“เทพเทือก” โยนนายกฯ ตัดสินไปเชียงใหม่หรือไม่ แต่ยอมรับหวั่นเกิดความรุนแรง หลังเสื้อแดงเคยขว้างระเบิดปิงปองป่วน รมว.คลังมาแล้ว ส่วนพื้นที่ กทม.ยังคงประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทั่ว ไม่ไว้ใจ “หางแดง” เปลี่ยนใจบ่อย สั่งทหาร-ตำรวจไม่ต้องยืนถือปืนบนถนน แต่ต้องเตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่ภายใน 4-6 ชม. เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยว-ลงทุน
เช้าวันนี้ (26 พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสภาหอการค้าไทยที่จังหวัดเชียงใหม่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ต้องให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจและทางฝ่ายเชียงใหม่ก็พยายามแก้ปัญหากัน ในส่วนของตนเองดูเรื่องความปลอดภัย ดูเรื่องเหตุการณ์ว่าทำอย่างไรอย่าให้วุ่นวายจนเกิดภาพที่เสียหายกับบ้านเมือง อันนั้นคือหน้าที่ และต้องดูแลให้นายกรัฐมนตรีปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินถ้าไปได้คุ้มเสียหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเองไม่มีหน้าที่ไปประเมินว่าคุ้มหรือไม่ แต่ประเมินว่าคนเสื้อแดงที่เชียงใหม่โดยเฉพาะกลุ่มเชียงใหม่ 51 มีพฤติกรรมเคยสร้างความรุนแรงมาก่อนและเมื่อตอนที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่นั่นมีการนำระเบิดปิงปองและก้อนหินขว้างตำรวจบาดเจ็บ รวมทั้งมีอาวุธปืนด้วย ซึ่งเวลานี้ยังดำเนินคดีกันอยู่ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าบ้านเมืองช่วงนี้เราไม่อยากให้ภาพอย่างนั้นเกิดขึ้นอีก ไม่อยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีก เพราะคนที่เชียงใหม่เขาก็พยายามแก้ปัญหาภาพพจน์ของจังหวัดเขา ที่แล้วมากลุ่มคนเสื้อแดงทำให้ธุรกิจเชียงใหม่เสียหาย เพราะเชียงใหม่ต้องอาศัยเรื่องการท่องเที่ยวทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ พอบ้านเมืองมีความวุ่นวาย มีความรุนแรง คนก็ไม่อยากไปเที่ยวไม่อยากไปลงทุน ตรงนี้ชาวเชียงใหม่พยายามแก้ไข ซึ่งฤดูนี้เป็นช่วงที่คนไปเที่ยวเชียงใหม่กันมากเพราะอากาศดี และทราบว่าตอนนี้โรงแรมมีจำนวนคนเข้าไปพักเกือบเต็มเขาก็ดีใจกัน
นายสุเทพกล่าวต่อว่า เดิมทีที่เขาขอให้นายกฯ ไปเพราะคิดว่าสามารถเจรจากับกลุ่มเสื้อแดงได้หมดแล้ว เพื่อที่จะนำภาพนี้แสดงต่อสาธารณะชนทั้งหลายทั้งในเมืองไทยและเมืองนอกว่าเมืองเชียงใหม่ไม่วุ่นวายสงบเรียบร้อยแล้ว เปิดกว้างใครไปใครมาก็ได้ นายกฯ ไปปฏิบัติราชการก็ไม่มีเรื่องที่เป็นปัญหาอะไร นี่เป็นความตั้งใจจริงๆ ของนักธุรกิจ ผู้นำในเชียงใหม่ ที่เขาพยายามทำกัน และเขาก็ไปเจรจากับทุกกลุ่มได้แล้ว ยกเว้นบางกลุ่มที่ไม่ยอม จึงกลายเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่
เมื่อถามว่า เมื่อเป็นแบบนี้นายกฯ ไม่ควรไปใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้กราบเรียนนายกฯ และ ครม.ไปแล้ว รอดูวันนี้พรุ่งนี้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ส่วนการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เมื่อวานนี้มี 2 เรื่องสำคัญ คือ การยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา 4 อำเภอ และเอา พ.ร.บ.มั่นคงไปใช้แทน โดยประกาศพื้นที่ 4 อำเภอเป็นพื้นที่ความมั่นคง ตนต้องไปตั้งศูนย์อำนายการรักษาความสงบและจัดโครงสร้างผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามว่า ได้รับหนังสือจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ไม่เห็นด้วยกับการประกาศ ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 4 อำเภอภาคใต้ โดยอ้างว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวปฏิเสธว่าไม่มี ตนไม่เห็นหนังสือ แต่ในสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้กรณี 4 อำเภอนี้ถือเป็นมาตรการทางกฎหมายที่รัฐบาลเลือกใช้ ซึ่งเป็นส่วนที่เบาที่สุดแล้ว เป็นนโยบายของนายกฯ และขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นให้ตำรวจทหารไปยืนถือปืน
สำหรับการประกาศพื้นที่ความมั่นคงในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.เป็นต้นไป จะต้องตั้งศูนย์อำนายการรักษาความสงบเตรียมการเอาไว้ จริงอยู่แกนนำคนเสื้อแดงโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ ออกมาประกาศว่าจะไม่มีการชุมนุมแล้ว แต่กลุ่มเสื้อแดงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อย และเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่เสียหายขึ้นในช่วงเวลานี้ ฉะนั้นต้องเตรียมการเอาไว้
“ผมไม่ได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ทำเนียบ หรือรอบทำเนียบหรือบนถนน เพียงแต่ให้มีความพร้อมที่จะเรียกมาปฏิบัติหน้าที่ได้ภายใน 4 ชั่วโมง 6 ชั่วโมงแล้วแต่สถานที่ ซึ่งจะไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของสถานการณ์ในกรุงเทพฯ มีผลอะไรต่อนักท่องเที่ยว หรือนักลงทุน ท่านทั้งหลายจะเห็นว่ากรุงเทพฯ ยังเป็นปกติดีอยู่ไม่มีอะไร เพียงแต่ผมไม่ประมาทเท่านั้น” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่คนเสื้อแดงเลื่อนการชุมนุมเราจะขยับเวลาในประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงหรือไม่ หรือจะยกเลิกที่ประกาศไปแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า เราก็ดำเนินการไปตามสถานการณ์ ก็ดูไปในวันสองวันนี้ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดเวลาที่ประกาศไป นายสุเทพกล่าวว่า ตนจะดูสถานการณ์พอถึงวันประชุม ครม.คงจะต้องรายงานว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรต้องดูกันไป ตนมีหน้าที่รายงาน ครม.ส่วน ครม.จะพิจารณาอย่างไรก็สุดแล้วแต่
เมื่อถามว่า เรื่องการเดินทางไปเชียงใหม่ของนายกฯ จะพิจารณาอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนกำลังติดตามสถานการณ์อยู่ รอฟังการรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ หากจำเป็นตนจะต้องไปเชียงใหม่อีก ตนก็จะไป แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ เมื่อได้รับรายงานสมบูรณ์ตนจะกราบเรียนนายกรัฐมนตรี หรือบางทีฝ่ายกระทรวงมหาดไทยหรือหอการค้าอาจจะรายงานตรงกับนายกฯ ในแง่มุมของเขาก็ได้ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมต้องให้ทางเชียงใหม่ให้ความเห็นมาก่อน
เมื่อถามว่า ฝ่ายผู้จัดงานบอกว่าหากนายกฯ ไม่ไปเขาสามารถประชุมได้ โดยจะสรุปผลมาเสนอรัฐบาลอีกครั้ง นายสุเทพกล่าวย้ำว่า ตนก็รอฟังเขาอยู่ เมื่อถามว่า วันนี้ (26 พ.ย.) นายกฯ เรียกประชุมความมั่นคงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถึงเวลานี้ นายกฯ ยังไม่ได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง หากนายกฯ เรียกตนก็จะไป
