การจากโลกนี้ไปของคนที่ยอมรับอะไรง่ายๆ
ไม่สร้างเงื่อนไขบังคับผู้อื่น
จะเป็นไปอย่างสันติมากกว่า
การจากไปของคนที่ไม่เคยฝึกกล้า
ที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ ง่ายๆ
เรื่องที่ 102 สารเพื่อนเสม
แม้จะเพิ่งย่างเข้ากลางเดือน 11 ยังไม่ทันสิ้นปี แต่สำหรับผู้ที่ คุ้นชินกับการวางแผนชีวิตล่วงหน้า ช่วงเวลานี้ก็เรียกได้ว่า เกือบจะช้า เกินไปเสียแล้ว สำหรับการเตรียมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ฝ่ายจัดซื้อเพื่อเตรียมกระเช้าของขวัญก็ต้องเริ่มมองหากันบ้างแล้วว่าจะเอาอะไรไปใส่กระเช้ากันดี อย่างไรเสีย อย่าลืมเว้น ที่ว่างไว้ให้เมนูเพื่อสุขภาพจากตลาดสีเขียวกันบ้างนะคะ
งาน Green Fair 09 จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 10-อาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552 ณ อุทยานเบญจสิริ ขอชวน ทุกท่านมาสัมผัสการออกร้านของเกษตรอินทรีย์ Organic ผลิตภัณฑ์ชุมชน นิทรรศการสีเขียว Seven Green พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูพลังชุมชน เยาวชน และผู้บริโภค ขับเคลื่อนวิถีสีเขียวให้เป็นจริงและยั่งยืนโดยผ่านการเรียนรู้ในหัวข้อเสวนามากมาย เช่น
วิถีสีเขียวในเมืองใหญ่-กาย ใจ จิตวิญญาณ
สะท้อนแง่มุมวิถีชีวิตคนเมืองที่ใช้ชีวิตบนเส้นทางเกื้อกูล สอดคล้องกับธรรมชาติแวดล้อม ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับตนเอง ได้ หากตระหนักถึงบทบาทและฐานะผู้เป็นหน่วยหนึ่งในสังคม ช่วยกัน ค้ำจุนดูแลสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ รวมทั้งประคับประคอง ภาคเกษตรของประเทศไม่ให้ล่มสลาย
วิถีการกิน การอยู่ และฤดูกาล
เพื่อปลุกสำนึกการกิน การอยู่ด้วยวิถีสีเขียวเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้คนให้เติบโตทั้งพลังกายและพลังใจโดยอิงอาศัยธรรมชาติ เพื่อความเข้าใจในมิติทั้ง 2 ด้าน ทั้งจิตวิญญาณ และวัฒนธรรม
พลังชีวิตสีเขียวกับชีวิตและธุรกิจภาคเมือง
การให้ความรู้แก่คนเมืองที่สามารถพึ่งตนเองได้ในด้านการใช้พลังงาน ไม่ใช่แค่ช่วยกันปิดไฟในเวลาพักกลางวันเท่านั้น แต่ภาคเมืองยังมีศักยภาพในการประหยัดพลังงานได้มากกว่านั้น หากมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถแปรรูปของเสียและขยะให้เป็นพลังงานทดแทน ใช้ถังหมักขยะชุมชนเพื่อนำมาแปรรูปเป็นก๊าซหุงต้ม การใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การสร้างพลังงานใช้เองจากเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ได้ จักรยานสูบน้ำและรดต้นไม้ ให้สวนในบ้าน จักรยานเครื่องปั่นผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถ ช่วยกันลดการปล่อยของเสีย เช่น ก๊าซมีเทน ออกสู่สิ่งแวดล้อม อีกด้วย
ค่ะ สิ่งแวดล้อมที่ดี ย่อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เราจึงต้องมา ช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมของเรา และเผื่อแผ่ ใจกรุณาผ่านการอนุรักษ์ของสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมอนุรักษ์นก และธรรมชาติแห่งประเทศไทย หรือ Eco Tour เป็นต้น
วิถีสีเขียวไม่ได้หมายเพียงแค่กินผัก กินผลไม้ ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีเท่านั้น แต่กินความไปถึงแง่มุมทางจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ความเกื้อกูลต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และคุณธรรมอันพึงมีระหว่างผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคสีเขียว จึงควรเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ที่รู้เท่าทันและเข้าใจในวิถีสีเขียว ไม่ใช่แห่ทำและเชื่อตามๆ กันไปตามกระแสโฆษณา
อย่างเช่น การเปิดใจเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะของการไม่ปรุงอาหาร แค่อ่านชื่อ บางท่านก็อาจนึกแย้งในใจว่าจะให้กินแบบไดโนเสาร์เต่าล้านปีกันหรือไร ...ขอตอบว่า...ไม่ใช่ค่ะ ก็แค่จะขอให้ เพียงหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารจนทำลายเอนไซม์อันเป็นพลังชีวิต และการแต่งเติมสีสันกับรสชาติจนเกินความจำเป็น หันมากินอาหารสด สักครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมดที่เรากินอยู่ สุขภาพจะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แบบต้องพิสูจน์กันเอาเอง
โดยธรรมดาของการเปลี่ยนแปลง แม้เราจะนอนอยู่นิ่งๆ แต่ชีวเคมีและกลไกภายในร่างกายเราก็ทำงานเคลื่อนไหวและเสื่อมถอยกันอยู่ตลอดเวลา เซลล์เนื้อเยื่อเก่าถูกทำลายและทดแทนด้วยเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ กระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ให้มีคุณภาพขึ้นอยู่กับสารอาหารที่เราบริโภค ถ้าจะเอาแต่รูปสวย กลิ่นรสถูกปากถูกใจแต่ปราศจากพลังชีวิต ณ จุดสมดุลที่ร่างกายต้องการ อย่างแท้จริง เราจะกินมันเข้าไปเพื่อความเจ็บป่วยกันหรือไร? หากนึกรักและเมตตาตนเองและคนรอบข้างอย่างแท้จริง กรุณาให้ความรู้และเปลี่ยนแปลงความเคยชินให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่กันและกันเถิด หัดให้รู้จักคุณค่าของน้ำข้าวอันอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมาตั้งแต่ครั้งบรรพชน คนรุ่นปู่ย่าตายายเราตื่นเช้า มาก็จะซดน้ำข้าวจากหม้อหุงด้วยเตาถ่าน เติมพลังงานระดับเซลล์ เพื่อปลุกให้ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ย่อยและเผาผลาญอาหารหยาบอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีง่ายๆ และสามัญนี้แหละที่ทำให้คนโบราณไม่ต้องตายผ่อนส่ง หรือไม่ต้องนำรายได้จากการทำงานหามรุ่งหามค่ำไปจ่ายผ่อนให้โรงหมอจนไม่เหลือไว้เป็นทุนสำหรับปัจจัยจำเป็นอื่นๆ อีกเลย
มาลด ละ และเลิก ฝากชีวิตไว้กับถุงพลาสติกในอุ้งมือผู้อื่น อย่าปล่อยชีวิตให้เป็นเหมือนกอสวะลอยตามน้ำ ลองปรับวิถี ยามเช้าเสียใหม่ เริ่มหัดเข้าครัว มองหาความเรียบง่ายด้วยการประยุกต์วัตถุดิบใกล้ตัวสำหรับประกอบอาหารง่ายๆ ด้วยปลายจวัก จากมือของเราเอง
แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ แต่ก็เปี่ยมด้วยคุณค่า ชาวญี่ปุ่นเขายังอาศัยช่วงเวลาแห่งการชงชาเข้าฌานแบบเซนกันได้ในชีวิตประจำวัน แล้วพวกเราในเมืองพุทธจะปรับวิถีปฏิบัติสู่การตื่นรู้ภายในกันไม่ได้ ก็ให้มันรู้ไป ...เพียงมีความตั้งใจ และใส่ใจในสิ่งที่เราได้ทำความเข้าใจแล้ว เพียงเท่านี้ความเงียบสงบและสันติพร้อมชุดความสุขอย่างเรียบง่ายก็จะปรากฏขึ้นมาในจิตใจ
ลองเรียนรู้ทักษะนี้ด้วยตนเองแล้วคุณจะยืนยันได้ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวว่า แท้จริงความสงบและสันติสุขอย่างบริสุทธิ์ ไม่ได้มาจากเงื่อนไขอันมากเรื่องและวุ่นวาย แต่มีต้นกำเนิดมาจาก ความเรียบง่ายไร้เงื่อนงำ ทุกคำกลืนของการป้อนอาหารเข้าปาก มีอิทธิพลโยงใยสู่ความเป็นไปของชีวิตก่อนตาย ความเรียบง่ายใน ชีวิต คือการยอมรับอะไรๆ ที่เป็นธรรมดาธรรมชาติได้ง่าย วันสุดท้ายของนาฬิกาชีวิต จึงไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในบัญชีของวิถีจิต มีแต่หนี้สูญ และความไม่มีลูกหนี้ หรือแม้เจ้าหนี้ การลาจากโลกนี้ไปของคนที่ยอมรับอะไรง่ายๆ ไม่วุ่นวายอยู่กับการสร้างเงื่อนไข จึงเป็นไปอย่างสันติมากกว่าการจากไปของใครๆ อีกหลายๆ คน ที่ไม่เคยฝึกกล้าที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ และเรียบง่าย
สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฝึกความกล้าในทักษะต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในบทความ ติดต่อขอรายละเอียด หรือสมัครเป็นสมาชิกสารเพื่อนเสมได้ที่ สำนักงานกลาง เลขที่ 666 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600 โทร.0-2438-9331-2 e-mail : snf@semsikkha.org http://www.snf.or.th
ไม่สร้างเงื่อนไขบังคับผู้อื่น
จะเป็นไปอย่างสันติมากกว่า
การจากไปของคนที่ไม่เคยฝึกกล้า
ที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ ง่ายๆ
เรื่องที่ 102 สารเพื่อนเสม
แม้จะเพิ่งย่างเข้ากลางเดือน 11 ยังไม่ทันสิ้นปี แต่สำหรับผู้ที่ คุ้นชินกับการวางแผนชีวิตล่วงหน้า ช่วงเวลานี้ก็เรียกได้ว่า เกือบจะช้า เกินไปเสียแล้ว สำหรับการเตรียมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ฝ่ายจัดซื้อเพื่อเตรียมกระเช้าของขวัญก็ต้องเริ่มมองหากันบ้างแล้วว่าจะเอาอะไรไปใส่กระเช้ากันดี อย่างไรเสีย อย่าลืมเว้น ที่ว่างไว้ให้เมนูเพื่อสุขภาพจากตลาดสีเขียวกันบ้างนะคะ
งาน Green Fair 09 จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 10-อาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552 ณ อุทยานเบญจสิริ ขอชวน ทุกท่านมาสัมผัสการออกร้านของเกษตรอินทรีย์ Organic ผลิตภัณฑ์ชุมชน นิทรรศการสีเขียว Seven Green พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูพลังชุมชน เยาวชน และผู้บริโภค ขับเคลื่อนวิถีสีเขียวให้เป็นจริงและยั่งยืนโดยผ่านการเรียนรู้ในหัวข้อเสวนามากมาย เช่น
วิถีสีเขียวในเมืองใหญ่-กาย ใจ จิตวิญญาณ
สะท้อนแง่มุมวิถีชีวิตคนเมืองที่ใช้ชีวิตบนเส้นทางเกื้อกูล สอดคล้องกับธรรมชาติแวดล้อม ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับตนเอง ได้ หากตระหนักถึงบทบาทและฐานะผู้เป็นหน่วยหนึ่งในสังคม ช่วยกัน ค้ำจุนดูแลสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ รวมทั้งประคับประคอง ภาคเกษตรของประเทศไม่ให้ล่มสลาย
วิถีการกิน การอยู่ และฤดูกาล
เพื่อปลุกสำนึกการกิน การอยู่ด้วยวิถีสีเขียวเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้คนให้เติบโตทั้งพลังกายและพลังใจโดยอิงอาศัยธรรมชาติ เพื่อความเข้าใจในมิติทั้ง 2 ด้าน ทั้งจิตวิญญาณ และวัฒนธรรม
พลังชีวิตสีเขียวกับชีวิตและธุรกิจภาคเมือง
การให้ความรู้แก่คนเมืองที่สามารถพึ่งตนเองได้ในด้านการใช้พลังงาน ไม่ใช่แค่ช่วยกันปิดไฟในเวลาพักกลางวันเท่านั้น แต่ภาคเมืองยังมีศักยภาพในการประหยัดพลังงานได้มากกว่านั้น หากมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถแปรรูปของเสียและขยะให้เป็นพลังงานทดแทน ใช้ถังหมักขยะชุมชนเพื่อนำมาแปรรูปเป็นก๊าซหุงต้ม การใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การสร้างพลังงานใช้เองจากเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ได้ จักรยานสูบน้ำและรดต้นไม้ ให้สวนในบ้าน จักรยานเครื่องปั่นผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถ ช่วยกันลดการปล่อยของเสีย เช่น ก๊าซมีเทน ออกสู่สิ่งแวดล้อม อีกด้วย
ค่ะ สิ่งแวดล้อมที่ดี ย่อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เราจึงต้องมา ช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมของเรา และเผื่อแผ่ ใจกรุณาผ่านการอนุรักษ์ของสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมอนุรักษ์นก และธรรมชาติแห่งประเทศไทย หรือ Eco Tour เป็นต้น
วิถีสีเขียวไม่ได้หมายเพียงแค่กินผัก กินผลไม้ ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีเท่านั้น แต่กินความไปถึงแง่มุมทางจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ความเกื้อกูลต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และคุณธรรมอันพึงมีระหว่างผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคสีเขียว จึงควรเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ที่รู้เท่าทันและเข้าใจในวิถีสีเขียว ไม่ใช่แห่ทำและเชื่อตามๆ กันไปตามกระแสโฆษณา
อย่างเช่น การเปิดใจเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะของการไม่ปรุงอาหาร แค่อ่านชื่อ บางท่านก็อาจนึกแย้งในใจว่าจะให้กินแบบไดโนเสาร์เต่าล้านปีกันหรือไร ...ขอตอบว่า...ไม่ใช่ค่ะ ก็แค่จะขอให้ เพียงหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารจนทำลายเอนไซม์อันเป็นพลังชีวิต และการแต่งเติมสีสันกับรสชาติจนเกินความจำเป็น หันมากินอาหารสด สักครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมดที่เรากินอยู่ สุขภาพจะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แบบต้องพิสูจน์กันเอาเอง
โดยธรรมดาของการเปลี่ยนแปลง แม้เราจะนอนอยู่นิ่งๆ แต่ชีวเคมีและกลไกภายในร่างกายเราก็ทำงานเคลื่อนไหวและเสื่อมถอยกันอยู่ตลอดเวลา เซลล์เนื้อเยื่อเก่าถูกทำลายและทดแทนด้วยเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ กระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ให้มีคุณภาพขึ้นอยู่กับสารอาหารที่เราบริโภค ถ้าจะเอาแต่รูปสวย กลิ่นรสถูกปากถูกใจแต่ปราศจากพลังชีวิต ณ จุดสมดุลที่ร่างกายต้องการ อย่างแท้จริง เราจะกินมันเข้าไปเพื่อความเจ็บป่วยกันหรือไร? หากนึกรักและเมตตาตนเองและคนรอบข้างอย่างแท้จริง กรุณาให้ความรู้และเปลี่ยนแปลงความเคยชินให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่กันและกันเถิด หัดให้รู้จักคุณค่าของน้ำข้าวอันอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมาตั้งแต่ครั้งบรรพชน คนรุ่นปู่ย่าตายายเราตื่นเช้า มาก็จะซดน้ำข้าวจากหม้อหุงด้วยเตาถ่าน เติมพลังงานระดับเซลล์ เพื่อปลุกให้ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ย่อยและเผาผลาญอาหารหยาบอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีง่ายๆ และสามัญนี้แหละที่ทำให้คนโบราณไม่ต้องตายผ่อนส่ง หรือไม่ต้องนำรายได้จากการทำงานหามรุ่งหามค่ำไปจ่ายผ่อนให้โรงหมอจนไม่เหลือไว้เป็นทุนสำหรับปัจจัยจำเป็นอื่นๆ อีกเลย
มาลด ละ และเลิก ฝากชีวิตไว้กับถุงพลาสติกในอุ้งมือผู้อื่น อย่าปล่อยชีวิตให้เป็นเหมือนกอสวะลอยตามน้ำ ลองปรับวิถี ยามเช้าเสียใหม่ เริ่มหัดเข้าครัว มองหาความเรียบง่ายด้วยการประยุกต์วัตถุดิบใกล้ตัวสำหรับประกอบอาหารง่ายๆ ด้วยปลายจวัก จากมือของเราเอง
แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ แต่ก็เปี่ยมด้วยคุณค่า ชาวญี่ปุ่นเขายังอาศัยช่วงเวลาแห่งการชงชาเข้าฌานแบบเซนกันได้ในชีวิตประจำวัน แล้วพวกเราในเมืองพุทธจะปรับวิถีปฏิบัติสู่การตื่นรู้ภายในกันไม่ได้ ก็ให้มันรู้ไป ...เพียงมีความตั้งใจ และใส่ใจในสิ่งที่เราได้ทำความเข้าใจแล้ว เพียงเท่านี้ความเงียบสงบและสันติพร้อมชุดความสุขอย่างเรียบง่ายก็จะปรากฏขึ้นมาในจิตใจ
ลองเรียนรู้ทักษะนี้ด้วยตนเองแล้วคุณจะยืนยันได้ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวว่า แท้จริงความสงบและสันติสุขอย่างบริสุทธิ์ ไม่ได้มาจากเงื่อนไขอันมากเรื่องและวุ่นวาย แต่มีต้นกำเนิดมาจาก ความเรียบง่ายไร้เงื่อนงำ ทุกคำกลืนของการป้อนอาหารเข้าปาก มีอิทธิพลโยงใยสู่ความเป็นไปของชีวิตก่อนตาย ความเรียบง่ายใน ชีวิต คือการยอมรับอะไรๆ ที่เป็นธรรมดาธรรมชาติได้ง่าย วันสุดท้ายของนาฬิกาชีวิต จึงไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในบัญชีของวิถีจิต มีแต่หนี้สูญ และความไม่มีลูกหนี้ หรือแม้เจ้าหนี้ การลาจากโลกนี้ไปของคนที่ยอมรับอะไรง่ายๆ ไม่วุ่นวายอยู่กับการสร้างเงื่อนไข จึงเป็นไปอย่างสันติมากกว่าการจากไปของใครๆ อีกหลายๆ คน ที่ไม่เคยฝึกกล้าที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ และเรียบง่าย
สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฝึกความกล้าในทักษะต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในบทความ ติดต่อขอรายละเอียด หรือสมัครเป็นสมาชิกสารเพื่อนเสมได้ที่ สำนักงานกลาง เลขที่ 666 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600 โทร.0-2438-9331-2 e-mail : snf@semsikkha.org http://www.snf.or.th