สุรินทร์- “นักพนันไทย” ไม่สนวิกฤตสัมพันธ์เขมร ยังคงแห่ทะลักหอบเงินเข้าถลุงบ่อน “กาสิโน” ชายแดนฝั่งกัมพูชาเนืองแน่น ขณะชาวกัมพูชาต่างเร่งซื้อสินค้ากักตุนผวาปิดพรมแดน ด้านพื้นที่พิพาทปราสาทตาเมือนธมทหารทั้ง 2 ประเทศตรึงกำลังและลาดตระเวนคุมเข้ม 24 ชม. แต่เจรจากันได้ด้วยดี ทหารเขมรโอดไม่อยากสู้รบกับไทยหวั่นสูญเสีย และปชช.กัมพูชาลำบากเดือดร้อนมากกว่า
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดด่านให้ประชาชน 2 ประเทศเดินทางเข้า-ออกได้ตามปกติ ปรากฏว่ามีประชาชนนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นจำนวนมากมายืนเข้าแถวรอยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือบอร์เดอร์พาส ที่บริเวณด่านตรวจผ่านแดนขาออกเพื่อเดินทางเข้าไปเล่นการพนันยังบ่อนกาสิโนฝั่งชุมชนโอร์เสม็ด กัมพูชา ที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทย ซึ่งมีกาสิโนขนาดใหญ่ครบวงจรเปิดให้บริการอยู่ถึง 2 แห่ง คือ “โอร์เสม็ดรีสอร์ท” ของ นายพัด สุภาภา หรือ “ลียง พัด” นักธุรกิจสองสัญชาติชื่อดัง “นอนิมี” นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ “รอยัล ฮิลล์ โฮเต็ล” ของ กลุ่ม “ลืมเฮงกรุ๊ป” กัมพูชา ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสิงคโปร์ และไทย
โดยชาวไทยที่เดินทางผ่านแดนเข้าไปเล่นพนันในกาสิโนฝั่งประเทศกัมพูชาดังกล่าวไม่ได้วิตกหรือกังวลกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาที่กำลังตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างใด แต่ยังคงเดินทางนำเงินเข้าไปเล่นการพนันอย่างเนืองแน่นวันละกว่า 1,500 คน เช่นเดียวกับทุกช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แตกต่างจากประชาชนชาวกัมพูชาที่เดินทางข้ามแดนเข้าในฝั่งประเทศไทย ต่างได้พากันรีบตรงเข้าไป หาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่บริเวณตลาดชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อนำกลับ เข้าไปกักตุนไว้ในฝั่งกัมพูชาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากวิตกกังวลกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เกรงจะรุนแรงบานปลายนำไปสู่การปิดพรมแดนระหว่างกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันชาวกัมพูชาต้องพึ่งพาสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยเป็นหลักและเคยประสบความลำบากเดือดร้อนจากเหตุการณ์ขัดแย้งในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้พวกเขาต้องเร่งซื้อสินค้า ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเข้าไปกักตุนไว้อย่างเพียงพอ ส่งให้บรรยากาศการค้าขายที่ตลาดชายช่องจอมในวันนี้ คึกคักเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทหารพรานกองร้อยจู่โจม ที่ 961 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ติดอาวุธ เดินลาดตระเวนรักษาการณ์พื้นที่ตามแนวชายแดนปราสาทตาเมือนธมอย่างเข้มงวด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรุกล้ำเขตแดนของฝ่ายกัมพูชา
ขณะที่ด้านฝั่งประเทศกัมพูชาก็มีทหารกัมพูชาแต่งเครื่องแบบทหารพร้อมอาวุธสงครามเข้ามาปักหลักเข้าเวรรักษาการณ์พื้นที่ชายแดนห่างจากทางบริเวณขึ้นปราสาทตาเมือนธมออกไปราว 30 เมตร ซึ่งเมื่อทหารกัมพูชา เห็นผู้สื่อข่าวกำลังบันทึกภาพ ได้วางอาวุธสงครามไว้ในเขต กัมพูชา แล้วเดินเข้ามาสอบถามทักทายผู้สื่อข่าวไทยว่า มาจากไหน มาทำอะไร
จ.ส.อ.กุหลาบ เม็ด อายุ 35 ปี ทหารสังกัดกองกำลังรักษาชายแดนที่ 402 กัมพูชา ซึ่งเป็นชาว อ.บันเตียมีชัย จ.บันเตียอำปึล กัมพูชา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชาและทหารไทยในพื้นที่ไม่มีปัญหาอะไรกัน เจรจากันด้วยดี เข้าใจกันดี ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ได้ เพราะหากสู้รบกันทหารก็ลำบากหนีไม่พ้นต้องเกิดการสูญเสีย จึงไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น ขอยืนยันว่าทหารไทยและกัมพูชาอยู่ด้วยกันเข้าใจกันดีไม่มีปัญหาอะไรเลย ความสัมพันธ์ในพื้นที่ดีมาก
“อยากให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาแก้ไขปัญหาด้วยความสันติ ประชาชนและทหารชายแดนทั้ง 2 ประเทศจะได้ไม่เดือดร้อน เพราะหากสู้รบกันขึ้น ทั้งทหารกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาจะเดือดร้อนมากกว่าคนไทย ”จ.ส.อ.กุหลาบ กล่าว