ตลาดกระเช้าของขวัญเริ่มระอุ เซ็นทรัล-เดอะมอลล์เปิดศึกกระเช้าของขวัญแต่ไก่โห่ เซ็นทรัลชูคอนเซ็ปท์ แนวคิด “ปัญจธาตุ..พลังแห่งชีวิต” ตั้งเป้าแชร์พรีเมียม 70% ด้านเดอะมอลล์ ชูคอนเซ็ปท์ “เดอะ เจม” หวังเติบโต 5%
นางภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารเซ็นทรัลฟู้ดฮอล์และท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า ตลาดรวมธุรกิจกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสในส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรด ในปี 2552 นี้คาดว่าจะมีประมาณ 850 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตลดลง 10% หากไม่มีการกระตุ้นตลาดเท่าที่ควร ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปี 2551-2552 ขณะที่เมื่อปี 2551 ตลาดรวมมีมูลค่า 1,020 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะกระตุ้นตลาดกระเช้าของขวัญเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะผลักดันตลาดรวมเป็น 1,100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 41% ในภาพรวมทุกเซ็กเม้นท์ เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้วมีแชร์ 41% ส่วนในกลุ่มพรีเมียมที่มีราคากระเช้าตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป บริษัทฯตั้งเป้ามีแชร์ 70% เหมือนปีที่แล้วเช่นกัน โดยคาดหวังว่ายอดขายกระเช้าของบริษัทฯจะเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งในตลาดรวมนั้นมีตั้งแต่ 500 บาทจนถึง 3,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้นโยบายปีนี้ในส่วนของสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น มีความชัดเจนจากภาครัฐมากขึ้น คือ บริษัทฯจะปฎิบัติตามทุกอย่าง คือ จะไม่มีการใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงไปในกระเช้าและจะไม่มีดิสเพลย์ด้วย ส่วนถ้าหากผู้บริโภคต้องการและขอให้บริษัทฯจัดก็จะจัดให้และต้องขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่ภาครัฐกำหนดเหมือนเดิมด้วย ในตลาดรวมเมื่อปีที่แล้ว กระเช้าของขวัญมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมด้วยมากกว่า 50% ส่วนบริษัทฯมีประมาณ 10% เท่านั้นเอง
และปีนี้มีนโยบายชัดเจนที่ต้องการจะให้ผู้บริโภคมาซื้อกระเช้าที่มีสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น ตามแนวคิด “ปัญจธาตุ..พลังแห่งชีวิต” เป็นการนำศาสตร์โบราณแห่งโลกตะวันออกมาทำตลาดอันได้แก่ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทองและธาตุน้ำโดยบรรจุสินค้าที่เกี่ยวกับธาตุต่างๆ นอกนั้นก็มีแบบทั่วไป โดยมีมากกว่า 100 แบบให้เลือก
“กระเช้าสุขภาพเมื่อปีที่แล้วของเราเติบโต 20% และปีก่อนหน้าเติบโต 15% ซึ่งปีนี้คาดว่ากระเช้าสุขภาพจะเติบโต 30% โดยยังคงร่วมมือกับทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ต่อเนื่องในการจัดกระเช้าสุขภาพด้วย” นางภัทรพรกล่าว
สำหรับปีนี้บริษัทฯใช้งบรวมทั้งสิ้น 60 ล้านบาท ในการจัดทำแคมเปญกระเช้าของขวัญ รวมทั้งยังทำการมอบส่วนลดสูงสุดรวม 30% ทำการพิมพ์แคตตาล็อกมากกว่า 150,000 เล่ม สัดส่วนลูกค้าองค์กร 20% ลูกค้ารายบุคคล 80%
****เดอะมอลล์ชูโปรโมชันกระเช้าลด31%****
นายพีระ อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้ เดอะมอลล์กรุ๊ปได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “กระเช้าของขวัญปีใหม่ที่งดงามดุจอัญมณีหลากสีสัน” ภายใต้แนวคิด “เดอะ เจม” เพื่อสร้างความแตกต่าง โดยกูร์เมต มาร์เก็ตและโฮม เฟรชมาร์ทจัดทำโปรโมชันลดสูงสุด 31% เพื่อกระตุ้นการซื้อ พร้อมนำเสนอความคุ้มค่าด้วยเพิ่มมูลค่าให้กับของฝาก
สำหรับกระเช้าของขวัญปีนี้ เน้นไปที่กลุ่มสินค้าในระดับปานกลาง และระดับสูง ซึ่งราคาต่อกระเช้า 900 – 15,900 บาท นอกจากนี้ยังมีกระเช้าที่หลากหลายแยกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น กระเช้าสำหรับผู้รักสุขภาพ เป็นต้น ส่วนฟูด ฮอลล์ ได้คัดเลือกเมนูอาหารจากทั่วโลก มีเบเกอรี่กว่า 150 แบรนด์ และอาหาร 8,000 รายการ สำหรับแคมเปญกระเช้าของขวัญปีใหม่ เริ่มระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน– 5มกราคม นี้
ตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้คาดว่าเติบโต 5-6% จากมูลค่าตลาดในภาพรวมที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายในกูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท ที่สูงขึ้น 5% ในช่วงไตรมาส 4 โดยพบว่าพฤติกรรมของลูกค้าเริ่มคึกคักมากขึ้น เพียงแต่การตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น โดยดูรายละเอียดจากโปรโมชั่นและความคุ้มค่าเข้ามาตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขายกระเช้าของขวัญโต 5% หรือมีรายได้ 300 ล้านบาท
นางภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารเซ็นทรัลฟู้ดฮอล์และท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า ตลาดรวมธุรกิจกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสในส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรด ในปี 2552 นี้คาดว่าจะมีประมาณ 850 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตลดลง 10% หากไม่มีการกระตุ้นตลาดเท่าที่ควร ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปี 2551-2552 ขณะที่เมื่อปี 2551 ตลาดรวมมีมูลค่า 1,020 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะกระตุ้นตลาดกระเช้าของขวัญเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะผลักดันตลาดรวมเป็น 1,100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 41% ในภาพรวมทุกเซ็กเม้นท์ เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้วมีแชร์ 41% ส่วนในกลุ่มพรีเมียมที่มีราคากระเช้าตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป บริษัทฯตั้งเป้ามีแชร์ 70% เหมือนปีที่แล้วเช่นกัน โดยคาดหวังว่ายอดขายกระเช้าของบริษัทฯจะเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งในตลาดรวมนั้นมีตั้งแต่ 500 บาทจนถึง 3,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้นโยบายปีนี้ในส่วนของสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น มีความชัดเจนจากภาครัฐมากขึ้น คือ บริษัทฯจะปฎิบัติตามทุกอย่าง คือ จะไม่มีการใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงไปในกระเช้าและจะไม่มีดิสเพลย์ด้วย ส่วนถ้าหากผู้บริโภคต้องการและขอให้บริษัทฯจัดก็จะจัดให้และต้องขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่ภาครัฐกำหนดเหมือนเดิมด้วย ในตลาดรวมเมื่อปีที่แล้ว กระเช้าของขวัญมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมด้วยมากกว่า 50% ส่วนบริษัทฯมีประมาณ 10% เท่านั้นเอง
และปีนี้มีนโยบายชัดเจนที่ต้องการจะให้ผู้บริโภคมาซื้อกระเช้าที่มีสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น ตามแนวคิด “ปัญจธาตุ..พลังแห่งชีวิต” เป็นการนำศาสตร์โบราณแห่งโลกตะวันออกมาทำตลาดอันได้แก่ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทองและธาตุน้ำโดยบรรจุสินค้าที่เกี่ยวกับธาตุต่างๆ นอกนั้นก็มีแบบทั่วไป โดยมีมากกว่า 100 แบบให้เลือก
“กระเช้าสุขภาพเมื่อปีที่แล้วของเราเติบโต 20% และปีก่อนหน้าเติบโต 15% ซึ่งปีนี้คาดว่ากระเช้าสุขภาพจะเติบโต 30% โดยยังคงร่วมมือกับทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ต่อเนื่องในการจัดกระเช้าสุขภาพด้วย” นางภัทรพรกล่าว
สำหรับปีนี้บริษัทฯใช้งบรวมทั้งสิ้น 60 ล้านบาท ในการจัดทำแคมเปญกระเช้าของขวัญ รวมทั้งยังทำการมอบส่วนลดสูงสุดรวม 30% ทำการพิมพ์แคตตาล็อกมากกว่า 150,000 เล่ม สัดส่วนลูกค้าองค์กร 20% ลูกค้ารายบุคคล 80%
****เดอะมอลล์ชูโปรโมชันกระเช้าลด31%****
นายพีระ อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้ เดอะมอลล์กรุ๊ปได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “กระเช้าของขวัญปีใหม่ที่งดงามดุจอัญมณีหลากสีสัน” ภายใต้แนวคิด “เดอะ เจม” เพื่อสร้างความแตกต่าง โดยกูร์เมต มาร์เก็ตและโฮม เฟรชมาร์ทจัดทำโปรโมชันลดสูงสุด 31% เพื่อกระตุ้นการซื้อ พร้อมนำเสนอความคุ้มค่าด้วยเพิ่มมูลค่าให้กับของฝาก
สำหรับกระเช้าของขวัญปีนี้ เน้นไปที่กลุ่มสินค้าในระดับปานกลาง และระดับสูง ซึ่งราคาต่อกระเช้า 900 – 15,900 บาท นอกจากนี้ยังมีกระเช้าที่หลากหลายแยกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น กระเช้าสำหรับผู้รักสุขภาพ เป็นต้น ส่วนฟูด ฮอลล์ ได้คัดเลือกเมนูอาหารจากทั่วโลก มีเบเกอรี่กว่า 150 แบรนด์ และอาหาร 8,000 รายการ สำหรับแคมเปญกระเช้าของขวัญปีใหม่ เริ่มระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน– 5มกราคม นี้
ตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้คาดว่าเติบโต 5-6% จากมูลค่าตลาดในภาพรวมที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายในกูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท ที่สูงขึ้น 5% ในช่วงไตรมาส 4 โดยพบว่าพฤติกรรมของลูกค้าเริ่มคึกคักมากขึ้น เพียงแต่การตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น โดยดูรายละเอียดจากโปรโมชั่นและความคุ้มค่าเข้ามาตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขายกระเช้าของขวัญโต 5% หรือมีรายได้ 300 ล้านบาท
