พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.นี้ว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเปิดตัวเช่นนี้ เขาต้องการสร้างความวุ่นวายแน่นอน เพราะมีการดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน โดยเฉพาะการลงทุนที่จะก่อความวุ่นวาย ดูได้จากการจัดกลุ่มคนหลายกลุ่มไปปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ไปดำเนินการเรื่องต่างๆ รวมถึงตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เองก็เรียกบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายไปหาที่ดูไบ โดยจัดเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 20 คน มีการออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามเขย่าสถานการณ์บ้านเมืองให้เกิดความวุ่นวาย ขณะที่รัฐบาล ก็ยังทำอะไรไม่เป็น พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน โดยเฉพาะการประกาศให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ แต่ขณะนี้ประชาชนเกิดความตระหนกกับสถานการณ์ เนื่องจากรัฐบาลทำอะไรไม่เป็น สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความบกพร่องของรัฐบาล โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคง ทั้งๆที่รัฐบาลกุมอำนาจ ทั้งทหาร ตำรวจ
"การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แค่ต้องการหวังผลทางด้านจิตวิทยา และเป็นการทดสอบกำลัง และการปฎิบัติการของพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ทั้งนี้ ผมฝากไปถึงรัฐบาลว่า อย่ากระพือข่าวเรื่องที่จะมีคนลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ผมอยากให้รัฐบาลบอกเรื่องมาตรการในการรักษาความปลอดภัยดีกว่าจะมาบอกว่ามีแผนการลอบสังหาร อย่างนั้น อย่างนี้ เพราะดูแล้วจะเข้าทางพ.ต.ท.ทักษิณ อย่ามาบอกว่าพบแผนคาร์บอมบ์แล้ว อย่างนี้พวกผมจะทำอย่างไร เพราะท่านมีกองกำลังตั้งมากมาย ยังป้องกันไม่ได้เลย ทั้งนี้รัฐบาลอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป วันนี้รัฐบาลโกหกประชาชนโดยเฉพาะตัวรองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความไม่มั่นคงไปแล้ว เพราะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความมั่นคงเลย" พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าว
เมื่อถามว่าจำเป็นที่รัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่ารัฐบาลต้องประกาศแน่ เพราะเขาทำอะไรไม่เป็น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก ถ้าคนประกาศทำไม่เป็น ก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นการประกาศหรือไม่ประกาศ ก็ไม่มีประโยชน์ เพียงแต่ประกาศมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการทำงานเท่านั้น ดังนั้นใครทำผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายได้เลย เพราะอำนาจอยู่ในมืออยู่แล้ว อะไรที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านเมือง จะต้องดำเนินการทันที
**แฉแผนเผาเมือง-จาบจ้วงเบื้องสูง
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาลได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการปล่อยข่าวอัปมงคล หลังจากนั้น ได้มีการเผยแพร่ข่าวการให้สัมภาษณ์จาบจ้วงสถาบันฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และต่อด้วยการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปเปิดประเด็นในการสร้างปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนนำมาสู่ความยุ่งยากในภายหลัง เมื่อมีการแถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รับเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา จนกระทั่งเกิดการจับตัววิศกรไทย ทั้งหมดนี้วิปรัฐบาลเห็นว่า เป็นกระบวนการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างให้เกิดสถานการณ์รุนแรง เพื่อล้มรัฐบาล เพราะหากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มดีกรีในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ในการสร้างความชอบธรรมให้มวลชนเคลื่อนไหว
"สถานการณ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รัฐบาลจะประมาทไม่ได้และต้องระมัดระวัง จากการรายงานของวิปแต่ละพรรคในทุกพื้นที่รายงานมาตรงกันว่า ได้มีความพยายามเคลื่อนไหวของแกนนำ นปช. เปิดเวทีปราศรัย ใช้สถานีวิทยุโทรทัศน์ ดีสเตชั่น เพื่อปลุกระดมประชาชน โดยเฉพาะสิ่งที่เราห่วงใยมากกับคำกล่าวของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ที่กล่าวไม่เหมาะสม หมิ่นเหม่ต่อการล่วงละเมิดสถานบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นเหม่ต่อการกระทำการที่ผิดประมวลจริยธรรม โดยหวังผลแค่การปลุกระดมเท่านั้น จึงชี้ชัดว่าการเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย.นี้ อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ จึงขอให้ ส.ส.ติดตามสถานการณ์ 2 สัปดาห์อันตรายนี้อย่างใกล้ชิด และรายงานมาที่ประธานวิปรัฐบาล โดยวิปได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมสถานการณ์จากพื้นที่ต่างๆ" นายชินวรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดำเนินการกับพฤติกรรมของ พ.อ.อภิวันท์ อย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า เราจะประชุมกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ขณะนี้มอบหมายให้คณะทำงานด้านกฎหมายไปดู เพราะว่าในจำนวน 5 หน้าที่แกะคำพูดออกมาบนเวทีเสื้อแดง ก็ปรากฎชัดเจนที่มีการพูดจารุนแรง หมิ่นเหม่ และสร้างความสับสนถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ คาดว่าในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
"การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แค่ต้องการหวังผลทางด้านจิตวิทยา และเป็นการทดสอบกำลัง และการปฎิบัติการของพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ทั้งนี้ ผมฝากไปถึงรัฐบาลว่า อย่ากระพือข่าวเรื่องที่จะมีคนลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ผมอยากให้รัฐบาลบอกเรื่องมาตรการในการรักษาความปลอดภัยดีกว่าจะมาบอกว่ามีแผนการลอบสังหาร อย่างนั้น อย่างนี้ เพราะดูแล้วจะเข้าทางพ.ต.ท.ทักษิณ อย่ามาบอกว่าพบแผนคาร์บอมบ์แล้ว อย่างนี้พวกผมจะทำอย่างไร เพราะท่านมีกองกำลังตั้งมากมาย ยังป้องกันไม่ได้เลย ทั้งนี้รัฐบาลอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป วันนี้รัฐบาลโกหกประชาชนโดยเฉพาะตัวรองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความไม่มั่นคงไปแล้ว เพราะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความมั่นคงเลย" พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าว
เมื่อถามว่าจำเป็นที่รัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่ารัฐบาลต้องประกาศแน่ เพราะเขาทำอะไรไม่เป็น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก ถ้าคนประกาศทำไม่เป็น ก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นการประกาศหรือไม่ประกาศ ก็ไม่มีประโยชน์ เพียงแต่ประกาศมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการทำงานเท่านั้น ดังนั้นใครทำผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายได้เลย เพราะอำนาจอยู่ในมืออยู่แล้ว อะไรที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านเมือง จะต้องดำเนินการทันที
**แฉแผนเผาเมือง-จาบจ้วงเบื้องสูง
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาลได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการปล่อยข่าวอัปมงคล หลังจากนั้น ได้มีการเผยแพร่ข่าวการให้สัมภาษณ์จาบจ้วงสถาบันฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และต่อด้วยการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปเปิดประเด็นในการสร้างปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนนำมาสู่ความยุ่งยากในภายหลัง เมื่อมีการแถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รับเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา จนกระทั่งเกิดการจับตัววิศกรไทย ทั้งหมดนี้วิปรัฐบาลเห็นว่า เป็นกระบวนการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างให้เกิดสถานการณ์รุนแรง เพื่อล้มรัฐบาล เพราะหากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มดีกรีในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ในการสร้างความชอบธรรมให้มวลชนเคลื่อนไหว
"สถานการณ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รัฐบาลจะประมาทไม่ได้และต้องระมัดระวัง จากการรายงานของวิปแต่ละพรรคในทุกพื้นที่รายงานมาตรงกันว่า ได้มีความพยายามเคลื่อนไหวของแกนนำ นปช. เปิดเวทีปราศรัย ใช้สถานีวิทยุโทรทัศน์ ดีสเตชั่น เพื่อปลุกระดมประชาชน โดยเฉพาะสิ่งที่เราห่วงใยมากกับคำกล่าวของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ที่กล่าวไม่เหมาะสม หมิ่นเหม่ต่อการล่วงละเมิดสถานบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นเหม่ต่อการกระทำการที่ผิดประมวลจริยธรรม โดยหวังผลแค่การปลุกระดมเท่านั้น จึงชี้ชัดว่าการเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย.นี้ อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ จึงขอให้ ส.ส.ติดตามสถานการณ์ 2 สัปดาห์อันตรายนี้อย่างใกล้ชิด และรายงานมาที่ประธานวิปรัฐบาล โดยวิปได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมสถานการณ์จากพื้นที่ต่างๆ" นายชินวรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดำเนินการกับพฤติกรรมของ พ.อ.อภิวันท์ อย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า เราจะประชุมกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ขณะนี้มอบหมายให้คณะทำงานด้านกฎหมายไปดู เพราะว่าในจำนวน 5 หน้าที่แกะคำพูดออกมาบนเวทีเสื้อแดง ก็ปรากฎชัดเจนที่มีการพูดจารุนแรง หมิ่นเหม่ และสร้างความสับสนถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ คาดว่าในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
