ASTVผู้จัดการรายวัน-คมนาคมหงอปล่อยโทลล์เวย์ขึ้นค่าผ่านทาง 22 ธ.ค. อ้างเงื่อนไขสัญญาบล็อก สั่งกรมทางหลวง-สนข. ประสานตำรวจทำแผนจราจรถนนวิภาวดี ช่วง ดอนเมืองโทลล์เวย์ ขึ้นค่าผ่านทาง เชื่อคนแห่ใช้พื้นราบ “โทลล์เวย์”เมินคนหนี เชื่อโกยรายได้เพิ่มอีก 5แสน-1 ล้านบาทต่อวัน
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ จะปรับขึ้นค่าผ่านทางตลอดเส้นทางสำหรับรถ 4 ล้อ จาก 55 บาท เป็น 85 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2552 นั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมประเมินว่าประชาชนจะหันมาใช้ถนนวิภาวดี มากขึ้น ดังนั้นจึงให้กรมทางหลวงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ช่วยอำนวยความสะดวกและระบายการจราจร บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยเฉพาะช่วงที่เป็นจุดตัดทางแยก เพื่อให้สภาพการจราจรคล่องตัวขึ้น
นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวยอมรับว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน และขณะนี้ก็ ยังไม่มีการเจรจากับบริษัทให้ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นประเด็นกฎหมายข้อสัญญาสัมปทาน ที่กรมทางหลวงไม่สามารถก้าวล่วงเกินกว่าที่เงื่อนไขกำหนดได้ อย่างไรก็ตามในช่วงแรกที่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางคาดว่ารถส่วนหนึ่งจะลงมาใช้ถนนวิภาวดีรังสิตแทนดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งจะปริมาณจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตเพิ่มมากขึ้นแน่นอน จึงได้ประสานกับตำรวจจราจรเพื่อจัดทำแผนการจราจรในช่วงดังกล่าว เพื่อดูแลไม่ให้เกิดปัญหาจราจร
“เชื่อว่าบริษัทคงประเมินได้ว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างไร และควรจะช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างไร เพราะบริษัทได้มีการออกแบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการปรับขึ้นค่าผ่านทางครั้งนี้”นายวีระกล่าว
ด้านนายสมบัติ พาณิชย์ชีวะ ประธานกรรมการบริหารดอนเมืองโทลล์เวย์ กล่าวยืนยันการปรับขึ้นค่าผ่านทางในวันที่ 22 ธ.ค. 2552 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งการยืดเวลาออกไป หรือให้ส่วนลด เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน ระหว่าง บริษัทกับ กรมทางหลวง ซึ่งจากการประเมินคาดว่า ในช่วงแรกจะมีปริมาณรถลดลงประมาณ 30-40% จากปริมาณรถปัจจุบัน ประมาณ 1 แสนคันต่อวัน
แม้ปริมาณจราจรจะลดลงแต่ก็ไม่กระทบต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากค่าผ่านทางที่ปรับเพิ่มขึ้นจะมาชดเชยปริมาณรถที่หายไป โดยปัจจุบัน มีรายได้ประมาณ 4 ล้านบาทต่อวันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3 ล้านบาท แต่หากปรับขึ้นค่าผ่านทางคาดว่า จะมีรายได้เพิ่มเป็น 4.5-5 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่บริษัทมีหนี้เงินกู้ประมาณ 7,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6% หรือประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี
“การให้ส่วนลดหรือไม่ จะต้องประเมินดูหลังจากที่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะให้ส่วนลดหรือไม่เพราะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจแล้วซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ทางที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนที่ถนนด้านล่างมีปัญหาการจราจรหนาแน่น”นายสมบัติกล่าว
”โสภณ”สั่ง กทพ.หาช่องเปิดฟรีทางด่วนช่วงปีใหม่
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติการยกเว้นค่าผ่านทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 และ 9ของกรมทางหลวง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณายกเว้นค่าผ่านทางด่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบและไม่เกี่ยวข้องกับเอกชน
คาดว่าในเดือนธ.ค.นี้ ครม.คงอนุมัติ ให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ได้ ซึ่งการยกเว้นค่าผ่านทางสามารถทำได้เฉพาะเส้นทางที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคมเท่านั้น ส่วนเส้นทางที่เป็นของเอกชนไม่สามารถดำเนินการยกเว้นค่าผ่านทางได้เพราะจะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทเอกชน”นายโสภณ กล่าว
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ จะปรับขึ้นค่าผ่านทางตลอดเส้นทางสำหรับรถ 4 ล้อ จาก 55 บาท เป็น 85 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2552 นั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมประเมินว่าประชาชนจะหันมาใช้ถนนวิภาวดี มากขึ้น ดังนั้นจึงให้กรมทางหลวงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ช่วยอำนวยความสะดวกและระบายการจราจร บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยเฉพาะช่วงที่เป็นจุดตัดทางแยก เพื่อให้สภาพการจราจรคล่องตัวขึ้น
นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวยอมรับว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน และขณะนี้ก็ ยังไม่มีการเจรจากับบริษัทให้ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นประเด็นกฎหมายข้อสัญญาสัมปทาน ที่กรมทางหลวงไม่สามารถก้าวล่วงเกินกว่าที่เงื่อนไขกำหนดได้ อย่างไรก็ตามในช่วงแรกที่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางคาดว่ารถส่วนหนึ่งจะลงมาใช้ถนนวิภาวดีรังสิตแทนดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งจะปริมาณจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตเพิ่มมากขึ้นแน่นอน จึงได้ประสานกับตำรวจจราจรเพื่อจัดทำแผนการจราจรในช่วงดังกล่าว เพื่อดูแลไม่ให้เกิดปัญหาจราจร
“เชื่อว่าบริษัทคงประเมินได้ว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างไร และควรจะช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างไร เพราะบริษัทได้มีการออกแบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการปรับขึ้นค่าผ่านทางครั้งนี้”นายวีระกล่าว
ด้านนายสมบัติ พาณิชย์ชีวะ ประธานกรรมการบริหารดอนเมืองโทลล์เวย์ กล่าวยืนยันการปรับขึ้นค่าผ่านทางในวันที่ 22 ธ.ค. 2552 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งการยืดเวลาออกไป หรือให้ส่วนลด เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน ระหว่าง บริษัทกับ กรมทางหลวง ซึ่งจากการประเมินคาดว่า ในช่วงแรกจะมีปริมาณรถลดลงประมาณ 30-40% จากปริมาณรถปัจจุบัน ประมาณ 1 แสนคันต่อวัน
แม้ปริมาณจราจรจะลดลงแต่ก็ไม่กระทบต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากค่าผ่านทางที่ปรับเพิ่มขึ้นจะมาชดเชยปริมาณรถที่หายไป โดยปัจจุบัน มีรายได้ประมาณ 4 ล้านบาทต่อวันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3 ล้านบาท แต่หากปรับขึ้นค่าผ่านทางคาดว่า จะมีรายได้เพิ่มเป็น 4.5-5 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่บริษัทมีหนี้เงินกู้ประมาณ 7,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6% หรือประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี
“การให้ส่วนลดหรือไม่ จะต้องประเมินดูหลังจากที่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะให้ส่วนลดหรือไม่เพราะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจแล้วซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ทางที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนที่ถนนด้านล่างมีปัญหาการจราจรหนาแน่น”นายสมบัติกล่าว
”โสภณ”สั่ง กทพ.หาช่องเปิดฟรีทางด่วนช่วงปีใหม่
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติการยกเว้นค่าผ่านทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 และ 9ของกรมทางหลวง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณายกเว้นค่าผ่านทางด่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบและไม่เกี่ยวข้องกับเอกชน
คาดว่าในเดือนธ.ค.นี้ ครม.คงอนุมัติ ให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ได้ ซึ่งการยกเว้นค่าผ่านทางสามารถทำได้เฉพาะเส้นทางที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคมเท่านั้น ส่วนเส้นทางที่เป็นของเอกชนไม่สามารถดำเนินการยกเว้นค่าผ่านทางได้เพราะจะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทเอกชน”นายโสภณ กล่าว
