ชาวเขมรก้มหน้ารับกรรม - “ฮุนเซน เบี้ยแม้ว” สติแตกระรานไทย ท้า “มาร์ค” ยุบสภาฯ

สุรินทร์ - ประชาชนกัมพูชาก้มหน้ารับกรรมไม่กล้าแสดงความเห็น ผวาอำนาจอิทธิพลเถื่อนรัฐบาล หลัง “ฮุนเซน เบี้ย นช.แม้ว” สติแตกแถลงกร้าวผ่านทีวี “ลูกสาว” ในพนมเปญ ระรานไทยนานกว่า 1 ชม. เผยท้าทาย “อภิสิทธิ์” นายกฯไทย ให้ปิดพรมแดนใครเสียหายมากกว่ากัน พร้อมจุ้นท้าให้ยุบสภาฯ ทำเป็นรู้ดีเชื่อ “เพื่อไทย” ชนะแน่ อัดไทยเลิก “MOU” เปรียบเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ชี้เป็นเพื่อนกับ “นักโทษทักษิณ” มานาน

วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ “บายน ทีวี” ซึ่งลูกสาวนายฮุนเซน เป็นเจ้าของ ตอบโต้โจมตีไทย และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย นานกว่า 1 ชั่วโมง ช่วงเย็นวานนี้ ส่งผลให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการค้าขายที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เต็มไปด้วยความสับสน ข่าวลือ และความวิตกกังวลของประชาชนชาวกัมพูชาที่เกรงว่าจะมีการปิดพรมแดนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ประชาชนชาวกัมพูชาในตลาดชุมชนโอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ราว 600 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าและข้าราชการกัมพูชา ได้พากันเปิดโทรทัศน์ติดตามชมถ่ายทอดสดการแถลงข่าวด้วยท่าทีแข็งกร้าวต่อประเทศไทยของนายฮุนเซน เมื่อเย็นวานนี้ (8 พ.ย.) กันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวกัมพูชาและข้าราชการเหล่านี้ ต่างก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟัง ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อนายฮุนเซน ผู้นำหมายเลขหนึ่งของพวกเขา เพราะทุกคนเกรงกลัวอำนาจและอิทธิพลของรัฐบาลกัมพูชา

แต่ส่วนใหญ่จะเข้ามาสอบถามผู้สื่อข่าวไทยว่า ไทยจะปิดด่านชายแดนหรือไม่ ถ้าปิดด่านชายแดนชาวกัมพูชาต้องเดือดร้อนหนักแน่ ทั้งการดำรงชีวิตและการค้าขาย ซึ่งขณะนี้ไม่กล้าสั่งสินค้าเข้ามาขายกลัวว่าจะมีการปิดด่านชายแดนเกิดขึ้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ประกาศกร้าวแล้วว่า หากไทยปิดพรมแดนเขาก็จะปิดด่านชายแดนด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการท้าทายอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทยและคนไทยอย่างชัดเจน

สำหรับเนื้อหาประเด็นสำคัญของการแถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในกรุงพนมเปญ เมื่อวานนี้ ( 8 พ.ย.) ของฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้ตอบโต้โจมตีประเทศไทยและรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยสีหน้าท่าทางแข็งกร้าว ชนิดไม่ยอมลดละและท้าทายอยู่ตลอดเวลา พอสรุปได้ว่าเหตุการณ์ตอบโต้กันไปมาระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นเรื่องส่วนตัวของตนกับนายอภิสิทธิ์ เววชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งการกระทำที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรีไทยทำไปด้วยความใจร้อนโมโห ประชาชนไม่เกี่ยวข้อง

ขอยืนยันว่าจะไม่ปิดพรมแดน แต่หากไทยปิดพรมแดน กัมพูชาก็จะปิดพรมแดนด้วย และ กัมพูชาขอท้าให้ไทยปิดด่านชายแดน จะได้รู้ว่าใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์มากกว่ากัน ในแต่ละปีไทยได้เงินจากการค้าขายกัมพูชาไปกี่ร้อยดอลลาร์ กัมพูชาค้าขายกับไทยได้กี่ร้อยดอลลาร์ และหากไทยปิดชายแดนกัมพูชาก็จะปิดชายแดนเช่นกัน และจะไม่ซื้อสินค้าจากไทย จะไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่น ที่เขาจะค้าขายกับกัมพูชา

ส่วนกรณีปัญหาพิพาทกรณีเขาพระวิหารนั้น นายฮุนเซนบอกว่า กัมพูชาจะไม่มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปยังปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย

พร้อมระบุว่า ตนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นเพื่อนกันมานานแล้วก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพิ่งเป็นเพื่อนกัน และขอท้าทายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ให้ยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ เขาเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังได้ตอบโต้รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า บันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ทำไว้หลายเรื่องได้ถูกทำลายลง เหมือนกับการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า


จากนั้น นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวทั้งเรื่องการที่ไทยคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ตลอดทั้งการที่เลขาธิการอาเซียนออกมาเคลื่อนไหวกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชาว่าจะทำให้อาเซียนหมดความสำคัญลง ซึ่งนายฮุนเซน ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวอย่างดุเดือดและด้วยท่าทีแข็งกร้าวตลอดเวลา