ASTVผู้จัดการรายวัน-นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า ตั้งเป้าว่าช่วง3ปีจากนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดรวมเพิ่มขึ้นปีละ1-2% หรือมีอัตราการเติบโตของยอดขายต่อปี15% โดยปัจจุบัน ซีคอนฯ มีส่วนแบ่งตลาดรวมรับสร้างบ้านอยู่ที่10% ของเป้ายอดขายรวมปี52ที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านวางไว้ทั้งปีว่าจะมียอดขาย 11,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง10 เดือนที่ผ่านมากลุ่มซีคอนฯ มียอดขายแล้ว978 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด 374 ล้านบาท และบริษัท ซีคอนโฮม 604 ล้านบาท
โดยในส่วนของบริษัทคอมแพคฯ นั้นถือว่ามีอัตราการเติบโตของยอดขายเกินเป้าที่วางไว้ทั้งปีแล้ว 47% จากเป้ายอดขายรวมที่วางไว้ 300 ล้านบาท ส่วนบริษัท ซีคอนฯนั้นถือว่าสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งปีที่ 800 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดขายรวมของกลุ่มที่วางไว้1,100 ล้านบาทในปีนี้นั้นกลุ่มซีคอนฯมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าแน่นอน หลังจากที่มีการขยายพื้นที่ และสาขาในการให้บริการลูกค้าออกไปในโซนภาคตะวันออก ส่วนปีหน้าตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่1,300ล้านบาทหรือมีส่วนแบ่งตลาดรวมเพิ่มเป็น11%
และเพื่อเป็นการปรับตัวรองรับการขยายตัวของตลาดในปีหน้า และการผลักดันยอดขายให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรวมได้ตามเป้าในปี53 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด เน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย การนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานก่อสร้าง เป็นต้น
ทั้งนี้ เดิมบริษัทมีรัศมีพื้นที่ให้บริการในแต่ละสาขา 50 กม. แต่ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 150 กม.นอกจากนี้เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และโฟกัสกลุ่มลูกค้าของแต่ละบริษัทให้ชัดเจน บริษัทได้แบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น โดยกลุ่มบ้านราคา 2.5 ล้านบาทลงไป จะให้บริษัทคอมแพคโฮมฯรับผิดชอบ ส่วนบ้าน 2.5-5ล้านบาท ขึ้นไป ซีคอนฯจะรับผิดชอบดูแล
“ปัจจุบัน ตลาด 2.5ล้านบาทลงมา คอมแพคโฮมฯ จะรับผิดชอบทั้งหมด100% ส่วนบ้านราคา2.5ขึ้นไปซีคอนจะรับผิดชอบทั้งหมด โดยปัจจุบัน ซีคอนมีสัดส่วนรายได้จากบ้านราคา2.5-5ล้านบาทประมาณ 40% บ้านราคา5-8ล้านบาท 40 และบ้าน8ล้านบาทขึ้นไปมีสัดส่วน20% ซึ่งในระยะ3ปีจากนี้บริษัทจะขยายสัดส่วนบ้านกลุ่ม8ล้านบาทขึ้นไปให้มีสัดส่วน30% และพยายามผลัดดันให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10% จากเดิมที่ปัจจุบันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7%”
โดยในส่วนของบริษัทคอมแพคฯ นั้นถือว่ามีอัตราการเติบโตของยอดขายเกินเป้าที่วางไว้ทั้งปีแล้ว 47% จากเป้ายอดขายรวมที่วางไว้ 300 ล้านบาท ส่วนบริษัท ซีคอนฯนั้นถือว่าสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งปีที่ 800 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดขายรวมของกลุ่มที่วางไว้1,100 ล้านบาทในปีนี้นั้นกลุ่มซีคอนฯมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าแน่นอน หลังจากที่มีการขยายพื้นที่ และสาขาในการให้บริการลูกค้าออกไปในโซนภาคตะวันออก ส่วนปีหน้าตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่1,300ล้านบาทหรือมีส่วนแบ่งตลาดรวมเพิ่มเป็น11%
และเพื่อเป็นการปรับตัวรองรับการขยายตัวของตลาดในปีหน้า และการผลักดันยอดขายให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรวมได้ตามเป้าในปี53 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด เน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย การนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในงานก่อสร้าง เป็นต้น
ทั้งนี้ เดิมบริษัทมีรัศมีพื้นที่ให้บริการในแต่ละสาขา 50 กม. แต่ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 150 กม.นอกจากนี้เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และโฟกัสกลุ่มลูกค้าของแต่ละบริษัทให้ชัดเจน บริษัทได้แบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น โดยกลุ่มบ้านราคา 2.5 ล้านบาทลงไป จะให้บริษัทคอมแพคโฮมฯรับผิดชอบ ส่วนบ้าน 2.5-5ล้านบาท ขึ้นไป ซีคอนฯจะรับผิดชอบดูแล
“ปัจจุบัน ตลาด 2.5ล้านบาทลงมา คอมแพคโฮมฯ จะรับผิดชอบทั้งหมด100% ส่วนบ้านราคา2.5ขึ้นไปซีคอนจะรับผิดชอบทั้งหมด โดยปัจจุบัน ซีคอนมีสัดส่วนรายได้จากบ้านราคา2.5-5ล้านบาทประมาณ 40% บ้านราคา5-8ล้านบาท 40 และบ้าน8ล้านบาทขึ้นไปมีสัดส่วน20% ซึ่งในระยะ3ปีจากนี้บริษัทจะขยายสัดส่วนบ้านกลุ่ม8ล้านบาทขึ้นไปให้มีสัดส่วน30% และพยายามผลัดดันให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10% จากเดิมที่ปัจจุบันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7%”
