ส.ส.เหนือ ปชป.หนุน นายกฯเยือนเชียงใหม่ ฟังปัญหาประชาชน ยันมาร์คไปได้ทุกที่ทั่วไทย วอนเสื้อแดงใจกว้างเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่ขัดชุมนุมโดยสงบ แต่อย่าออกนอกกรอบรัฐธรรมนูญ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แถลงข่าว
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่รัฐสภา กลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร นายขยัน วิพหรมชัย ส.ส.ลำพูน นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล ส.ส.สุโขทัย และ นายสมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเข้าร่วมประชุมประจำปีสภาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนในฐานะ ส.ส.ภาคเหนือ ของพรรคประชาธิปัตย์ ขอสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรี เดินทางลงไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ โดยอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่วนกรณที่มีกระแสข่าวคัดค้านการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีถึงขั้นหมายปองเอาชีวิต ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศออกมานั้น ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงบรรยากาศหน้าหนาวเป็นการเริ่มต้นการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือโดยรวมทั้งหมด ดังนั้น อยากเรียนไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่ และชาวเหนือ ว่า อยากให้นายกฯพบประชาชนอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า พี่น้องชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ จะรักนายกฯท่านนี้
“สิทธิในการชุมนุมของประชาชนโดยสงบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่สิทธิในการที่จะบอกว่าใช้ความรุนแรงโดยหมายปองเอาชีวิตนั้น ไม่ใช่สิทธิตามรัฐธรรมนูญ” นพ.วรงค์ กล่าว
นายขยัน กล่าวว่า ของวิงวอนกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เห็นแก่เมืองลำพูน และเมืองเชียงใหม่ โดยการหยุดทำร้ายเมืองลำพูนและเชียงใหม่ รวมทั้งหันมาสร้างบ้านสร้างเมือง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ทราบว่า หอการเชียงใหม่ เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน แต่กลับมีคนลงทะเบียนแค่ 500 กว่าคน นั้น แสดงว่า หอการค้าต่างๆ ที่จะเข้าร่วมไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ที่คนเสื้อแดงอ้างว่าจะทำร้ายนายกฯที่จะเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งการเดินทางของนายกฯเพื่อไปรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวหอการค้าทั่วประเทศ เพื่อแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป รวมทั้งไปดูเรื่องของเขื่อน ที่ได้รับการร้องรียนจากพี่น้องชาวลำพูน และชาวเชียงใหม่ กรณีเขื่อนแม่กวงแห้งแล้ง และให้นายกฯมีการสั่งการผันน้ำในแม่น้ำปิง ลงเขื่อนแม่กวง
ด้าน นายสมบัติ กล่าวว่า ตนขอวิงวอนคนเหนือ เพราะคนเหนือมีเสน่ห์อ่อนน้อมถ่อมตนสามารถเชิญชวนให้คนมาท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่มีหลายคนอยากมา เพราะฉะนั้น จึงอยากให้นายกฯได้เดินทางไปสัมผัส และพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และทำให้ประชาชนคนเหนือได้รับประโยชน์จากรัฐบาล และอย่ารับพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง หรือตามแนวทางที่เสื้อแดงจ้องทำร้ายนายกฯ
เมื่อถามว่า ทำไมให้นายกฯใช้วิธีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง จ.เชียงใหม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า จากการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ยังไม่มีความชัดเจน เรื่องอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ช่วง 2-3 วันนี้ไปก่อนจึงค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เมื่อถามย้ำว่า แต่วิธีการคอนเฟอเรนซ์สามารถเลี่ยงความรุนแรงได้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความต้องการของเจ้าภาพคือ หอการค้าเชียงใหม่ที่จะเชิญนายกฯไปร่วมงาน แต่หากมีการเสนอทางเลือกอื่นๆ มาค่อยว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การเดินทางของนายกฯในพื้นที่จะเป็นการจุดชนวนความรุนแรง นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนอยากเรียนว่าใครเป็นคนจุดชนวนกันแน่ในเรื่องของความรุนแรง เพราะในการเดินทางของนายกฯนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และบนพื้นฐานความชอบธรรม คนไทยทุกคนมีสิทธิ์จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ และเชื่อว่า ปัญหาความรุนแรงต่างนายกฯพยายามหลีกเลลี่ย และเชื่อว่า ปัญหาความรุนแรงต่างนายกฯ พยายามหลีกเลี่ยงอยู่และหากต้องไปคงมีมาตรการรองรับ
เมื่อถามว่า การเดินทางไปของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มีสิทธิ์ที่จะไม่ไปเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงก็ได้ แต่ถ้าหากตัดสินใจไปจะมีผลต่อฐานเสียงของพรรคหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ต้องตั้งหลักว่าท่าน คือ นายกฯจะบอกว่าห้ามไปพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะฉะนั้นต้องมองว่าท่านเป็นนายกฯมีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับมาตรการรองรับที่จะตามมา
ด้าน นายธนิตพล กล่าวเสริมว่า นายกฯไม่ใช่ตัวจุดประเด็นของปัญหา หรือจุดชนวนความขัดแย้ง แต่นายกฯต้องไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าไปดูแลรับฟังปัญหาของประชาชน เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากนายกฯ แต่มาจากความไม่เห็นด้วยของคนเสื้อแดง และใช้ความไม่เห็นด้วยตรงนี้มาสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความรุนแรง และช่วงนี้ใกล้เข้าปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของคนภาคเหนือ อยากเรียกร้องขอของขวัญปีใหม่จากคนเสื้อแดงที่ให้กับประชาชนทั้งประเทศ ถ้าหากคิดว่ารักชาติ
“โดยยุติความรุนแรง หากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล การชุมนุมโดยสงบเป็นเรื่องปกติ และรัฐบาลก็ไม่เห็นว่าการชุมนุมโดยสงบเป็นเรื่องแปลก โดยแต่รัฐบาลอยากเห็นการชุมนุมโดยสงบไม่อยากให้เกิดความรุนแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ” นายธนิตพล กล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แถลงข่าว
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่รัฐสภา กลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร นายขยัน วิพหรมชัย ส.ส.ลำพูน นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล ส.ส.สุโขทัย และ นายสมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเข้าร่วมประชุมประจำปีสภาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนในฐานะ ส.ส.ภาคเหนือ ของพรรคประชาธิปัตย์ ขอสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรี เดินทางลงไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ โดยอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่วนกรณที่มีกระแสข่าวคัดค้านการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีถึงขั้นหมายปองเอาชีวิต ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศออกมานั้น ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงบรรยากาศหน้าหนาวเป็นการเริ่มต้นการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือโดยรวมทั้งหมด ดังนั้น อยากเรียนไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่ และชาวเหนือ ว่า อยากให้นายกฯพบประชาชนอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า พี่น้องชาวเหนือและชาวเชียงใหม่ จะรักนายกฯท่านนี้
“สิทธิในการชุมนุมของประชาชนโดยสงบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่สิทธิในการที่จะบอกว่าใช้ความรุนแรงโดยหมายปองเอาชีวิตนั้น ไม่ใช่สิทธิตามรัฐธรรมนูญ” นพ.วรงค์ กล่าว
นายขยัน กล่าวว่า ของวิงวอนกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เห็นแก่เมืองลำพูน และเมืองเชียงใหม่ โดยการหยุดทำร้ายเมืองลำพูนและเชียงใหม่ รวมทั้งหันมาสร้างบ้านสร้างเมือง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ทราบว่า หอการเชียงใหม่ เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน แต่กลับมีคนลงทะเบียนแค่ 500 กว่าคน นั้น แสดงว่า หอการค้าต่างๆ ที่จะเข้าร่วมไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ที่คนเสื้อแดงอ้างว่าจะทำร้ายนายกฯที่จะเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งการเดินทางของนายกฯเพื่อไปรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวหอการค้าทั่วประเทศ เพื่อแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป รวมทั้งไปดูเรื่องของเขื่อน ที่ได้รับการร้องรียนจากพี่น้องชาวลำพูน และชาวเชียงใหม่ กรณีเขื่อนแม่กวงแห้งแล้ง และให้นายกฯมีการสั่งการผันน้ำในแม่น้ำปิง ลงเขื่อนแม่กวง
ด้าน นายสมบัติ กล่าวว่า ตนขอวิงวอนคนเหนือ เพราะคนเหนือมีเสน่ห์อ่อนน้อมถ่อมตนสามารถเชิญชวนให้คนมาท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่มีหลายคนอยากมา เพราะฉะนั้น จึงอยากให้นายกฯได้เดินทางไปสัมผัส และพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และทำให้ประชาชนคนเหนือได้รับประโยชน์จากรัฐบาล และอย่ารับพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง หรือตามแนวทางที่เสื้อแดงจ้องทำร้ายนายกฯ
เมื่อถามว่า ทำไมให้นายกฯใช้วิธีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง จ.เชียงใหม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า จากการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ยังไม่มีความชัดเจน เรื่องอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ช่วง 2-3 วันนี้ไปก่อนจึงค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เมื่อถามย้ำว่า แต่วิธีการคอนเฟอเรนซ์สามารถเลี่ยงความรุนแรงได้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความต้องการของเจ้าภาพคือ หอการค้าเชียงใหม่ที่จะเชิญนายกฯไปร่วมงาน แต่หากมีการเสนอทางเลือกอื่นๆ มาค่อยว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การเดินทางของนายกฯในพื้นที่จะเป็นการจุดชนวนความรุนแรง นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนอยากเรียนว่าใครเป็นคนจุดชนวนกันแน่ในเรื่องของความรุนแรง เพราะในการเดินทางของนายกฯนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และบนพื้นฐานความชอบธรรม คนไทยทุกคนมีสิทธิ์จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ และเชื่อว่า ปัญหาความรุนแรงต่างนายกฯพยายามหลีกเลลี่ย และเชื่อว่า ปัญหาความรุนแรงต่างนายกฯ พยายามหลีกเลี่ยงอยู่และหากต้องไปคงมีมาตรการรองรับ
เมื่อถามว่า การเดินทางไปของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มีสิทธิ์ที่จะไม่ไปเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงก็ได้ แต่ถ้าหากตัดสินใจไปจะมีผลต่อฐานเสียงของพรรคหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ต้องตั้งหลักว่าท่าน คือ นายกฯจะบอกว่าห้ามไปพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะฉะนั้นต้องมองว่าท่านเป็นนายกฯมีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับมาตรการรองรับที่จะตามมา
ด้าน นายธนิตพล กล่าวเสริมว่า นายกฯไม่ใช่ตัวจุดประเด็นของปัญหา หรือจุดชนวนความขัดแย้ง แต่นายกฯต้องไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าไปดูแลรับฟังปัญหาของประชาชน เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากนายกฯ แต่มาจากความไม่เห็นด้วยของคนเสื้อแดง และใช้ความไม่เห็นด้วยตรงนี้มาสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความรุนแรง และช่วงนี้ใกล้เข้าปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของคนภาคเหนือ อยากเรียกร้องขอของขวัญปีใหม่จากคนเสื้อแดงที่ให้กับประชาชนทั้งประเทศ ถ้าหากคิดว่ารักชาติ
“โดยยุติความรุนแรง หากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล การชุมนุมโดยสงบเป็นเรื่องปกติ และรัฐบาลก็ไม่เห็นว่าการชุมนุมโดยสงบเป็นเรื่องแปลก โดยแต่รัฐบาลอยากเห็นการชุมนุมโดยสงบไม่อยากให้เกิดความรุนแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ” นายธนิตพล กล่าว
