ASTVผู้จัดการรายวัน-อนันต์กร อมรวาที กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ แปลน 101 กล่าวว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้านค่อนข้างมากทำให้บริษัทต้องเตรียมแผนรับมือร่วงหน้าโดยเฉพาะ ในช่วงที่แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง ซึ่งบริษัทได้วางแผนและดำเนินการปรับภาพลักษณ์ขององค์กรใหม่
โดยในไตรมาส 3บริษัทฯ จะปรับภาพลักษณ์ของ Brand เพื่อสื่อสาร ไปยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างการจดจำในตราสินค้าให้มากขึ้น เช่นการปรับ Redesign LOGO ให้เข้ากับรูปแบบบ้านในสไตล์ Neo Classic เน้นสร้างความโดดเด่นให้ลูกค้าเกิดการจดจำง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะปรับ Web Site บริษัทฯ สามารถสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจหาข้อมูลซึ่งจะเริ่มในเดือนส.ค.นี้
สำหรับสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงที่ผ่านมาว่า ต้องยอมรับภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านช่วง 5 เดือนหดตัวลง10% เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูการสร้างบ้านส่วนในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาสสุดท้ายปีนี้ธุรกิจรับสร้างบ้านน่าจะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากลูกค้ารอที่จะสร้างบ้านอยู่แล้ว และมีความพร้อม ซึ่งถือว่าในช่วงนี้จะเป็นช่วงซีซั่นของการสร้างบ้าน รวมไปถึงการตัดสินใจ ประกอบกับเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้น ลูกค้าต้องเร่งตัดสินใจ เนื่องจากเกรงว่า ราคาบ้านจะขยับสูงขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายได้120 ล้านบาท ส่วนในไตรมาสที่2 ตั้งว่าจะทำยอดให้ได้ 80 ล้าน ซึ่งจะทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทจะมียอดขายรวม 200 ล้านจากเป้าที่วางไว้ทั้งปี300ล้านบาท
โดยในไตรมาส 3บริษัทฯ จะปรับภาพลักษณ์ของ Brand เพื่อสื่อสาร ไปยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างการจดจำในตราสินค้าให้มากขึ้น เช่นการปรับ Redesign LOGO ให้เข้ากับรูปแบบบ้านในสไตล์ Neo Classic เน้นสร้างความโดดเด่นให้ลูกค้าเกิดการจดจำง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะปรับ Web Site บริษัทฯ สามารถสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจหาข้อมูลซึ่งจะเริ่มในเดือนส.ค.นี้
สำหรับสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงที่ผ่านมาว่า ต้องยอมรับภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านช่วง 5 เดือนหดตัวลง10% เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูการสร้างบ้านส่วนในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาสสุดท้ายปีนี้ธุรกิจรับสร้างบ้านน่าจะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากลูกค้ารอที่จะสร้างบ้านอยู่แล้ว และมีความพร้อม ซึ่งถือว่าในช่วงนี้จะเป็นช่วงซีซั่นของการสร้างบ้าน รวมไปถึงการตัดสินใจ ประกอบกับเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้น ลูกค้าต้องเร่งตัดสินใจ เนื่องจากเกรงว่า ราคาบ้านจะขยับสูงขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายได้120 ล้านบาท ส่วนในไตรมาสที่2 ตั้งว่าจะทำยอดให้ได้ 80 ล้าน ซึ่งจะทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทจะมียอดขายรวม 200 ล้านจากเป้าที่วางไว้ทั้งปี300ล้านบาท
