ASTVผู้จัดการรายวัน – แดงเบรกหัวทิ่มหลังโดนรุมยำไม่รู้ที่ต่ำที่สูงจัดม็อบป่วนเมืองช่วงวันมหามงคล เล็งหาฤกษ์เผาบ้านเผาเมืองใหม่กลางธ.ค. “มาร์ค” ยันพร้อมยุบสภาหากเศรษฐกิจฟื้น-เสื้อแดงสงบ “เทือก” เสียงแข็งไม่ยกเลิกพ.ร.บ.ความมั่นคงอ้างสถานการณ์ยังไม่แน่นอน ส่วนกำหนดเดินทางเชียงใหม่ของนายกฯ ยังรอประเมินสถานการณ์ ขณะที่โรงเรียนรอบบริเวณประชุมที่เชียงใหม่สั่งหยุดเรียนชั่วคราวหวั่นอันตรายม็อบหางแดง
เมื่อเวลา 19.00น. วานนี้ (25 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังปฏิบัติภารกิจที่รัฐกาตาร์ โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอร์เรน จากรัฐการ์ต้า โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนดว่า หากไม่มีการชุมนุมก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เดิมทีได้นัดประชุมในวันที่ 26 พ.ย.นี้ เวลา 11.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคงจะดูความเหมาะสมในสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังข้อมูลจากฝ่ายกอ.รมน.ว่ามีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องไม้ ในการทำงานอย่างไรด้วยหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วหากเหตุการณ์จากวันนี้ไปจนถึงวันอังคารหน้ายังไม่มีอะไรคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก็จะสามารถพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้าอยู่แล้ว
ส่วนแผนการเดินทางไปจ.เชียงใหม่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะหลังจากประชุม ครม.เป็นเรื่องที่ให้ทางผู้จัดงานกับฝ่ายความมั่นคงคุยกันว่าได้เตรียมการไว้อย่างไร หรือคาดหมายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็จะบอกให้ตนทราบเป็นลำดับต่อไป ส่วนกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอให้มีการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุม ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง จะคุยกับฝ่ายผู้จัดงาน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า ทางสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุคำให้สัมภาษณ์นายกฯว่า จะอยู่ไม่ครบ 2 ปี และจะยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหมายถึงอยู่ 2 ปี ครบเทอม
"เทอมของผมเหลืออีก 2 ปี ผมได้บอกไปว่าพูดไปแต่ต้นแล้วว่า ผมไม่ได้ตั้งเป้าคาดคิด หรือแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องอยู่ครบ และเรื่องของการที่จะเลือกตั้งก่อนที่สภาจะหมดอายุ ผมพูดมาตลอดว่า เป็นสิ่งที่ผมจะพิจารณาเมื่อเห็นว่าจะเป็นประโยชน์มีความเหมาะสม ก็ยังยืนยันเงื่อนไขเดิม อยากเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเข็งแกร่ง อยากเห็นว่า กติกาที่จะไปเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และอยากเห็นทุกฝ่ายเลิกการขัดขวางการทำงานทางการเมืองของฝ่ายอื่นๆ ถ้า 3 เงื่อนไขนี้พร้อมเมื่อไหร่ ผมคิดว่าก็น่าเป็นเรื่องที่จะพิจารณา" นายอภิสิทธิ์กล่าว
**“ยะใส” ชี้แม้วเปลี่ยนแผนประเมินอำมาตย์ผิด
นายสุริยะใส กตะศิลาผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า สาเหตุที่ นปช.เลื่อนการชุมนุมออกไปไม่มีกำหนดนั้นไม่เกี่ยวกับงานเทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช เพราะเดิมที ทักษิณ กำหนดยุทธศาสตร์แตกหักในช่วงงานมหามงคลด้วยซ้ำ ฉะนั้นการเลื่อนชุมนุมไป น่าจะเกิดจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้
ปัจจัยแรก เกิดจากการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดของ ทักษิณ ที่มองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของบุคคลพิเศษระดับสูง และหวังจะกดดันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองและเปิดทางให้ตนเองกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องรับผิดอะไร ปัจจัยที่สอง เกิดจากความผิดพลาดกรณีรับเป็นที่ปรึกษานายฮุนเซน ส่งผลให้เครือข่ายและบริวาร สูญเสียความชอบธรรม และแนวร่วมหลายส่วนผิดหวังไม่เชื่อมั่น ปัจจัยที่สาม เกิดจากบทสัมภาษณ์ในไทมส์ ออนไลน์ ที่พาดพิงและจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงแรงกว่าทุกครั้ง ทำให้แนวร่วมหรือแม้แต่พลังเงียบบางส่วนรับไม่ได้ จนปฏิเสธเข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้ในครั้งนี้ และปัจจัยที่ 4 แผนเคลื่อนไหวบางส่วนถูกเปิดเผยออกมาล่วงหน้า ส่งผลให้ฝ่ายความมั่นคงตั้งรับได้ทัน และยังประกาศ ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงยาวนานกว่าทุกครั้ง
**แกนนำแดงกำนัดอีกครั้งกลาง ธ.ค.
วานนี้ (25 พ.ย.) แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประชุมเพื่อทบทวนแผนการชุมนุมอีกครั้ง โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงแถลงหลังการประชุมว่า จากการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-วันที่ 2 ธ.ค.นั้น ผู้จัดการชุมนุมได้คำนึงที่สุดที่จะไม่ให้กระทบกับงานเฉลิมพระชนมพรรษาฯ แต่เมื่อรัฐบาลไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ใจและมีอคติของประชาชน รวมทั้งคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีเจตนาร้ายต่อสังคมไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงทำให้พวกเรากลับมาคิดทบทวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อไม่ให้กระทบต่องานสำคัญเป็นอันขาด
?เราต้องให้บทเรียนกับรัฐบาล และเราจะแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนเสื้อแดงตกลงใจจะเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนด เหตุผลเพื่อจะบอกว่าเรามีความรับผิดชอบและมีสำนึก แต่ยืนยันว่าการชุมนุม 1 ล้านคนเกิดขึ้นแน่ ซึ่งแกนนำจะมีการประชุมกำหนดท่าทีอีกครั้งกลางเดือนธันวาคม?
**สุเทพยังไม่เลิกใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไป ทางรัฐบาลก็จะยังไม่ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯที่จะใช้ควบคุมสถานการณ์ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค. เพราะรัฐบาลต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่แน่นอน การจะตัดสินใจยกเลิกก็จะต้องดูว่า เหตุการณ์ไม่มีอะไรแล้ว การจะยกเลิกเมื่อใดนั้นต้องดูเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ
นายสุเทพ เกล่าวว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ในพื้นที่ กทม. เป็นการตัดสินใจของ ครม. ตนในฐานะฝ่ายความมั่นคงเป็นเพียงเสนอเข้า ครม. และอธิบายเหตุผลชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง แม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเสนอจะให้ประกาศเฉพาะเขตดุสิต และขยายพื้นที่แขวงโสมนัสและบางขุนพรหมแต่เมื่อกลุ่มเสื้อแดง บอกว่าจะ ดาวกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ที่ประชุม ครม.จึงมีความเป็นห่วงผู้ชุมนุม ไปปิดตามแยกต่างๆ เหมือนที่เคยทำมาก็จะทำให้ กทม.เป็นอัมพาต ประชาชนก็จะเดือดร้อน และรัฐบาลก็จะแก้เหตุการณ์ได้ไม่ทัน เพราะกว่าจะมาประชุม ครม. เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนก็ได้รับความเดือดร้อนไปแล้ว ซึ่งฟังดูแล้ว ครม.ก็มีเหตุผล
**ถ้านายกฯ ไปเชียงใหม่ต้องใช้ พ.ร.บ.มั่นคง
"การประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง ที่เชียงใหม่ ที่ ประชุม ครม.ก็มีการซักถามถึงทางเลือกทางอื่น ผมก็บอกไปว่า ถ้านายกฯยืนยันที่จะเดินทางไป ผมก็ต้องขอ ประกาศ พ.ร.บ.ในเชียงใหม่ ในพื้นที่ที่จะจัดการประชุม ซึ่งก็จะพยายามไม่ให้กระทบกับชาวเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากที่ผมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มั่นใจว่าจะสามารถดูแล ความปลอดภัยนายกฯได้แน่นอน เพียงแต่กังวลใจว่าจะมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้น แค่ปะทะกันเล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ ครม.จึงให้ผมไปประสานในพื้นที่และติดตามสถานการณ์ ให้ละเอียดกว่านี้"
ส่วนเรื่องที่จะไปเชียงใหม่ทางหอการค้าเขาคาดหวังว่าเขาจะเจรจากับกลุ่ม เสื้อแดงได้ ที่จะขอให้เลิกการชุมนุม โดยให้นำการประชุมของหอการค้าเป็นจุดเริ่มต้น ของความสมานฉันท์ ซึ่งเขาได้ประสานเรียบร้อยแล้วแต่มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ ไม่ยอมและยังออกวิทยุชุมนข่มขู่พวกเดียวกันว่า ถ้าไปยอมเจรจาแสดงว่าไม่ใช่แดงแท้ ถึงได้เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นจังไม่ใช่เรื่องที่นายกฯ ดึงดันไปให้เกิดปัญหา ซึ่งกลุ่มหอการค้าเข้าคาดหวังไว้สูง เนื่องจากเชียงใหม่จะต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวและนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่าง ประเทศ ถ้าคนเสื้อแดง ทำให้เชียงใหม่วุ่นวายก็จะเสียหายกับธุรกิจของชาวเชียงใหม่เอง
**กอ.รมน.ถกแผนเพื่อความไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายสุเทพ เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน. เพื่อประชุมจัดทำแผนรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อจัดตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการร่วมหลัง กอ.รมน.ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.52 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พล.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุมแต่ กอ.รมน.ต้องออกแผนของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบส่วนหน้าก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อทางกลุ่มเสื้อแดงไม่มาชุมนุมแล้ว ทางด้านความมั่นคงก็คงต้องมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะมีความเห็นอย่างไร
**ตำรวจทำหน้าที่ส่วนทหารอยู่ในที่ตั้ง
ทางด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และในฐานะโฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า เมื่อกลุ่มเสื้อแดงได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมแล้วเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติภารกิจก็จะอยู่ในที่ตั้งปกติ จะปรับตามสถานการณ์ และเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก ส่วนทหารจะอยู่ในที่ตั้งปกติทั้งหมด พร้อมที่จะออกปฏิบัติภารกิจได้หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป หากสถานการณ์ปกติเป็นหน้าที่ของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้คงการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงไว้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงกำลังไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้ออกนอกที่ตั้งปกติ กันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ก่อม็อบ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องมองโลกในแง่ดีขณะนี้ใกล้วันเฉลิมพระชนม์พรรษา เป็นช่วงที่ดัชนีชี้วัดตัวเลขภาคอุตสาหกรรมมีความมั่นใจมากขึ้น ใกล้ไฮซีซั่น ทุกคนมุ่งหวังอยากให้ บ้านเมืองสงบ ฉะนั้นการที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนอย่างนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีน่าเชื่อถือ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการประชุมปรากฏว่าได้มีนกกา 3 ตัวบินวนร้องด้านหัวมุมตึกด้านซ้ายของตึกไทยคู่ฟ้า และได้มีขนนกร่วงลงมา ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้สื่อข่าว
**"ชวรัตน์"ย้ำ"มาร์ค"ไม่ควรไปเชียงใหม่
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่าในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่านายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่หรือไม่ ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศก็ต้องไปทั้งงานราชการ และงานเอกชน แต่ตอนนี้มันมีการปล่อยข่าวลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้มีปัญหา อย่างที่เคยบอก เรื่องนี้ก็เหมือนไม้ขีดไฟ ซึ่งต้องมีกลักไม้ขีด ก้านไม้ขีด ถ้ามีแต่กลักไม่มีก้าน ไฟก็ไม่ติด ถ้าเราเป็นก้าน ส่วนทางโน้นเป็นกลัก แล้วเราไม่เอาก้านไปเจอ ไฟก็ไม่มีการปะทะกัน ส่วนที่ว่าหากนายกรัฐมนตรี ดึงดันจะไปจ.เชียงใหม่ จะทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่หมอดู
**รัฐบาลรอประเมินสถานการณ์อีก 2 วัน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ได้หารือถึงการเดินทางไปร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่จ.เชียงใหม่ของนายกรัฐมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย. มีความเห็นว่า ให้รอประเมินสถานการณ์อีกสัก 2 วัน โดยหลังนายกนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากการ์ต้า ที่จะประเมินเหตุการณ์ว่าควรจะไปหรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่าสำหรับปัจจัยในการตัดสินใจมี 2 อย่างคือ 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และฝ่ายความมั่นคง จะลงพื้นที่และพูดคุยกับผู้จัดงานประชุมหอการค้า ว่าถ้านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมมีความเป็นไปได้แค่ไหน อาจเปลี่ยนสถานที่ เฉพาะตอนที่นายกรัฐมนตรีไป เพราะเป้าหมายในการไปคือ พบหอการค้าทั่วประเทศ และรัฐบาลอยากเอาทีมเศรษฐกิจไปพบกับเขาอยู่แล้ว 2. เรื่องการชุมนุม ซึ่งขณะนี้มีความพยายามปลุกระดมให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งฝ่ายข่าวคงจะประเมินว่าเป้าประสงค์ของกลุ่มผู้ชุมยังประสงค์ที่จะทำร้ายหรือสร้างเหตุการณ์รุนแรงขึ้น หรือไม่และถ้ามีเช่นนั้นฝ่ายความมั่นคงสามารถ ที่จะดูแลเหตุการณ์ได้มากน้อยเพียงใด
**เป็นไปได้เปลี่ยนสถานที่ประชุม
นายสาทิตย์ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีเองไม่อยากให้มีเหตุการณ์นำไปสู่การปะทะกัน ซึ่งบางฝ่าย ให้เหตุผลว่าอาจเป็นเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามให้เกิดความรุนแรง ขึ้นมาและมีการปะทะกัน พอมีการปะทะกันแล้วจะได้เป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวต่อ ที่กรุงเทพฯ ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าการที่นายกฯไปเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาล ให้ความสำคัญกับทุกภูมิภาคในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ก็เป็นสอง เหตุผล จุดหลักคือพยายามประเมินเหตุผลไปให้รอบครอบที่สดุเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและนำไปสู่การขยายผลในการชุทมนุมต่อ
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนสถานที่ประชุมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นไปได้ ซึ่งคุยกันแล้วและไปดูกันแล้วหลายที่ ส่วนแนวทางการพูดคุยผ่าน วีดีโอคอนเฟอเร้นท์นั้น ทางกระทรวงมหาดไทยมีอยู่แล้วโดยเฉพาะนายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยได้รับเชิญให้ไป ท่านก็ไม่ไป ท่านก็ใช้วีดีโอคอนเฟอเร้นท์ ดังนั้นคงเตรียมไว้หลายๆอย่าง
**โรงเรียนเชียงใหม่ประกาศหยุดเรียน
สำหรับบรรยากาศในจ.เชียงใหม่ ปรากฎว่า โรงเรียนชื่อดังหลายแห่งที่ตั้งอยู่ย่านถนนเจริญประเทศ -ถนนช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เรยีนาเชลีวิทยาลัย พระหฤทัยเชียงใหม่ มงฟอร์ตประถม ชัยโรจน์วิทยา ฯลฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมเลอเมอริเดียน สถานที่ประชุมหอการค้าไทย ครั้งที่ 27 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.52 นี้ ต้องประกาศหยุดเรียนในวันปกติ 1 วันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.52 รวมโปรแกรมเรียนพิเศษในวันเสาร์-อาทตย์ ที่ 28-29 พ.ย.52 ก็ต้องหยุดทั้งหมดด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็กนักเรียนขึ้นได้ หากเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมา จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมป่วนเมืองหาก นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าที่ จ.เชียงใหม่
**ยอดยืนยันร่วมประชุมหอฯยังหลุดเป้า
วันเดียวกันหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่จ.เชียงใหม่ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.2552 โดยนายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีของ จ.เชียงใหม่ที่จะได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาร่วมการประชุมหรือไม่นั้นเวลานี้ยังไม่ได้รับการยืนยันต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสินใจของตัวนายกฯเอง
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า หลังจากที่เกิดกรณีคนเสื้อแดง ข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตนายกฯหากเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ ทำให้เวลานี้มีจำนวนผู้ที่ยืนยันว่าจะยังคงเข้าร่วมประชุมประมาณ 1,000 คน เป็นกลุ่มประธานหอการค้า เลขาธิการหอการค้าและผู้ว่าราชการจังหวัดจากจังหวัดต่างๆ ประมาณ 700 คน และผู้ติดตามประมาณ 400 คน จากเดิมที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 2,000 คน ทั้งนี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับหอการค้าทั่วประเทศแล้วว่า สถานการณ์ไม่ได้รุนแรง คาดว่าเมื่อถึงช่วงประชุมจริงน่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมเพิ่มมากขึ้นกว่านี้
**ปชป.เหนือเชียร์นายกฯ ไปเชียงใหม่
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน กลุ่มส.ส.ภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร นายขยัน วิพหรมชัย ส.ส.ลำพูน นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล ส.ส.สุโขทัย และนายสมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปเข้าร่วมประชุมประจำปีสภาหอการค้าที่ จ.เชียงใหม่
นพ.วรงค์ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่วนกรณที่มีกระแสข่าวคัดค้านการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีถึงขั้นหมายปองเอาชีวิต ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนเสื้อแดงจ.เชียใหม่ได้ประกาศออกมานั้น ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงบรรยากาศฤดูหนาว เป็นการเริ่มต้นการท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือโดยรวมทั้งหมด ดังนั้นอยากเรียนไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่ และชาวเหนือว่า อยากให้นายกฯพบประชาชนอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าพี่น้องชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ จะรักนายกฯท่านนี้
ด้านนายธนิตพล กล่าวเสริมว่า นายกฯ ไม่ใช่ตัวจุดประเด็นของปัญหา หรือจุดชนวนความขัดแย้ง แต่ท่านต้องไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าไปดูแลรับฟังปัญหาของประชาชน เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากนายกรัฐมนตรี แต่มาจากความไม่เห็นด้วยของคนเสื้อแดง และใช้ความไม่เห็นด้วยตรงนี้มาสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความรุนแรง และช่วงนี้ใกล้เข้าปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของคนภาคเหนือ อยากเรียกร้องขอของขวัญปีใหม่จากคนเสื้อแดง ที่ให้กับประชาชนทั้งประเทศ ถ้าหากคิดว่ารักชาติ
เมื่อเวลา 19.00น. วานนี้ (25 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังปฏิบัติภารกิจที่รัฐกาตาร์ โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอร์เรน จากรัฐการ์ต้า โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนดว่า หากไม่มีการชุมนุมก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เดิมทีได้นัดประชุมในวันที่ 26 พ.ย.นี้ เวลา 11.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคงจะดูความเหมาะสมในสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังข้อมูลจากฝ่ายกอ.รมน.ว่ามีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องไม้ ในการทำงานอย่างไรด้วยหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วหากเหตุการณ์จากวันนี้ไปจนถึงวันอังคารหน้ายังไม่มีอะไรคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก็จะสามารถพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้าอยู่แล้ว
ส่วนแผนการเดินทางไปจ.เชียงใหม่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะหลังจากประชุม ครม.เป็นเรื่องที่ให้ทางผู้จัดงานกับฝ่ายความมั่นคงคุยกันว่าได้เตรียมการไว้อย่างไร หรือคาดหมายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็จะบอกให้ตนทราบเป็นลำดับต่อไป ส่วนกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอให้มีการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุม ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง จะคุยกับฝ่ายผู้จัดงาน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า ทางสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุคำให้สัมภาษณ์นายกฯว่า จะอยู่ไม่ครบ 2 ปี และจะยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหมายถึงอยู่ 2 ปี ครบเทอม
"เทอมของผมเหลืออีก 2 ปี ผมได้บอกไปว่าพูดไปแต่ต้นแล้วว่า ผมไม่ได้ตั้งเป้าคาดคิด หรือแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องอยู่ครบ และเรื่องของการที่จะเลือกตั้งก่อนที่สภาจะหมดอายุ ผมพูดมาตลอดว่า เป็นสิ่งที่ผมจะพิจารณาเมื่อเห็นว่าจะเป็นประโยชน์มีความเหมาะสม ก็ยังยืนยันเงื่อนไขเดิม อยากเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเข็งแกร่ง อยากเห็นว่า กติกาที่จะไปเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และอยากเห็นทุกฝ่ายเลิกการขัดขวางการทำงานทางการเมืองของฝ่ายอื่นๆ ถ้า 3 เงื่อนไขนี้พร้อมเมื่อไหร่ ผมคิดว่าก็น่าเป็นเรื่องที่จะพิจารณา" นายอภิสิทธิ์กล่าว
**“ยะใส” ชี้แม้วเปลี่ยนแผนประเมินอำมาตย์ผิด
นายสุริยะใส กตะศิลาผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า สาเหตุที่ นปช.เลื่อนการชุมนุมออกไปไม่มีกำหนดนั้นไม่เกี่ยวกับงานเทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช เพราะเดิมที ทักษิณ กำหนดยุทธศาสตร์แตกหักในช่วงงานมหามงคลด้วยซ้ำ ฉะนั้นการเลื่อนชุมนุมไป น่าจะเกิดจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้
ปัจจัยแรก เกิดจากการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดของ ทักษิณ ที่มองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของบุคคลพิเศษระดับสูง และหวังจะกดดันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองและเปิดทางให้ตนเองกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องรับผิดอะไร ปัจจัยที่สอง เกิดจากความผิดพลาดกรณีรับเป็นที่ปรึกษานายฮุนเซน ส่งผลให้เครือข่ายและบริวาร สูญเสียความชอบธรรม และแนวร่วมหลายส่วนผิดหวังไม่เชื่อมั่น ปัจจัยที่สาม เกิดจากบทสัมภาษณ์ในไทมส์ ออนไลน์ ที่พาดพิงและจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงแรงกว่าทุกครั้ง ทำให้แนวร่วมหรือแม้แต่พลังเงียบบางส่วนรับไม่ได้ จนปฏิเสธเข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้ในครั้งนี้ และปัจจัยที่ 4 แผนเคลื่อนไหวบางส่วนถูกเปิดเผยออกมาล่วงหน้า ส่งผลให้ฝ่ายความมั่นคงตั้งรับได้ทัน และยังประกาศ ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงยาวนานกว่าทุกครั้ง
**แกนนำแดงกำนัดอีกครั้งกลาง ธ.ค.
วานนี้ (25 พ.ย.) แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประชุมเพื่อทบทวนแผนการชุมนุมอีกครั้ง โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงแถลงหลังการประชุมว่า จากการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-วันที่ 2 ธ.ค.นั้น ผู้จัดการชุมนุมได้คำนึงที่สุดที่จะไม่ให้กระทบกับงานเฉลิมพระชนมพรรษาฯ แต่เมื่อรัฐบาลไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ใจและมีอคติของประชาชน รวมทั้งคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีเจตนาร้ายต่อสังคมไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงทำให้พวกเรากลับมาคิดทบทวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อไม่ให้กระทบต่องานสำคัญเป็นอันขาด
?เราต้องให้บทเรียนกับรัฐบาล และเราจะแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนเสื้อแดงตกลงใจจะเลื่อนการชุมนุมออกไปโดยไม่มีกำหนด เหตุผลเพื่อจะบอกว่าเรามีความรับผิดชอบและมีสำนึก แต่ยืนยันว่าการชุมนุม 1 ล้านคนเกิดขึ้นแน่ ซึ่งแกนนำจะมีการประชุมกำหนดท่าทีอีกครั้งกลางเดือนธันวาคม?
**สุเทพยังไม่เลิกใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไป ทางรัฐบาลก็จะยังไม่ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯที่จะใช้ควบคุมสถานการณ์ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค. เพราะรัฐบาลต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่แน่นอน การจะตัดสินใจยกเลิกก็จะต้องดูว่า เหตุการณ์ไม่มีอะไรแล้ว การจะยกเลิกเมื่อใดนั้นต้องดูเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ
นายสุเทพ เกล่าวว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ในพื้นที่ กทม. เป็นการตัดสินใจของ ครม. ตนในฐานะฝ่ายความมั่นคงเป็นเพียงเสนอเข้า ครม. และอธิบายเหตุผลชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง แม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเสนอจะให้ประกาศเฉพาะเขตดุสิต และขยายพื้นที่แขวงโสมนัสและบางขุนพรหมแต่เมื่อกลุ่มเสื้อแดง บอกว่าจะ ดาวกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ที่ประชุม ครม.จึงมีความเป็นห่วงผู้ชุมนุม ไปปิดตามแยกต่างๆ เหมือนที่เคยทำมาก็จะทำให้ กทม.เป็นอัมพาต ประชาชนก็จะเดือดร้อน และรัฐบาลก็จะแก้เหตุการณ์ได้ไม่ทัน เพราะกว่าจะมาประชุม ครม. เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนก็ได้รับความเดือดร้อนไปแล้ว ซึ่งฟังดูแล้ว ครม.ก็มีเหตุผล
**ถ้านายกฯ ไปเชียงใหม่ต้องใช้ พ.ร.บ.มั่นคง
"การประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง ที่เชียงใหม่ ที่ ประชุม ครม.ก็มีการซักถามถึงทางเลือกทางอื่น ผมก็บอกไปว่า ถ้านายกฯยืนยันที่จะเดินทางไป ผมก็ต้องขอ ประกาศ พ.ร.บ.ในเชียงใหม่ ในพื้นที่ที่จะจัดการประชุม ซึ่งก็จะพยายามไม่ให้กระทบกับชาวเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากที่ผมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มั่นใจว่าจะสามารถดูแล ความปลอดภัยนายกฯได้แน่นอน เพียงแต่กังวลใจว่าจะมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้น แค่ปะทะกันเล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ ครม.จึงให้ผมไปประสานในพื้นที่และติดตามสถานการณ์ ให้ละเอียดกว่านี้"
ส่วนเรื่องที่จะไปเชียงใหม่ทางหอการค้าเขาคาดหวังว่าเขาจะเจรจากับกลุ่ม เสื้อแดงได้ ที่จะขอให้เลิกการชุมนุม โดยให้นำการประชุมของหอการค้าเป็นจุดเริ่มต้น ของความสมานฉันท์ ซึ่งเขาได้ประสานเรียบร้อยแล้วแต่มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ ไม่ยอมและยังออกวิทยุชุมนข่มขู่พวกเดียวกันว่า ถ้าไปยอมเจรจาแสดงว่าไม่ใช่แดงแท้ ถึงได้เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นจังไม่ใช่เรื่องที่นายกฯ ดึงดันไปให้เกิดปัญหา ซึ่งกลุ่มหอการค้าเข้าคาดหวังไว้สูง เนื่องจากเชียงใหม่จะต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวและนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่าง ประเทศ ถ้าคนเสื้อแดง ทำให้เชียงใหม่วุ่นวายก็จะเสียหายกับธุรกิจของชาวเชียงใหม่เอง
**กอ.รมน.ถกแผนเพื่อความไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายสุเทพ เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน. เพื่อประชุมจัดทำแผนรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อจัดตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการร่วมหลัง กอ.รมน.ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.52 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พล.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุมแต่ กอ.รมน.ต้องออกแผนของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบส่วนหน้าก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อทางกลุ่มเสื้อแดงไม่มาชุมนุมแล้ว ทางด้านความมั่นคงก็คงต้องมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะมีความเห็นอย่างไร
**ตำรวจทำหน้าที่ส่วนทหารอยู่ในที่ตั้ง
ทางด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และในฐานะโฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า เมื่อกลุ่มเสื้อแดงได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมแล้วเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติภารกิจก็จะอยู่ในที่ตั้งปกติ จะปรับตามสถานการณ์ และเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก ส่วนทหารจะอยู่ในที่ตั้งปกติทั้งหมด พร้อมที่จะออกปฏิบัติภารกิจได้หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป หากสถานการณ์ปกติเป็นหน้าที่ของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้คงการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงไว้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงกำลังไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้ออกนอกที่ตั้งปกติ กันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ก่อม็อบ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องมองโลกในแง่ดีขณะนี้ใกล้วันเฉลิมพระชนม์พรรษา เป็นช่วงที่ดัชนีชี้วัดตัวเลขภาคอุตสาหกรรมมีความมั่นใจมากขึ้น ใกล้ไฮซีซั่น ทุกคนมุ่งหวังอยากให้ บ้านเมืองสงบ ฉะนั้นการที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนอย่างนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีน่าเชื่อถือ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการประชุมปรากฏว่าได้มีนกกา 3 ตัวบินวนร้องด้านหัวมุมตึกด้านซ้ายของตึกไทยคู่ฟ้า และได้มีขนนกร่วงลงมา ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้สื่อข่าว
**"ชวรัตน์"ย้ำ"มาร์ค"ไม่ควรไปเชียงใหม่
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่าในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่านายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่หรือไม่ ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศก็ต้องไปทั้งงานราชการ และงานเอกชน แต่ตอนนี้มันมีการปล่อยข่าวลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้มีปัญหา อย่างที่เคยบอก เรื่องนี้ก็เหมือนไม้ขีดไฟ ซึ่งต้องมีกลักไม้ขีด ก้านไม้ขีด ถ้ามีแต่กลักไม่มีก้าน ไฟก็ไม่ติด ถ้าเราเป็นก้าน ส่วนทางโน้นเป็นกลัก แล้วเราไม่เอาก้านไปเจอ ไฟก็ไม่มีการปะทะกัน ส่วนที่ว่าหากนายกรัฐมนตรี ดึงดันจะไปจ.เชียงใหม่ จะทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่หมอดู
**รัฐบาลรอประเมินสถานการณ์อีก 2 วัน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ได้หารือถึงการเดินทางไปร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่จ.เชียงใหม่ของนายกรัฐมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย. มีความเห็นว่า ให้รอประเมินสถานการณ์อีกสัก 2 วัน โดยหลังนายกนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากการ์ต้า ที่จะประเมินเหตุการณ์ว่าควรจะไปหรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่าสำหรับปัจจัยในการตัดสินใจมี 2 อย่างคือ 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และฝ่ายความมั่นคง จะลงพื้นที่และพูดคุยกับผู้จัดงานประชุมหอการค้า ว่าถ้านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมมีความเป็นไปได้แค่ไหน อาจเปลี่ยนสถานที่ เฉพาะตอนที่นายกรัฐมนตรีไป เพราะเป้าหมายในการไปคือ พบหอการค้าทั่วประเทศ และรัฐบาลอยากเอาทีมเศรษฐกิจไปพบกับเขาอยู่แล้ว 2. เรื่องการชุมนุม ซึ่งขณะนี้มีความพยายามปลุกระดมให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งฝ่ายข่าวคงจะประเมินว่าเป้าประสงค์ของกลุ่มผู้ชุมยังประสงค์ที่จะทำร้ายหรือสร้างเหตุการณ์รุนแรงขึ้น หรือไม่และถ้ามีเช่นนั้นฝ่ายความมั่นคงสามารถ ที่จะดูแลเหตุการณ์ได้มากน้อยเพียงใด
**เป็นไปได้เปลี่ยนสถานที่ประชุม
นายสาทิตย์ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีเองไม่อยากให้มีเหตุการณ์นำไปสู่การปะทะกัน ซึ่งบางฝ่าย ให้เหตุผลว่าอาจเป็นเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามให้เกิดความรุนแรง ขึ้นมาและมีการปะทะกัน พอมีการปะทะกันแล้วจะได้เป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวต่อ ที่กรุงเทพฯ ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าการที่นายกฯไปเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาล ให้ความสำคัญกับทุกภูมิภาคในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ก็เป็นสอง เหตุผล จุดหลักคือพยายามประเมินเหตุผลไปให้รอบครอบที่สดุเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและนำไปสู่การขยายผลในการชุทมนุมต่อ
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนสถานที่ประชุมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นไปได้ ซึ่งคุยกันแล้วและไปดูกันแล้วหลายที่ ส่วนแนวทางการพูดคุยผ่าน วีดีโอคอนเฟอเร้นท์นั้น ทางกระทรวงมหาดไทยมีอยู่แล้วโดยเฉพาะนายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยได้รับเชิญให้ไป ท่านก็ไม่ไป ท่านก็ใช้วีดีโอคอนเฟอเร้นท์ ดังนั้นคงเตรียมไว้หลายๆอย่าง
**โรงเรียนเชียงใหม่ประกาศหยุดเรียน
สำหรับบรรยากาศในจ.เชียงใหม่ ปรากฎว่า โรงเรียนชื่อดังหลายแห่งที่ตั้งอยู่ย่านถนนเจริญประเทศ -ถนนช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เรยีนาเชลีวิทยาลัย พระหฤทัยเชียงใหม่ มงฟอร์ตประถม ชัยโรจน์วิทยา ฯลฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมเลอเมอริเดียน สถานที่ประชุมหอการค้าไทย ครั้งที่ 27 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.52 นี้ ต้องประกาศหยุดเรียนในวันปกติ 1 วันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.52 รวมโปรแกรมเรียนพิเศษในวันเสาร์-อาทตย์ ที่ 28-29 พ.ย.52 ก็ต้องหยุดทั้งหมดด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็กนักเรียนขึ้นได้ หากเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมา จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมป่วนเมืองหาก นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าที่ จ.เชียงใหม่
**ยอดยืนยันร่วมประชุมหอฯยังหลุดเป้า
วันเดียวกันหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่จ.เชียงใหม่ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.2552 โดยนายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีของ จ.เชียงใหม่ที่จะได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาร่วมการประชุมหรือไม่นั้นเวลานี้ยังไม่ได้รับการยืนยันต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสินใจของตัวนายกฯเอง
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า หลังจากที่เกิดกรณีคนเสื้อแดง ข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตนายกฯหากเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ ทำให้เวลานี้มีจำนวนผู้ที่ยืนยันว่าจะยังคงเข้าร่วมประชุมประมาณ 1,000 คน เป็นกลุ่มประธานหอการค้า เลขาธิการหอการค้าและผู้ว่าราชการจังหวัดจากจังหวัดต่างๆ ประมาณ 700 คน และผู้ติดตามประมาณ 400 คน จากเดิมที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 2,000 คน ทั้งนี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับหอการค้าทั่วประเทศแล้วว่า สถานการณ์ไม่ได้รุนแรง คาดว่าเมื่อถึงช่วงประชุมจริงน่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมเพิ่มมากขึ้นกว่านี้
**ปชป.เหนือเชียร์นายกฯ ไปเชียงใหม่
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน กลุ่มส.ส.ภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร นายขยัน วิพหรมชัย ส.ส.ลำพูน นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล ส.ส.สุโขทัย และนายสมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปเข้าร่วมประชุมประจำปีสภาหอการค้าที่ จ.เชียงใหม่
นพ.วรงค์ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่วนกรณที่มีกระแสข่าวคัดค้านการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีถึงขั้นหมายปองเอาชีวิต ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนเสื้อแดงจ.เชียใหม่ได้ประกาศออกมานั้น ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงบรรยากาศฤดูหนาว เป็นการเริ่มต้นการท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือโดยรวมทั้งหมด ดังนั้นอยากเรียนไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่ และชาวเหนือว่า อยากให้นายกฯพบประชาชนอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าพี่น้องชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ จะรักนายกฯท่านนี้
ด้านนายธนิตพล กล่าวเสริมว่า นายกฯ ไม่ใช่ตัวจุดประเด็นของปัญหา หรือจุดชนวนความขัดแย้ง แต่ท่านต้องไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าไปดูแลรับฟังปัญหาของประชาชน เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากนายกรัฐมนตรี แต่มาจากความไม่เห็นด้วยของคนเสื้อแดง และใช้ความไม่เห็นด้วยตรงนี้มาสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความรุนแรง และช่วงนี้ใกล้เข้าปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของคนภาคเหนือ อยากเรียกร้องขอของขวัญปีใหม่จากคนเสื้อแดง ที่ให้กับประชาชนทั้งประเทศ ถ้าหากคิดว่ารักชาติ