหากฝ่ายค้านยังไม่เคลียร์ก็สามารถตั้งกระทู้ถามสดเรื่องนี้ได้ เพราะรัฐบาลยินดีที่จะชี้แจง ส่วน ส.ว.เชื่อว่าไม่มีปัญหา ซึ่งเชื่อว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยจะได้มีความชัดเจนว่าจะเลือกประโยชน์ของชาติหรือประโยชน์ของตน
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข้อสงสัยว่า หากยกเลิกเอ็มโอยูรัฐบาลจะต้องขอความเห็นจากสภาฯ หรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่จำเป็นเพราะตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้กำหนดให้ขอความเห็นชอบในเรื่องการทำสัญญาเท่านั้น ส่วนการยกเลิกสัญญานั้น ไม่ได้มีบทบัญญัติไว้จึงจะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปเพื่อความชัดเจน
เมื่อถามว่า การยกเลิกเอ็มโอยูจะทำให้มีปัญหาตามมาภายหลังหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหาเพราะสัญญาดังกล่าวเป็นข้อตกลงในทวิภาคีที่ระบุชัดเจนว่าหากฝ่ายใดยกเลิกก็สามารถทำได้ตามอนุสัญญาเจนีวา อีกทั้งการพิจารณาเรื่องเจบีซีก็ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา นอกจากนี้ รัฐบาลยืนยันว่าเราไม่มุ่งเน้นในเรื่องผลประโยชน์ของคน 2 คนที่มีประโยชน์ร่วมกัน แต่เราจะปฏิบัติทางการทูตเพื่อมุ่งเน้นผลประโยชน์ของคนในชาติ วันนี้การที่รัฐสภาแสดงท่าทีไม่เห็นชอบเจบีซีกับกัมพูชาเป็นการแสดงท่าทีชัดเจนว่าทุกฝ่ายเห็นด้วยกับรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาร่วมประชุมทีมเศรษฐกิจที่ประเทศกัมพูชา รัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร นายชินวรณ์กล่าวว่า หากมีการเชิญมาจริงเราก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใดรับเป็นที่ปรึกษาให้กับต่างชาติ และประชาชนไทยจะได้เห็นว่าใครทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
เมื่อถามต่อว่า สมเด็จฯ ฮุนเซนยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ส่งพ.ต.ท.ทักษิณให้กับรัฐบาลไทย นายชินวรณ์กล่าวว่า เราจะต้องแสดงวิธีการทางการทูตต่อไป เพื่อศักดิ์ศรีของคนไทยและประชาชนรู้สึกว่าประเทศกัมพูชาได้เข้ามาแทรกแซงการเมืองในประเทศ และขณะนี้คนไทยก็ได้ตื่นตัวในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งตนได้ยินข่าวมาว่าขณะนี้ได้มีการเรียกร้องไม่ให้คนไทยเข้าไปเล่นการพนันที่กัมพูชา ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณจะพึ่งตระหนักในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซนได้ออกมาขู่ว่าอาจจะปิดพรมแดน ซึ่งความเสียหายจะเกิดกับธุรกิจในไทยเอง นายชินวรณ์กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการต่างๆ ที่จะตอบโต้กับกัมพูชาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อคนไทยมากที่สุด ส่วนสมเด็จฯ ฮุนเซนจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นสมเด็จก็แล้วแต่