ASTVผู้จัดการรายวัน- โหมโรงชิงเก้าอี้ประธานส.อ.ท.เดือดพล่าน “สุรพร-อดิศักดิ์” จับขั้วร่วมท้าชิงกลุ่มอำนาจเดิม อัดยับยุคนี้บริหารตกต่ำสุด เล่นพรรคพวก “สันติ” มั่นใจเสียงหนุน “พยุงศักดิ์” ยังปึ๊ก
วานนี้ (24 พ.ย.) นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ผู้สมัครชิงประธานส.อ.ท.คนใหม่ 1 ใน 3 คนแทนนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ที่จะหมดวาระลงในเดือนมี.ค.2553 ได้ประกาศจุดยืนที่จะจับมือกับนายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานส.อ.ท.ที่เป็นผู้ชิงประธานส.อ.ท.อีกรายหนึ่งในการต่อสู้กับกลุ่มของนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานส.อ.ท.ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มของนายสันติประธานส.อ.ท.คนปัจจุบัน
นายสุรพรกล่าวว่า การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานที่ต้องการเปลี่ยนแปลงส.อ.ท. ที่ถือว่าการบริหารภายใต้ชุดของนายสันติ ตกต่ำสุดเท่าที่เคยเป็นมา เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นการบริหารงานแบบเผด็จการ ทั้งที่ส.อ.ท.เป็นของสมาชิกทุกคนไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องการอาสาเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างส.อ.ท.ใหม่ และหากได้รับเลือก ก็จะแบ่งกัน โดยสมัยแรกตนจะรับตำแหน่งก่อน จากนั้นจะเป็นนายอดิศักดิ์ แต่หากแพ้ก็ไม่เสียใจอะไร เพราะได้อาสาเข้ามาแล้ว
“ถ้าเข้ามา ผมจะสร้างส.อ.ท.ให้เป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่พอแพ้ก็ย้ายไปอยู่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไม่สามารถร่วมทำงานกันได้เช่นปัจจุบัน เพราะผู้ที่ได้ก็จะเลือกกรรมการที่มาจากพวกตนเอง หากปล่อยไว้ในที่สุดส.อ.ท.จะไม่เหลือคนดีมีฝีมือเลย ดังนั้น จะกำหนดกติกาการเลื่อกตั้งส.อ.ท.ใหม่ที่กรรมการจะต้องไม่ได้มาจากการกีดกันในการลงคะแนนเสียงหรือ Block Vote ซึ่งผมเองไม่กลัวแพ้ ถ้าการแข่งขันอยู่บนพื้นฐานที่เป็นธรรม”นายสุรพรกล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มของนายสันติ ระบุว่าตนกับนายอดิศักดิ์มีกลุ่มการเมืองหนุนหลังนั้น ก็อยากให้ย้อนกลับไปดูตัวนายสันติเองด้วยว่าที่ได้รับตำแหน่งประธานส.อ.ท.ในปัจจุบันนั้นเพราะอะไร และตอนนี้เป็นประธานส.อ.ท.ก็ควรจะวางตัวเป็นกลาง แต่กลับประกาศสนับสนุนนายพยุงศักดิ์ขึ้นเป็นประธานส.อ.ท.
นายอดิศักดิ์กล่าวว่า เป็นการรวมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับส.อ.ท.เพื่อประโยชน์ของสมาชิกส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่ภาครัฐในการให้ข้อมูล ความเห็นและข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งครั้งนี้เป็นมิติใหม่ของการทำงานเป็นการนำเอาความรู้ประสบการณ์ทั้งสองคนมารวมกัน
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ อดีตประธานส.อ.ท.ผู้สนับสนุนกลุ่มของนายสุรพรและนายอดิศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ต้องการเห็นการแข่งขันกัน แต่ก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรส.อ.ท.ไปในทิศทางที่ดี
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นในคะแนนเสียงที่จะสนับสนุนนายพยุงศักดิ์อยู่ หากการแข่งขันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม เพราะเท่าที่ทราบมีการเข้าหาฝ่ายการเมือง และมีการติดต่อมาเพื่อที่จะให้เกิดการร่วมมือกัน แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของเอกชนหากมีการนำการเมืองเข้ามาก็คงไม่สนับสนุน
วานนี้ (24 พ.ย.) นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ผู้สมัครชิงประธานส.อ.ท.คนใหม่ 1 ใน 3 คนแทนนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ที่จะหมดวาระลงในเดือนมี.ค.2553 ได้ประกาศจุดยืนที่จะจับมือกับนายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานส.อ.ท.ที่เป็นผู้ชิงประธานส.อ.ท.อีกรายหนึ่งในการต่อสู้กับกลุ่มของนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานส.อ.ท.ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มของนายสันติประธานส.อ.ท.คนปัจจุบัน
นายสุรพรกล่าวว่า การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานที่ต้องการเปลี่ยนแปลงส.อ.ท. ที่ถือว่าการบริหารภายใต้ชุดของนายสันติ ตกต่ำสุดเท่าที่เคยเป็นมา เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นการบริหารงานแบบเผด็จการ ทั้งที่ส.อ.ท.เป็นของสมาชิกทุกคนไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องการอาสาเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างส.อ.ท.ใหม่ และหากได้รับเลือก ก็จะแบ่งกัน โดยสมัยแรกตนจะรับตำแหน่งก่อน จากนั้นจะเป็นนายอดิศักดิ์ แต่หากแพ้ก็ไม่เสียใจอะไร เพราะได้อาสาเข้ามาแล้ว
“ถ้าเข้ามา ผมจะสร้างส.อ.ท.ให้เป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่พอแพ้ก็ย้ายไปอยู่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไม่สามารถร่วมทำงานกันได้เช่นปัจจุบัน เพราะผู้ที่ได้ก็จะเลือกกรรมการที่มาจากพวกตนเอง หากปล่อยไว้ในที่สุดส.อ.ท.จะไม่เหลือคนดีมีฝีมือเลย ดังนั้น จะกำหนดกติกาการเลื่อกตั้งส.อ.ท.ใหม่ที่กรรมการจะต้องไม่ได้มาจากการกีดกันในการลงคะแนนเสียงหรือ Block Vote ซึ่งผมเองไม่กลัวแพ้ ถ้าการแข่งขันอยู่บนพื้นฐานที่เป็นธรรม”นายสุรพรกล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มของนายสันติ ระบุว่าตนกับนายอดิศักดิ์มีกลุ่มการเมืองหนุนหลังนั้น ก็อยากให้ย้อนกลับไปดูตัวนายสันติเองด้วยว่าที่ได้รับตำแหน่งประธานส.อ.ท.ในปัจจุบันนั้นเพราะอะไร และตอนนี้เป็นประธานส.อ.ท.ก็ควรจะวางตัวเป็นกลาง แต่กลับประกาศสนับสนุนนายพยุงศักดิ์ขึ้นเป็นประธานส.อ.ท.
นายอดิศักดิ์กล่าวว่า เป็นการรวมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับส.อ.ท.เพื่อประโยชน์ของสมาชิกส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่ภาครัฐในการให้ข้อมูล ความเห็นและข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งครั้งนี้เป็นมิติใหม่ของการทำงานเป็นการนำเอาความรู้ประสบการณ์ทั้งสองคนมารวมกัน
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ อดีตประธานส.อ.ท.ผู้สนับสนุนกลุ่มของนายสุรพรและนายอดิศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ต้องการเห็นการแข่งขันกัน แต่ก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรส.อ.ท.ไปในทิศทางที่ดี
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นในคะแนนเสียงที่จะสนับสนุนนายพยุงศักดิ์อยู่ หากการแข่งขันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม เพราะเท่าที่ทราบมีการเข้าหาฝ่ายการเมือง และมีการติดต่อมาเพื่อที่จะให้เกิดการร่วมมือกัน แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของเอกชนหากมีการนำการเมืองเข้ามาก็คงไม่สนับสนุน
