xs
xsm
sm
md
lg

"พัลลภ"รับงานถล่มปชป. นำพยานคดียุบทรท.กลับคำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (16พ.ย.) ที่โรงแรมเรดิสัน กรุงเทพฯ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต. มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรค เพื่อนร่วมรุนเตรียมทหาร 10 (ตท.10) นำนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้อำนวยการพรรคพัฒนาชาติไทย และนาย ชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งเป็นพยานปากเอกคดียุบพรรคไทยรักไทย ร่วมแถลงข่าวถึงเบื้องหลังการยุบพรรคไทยรักไทย โดยพล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนพร้อมพยานปากเอก มาชี้แจงถึงกรณียุบพรรคไทยรักไทย เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพรรค และคณะผู้บริหารพรรค 111 คน รวมถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพยานปากเอกทั้งสอง ให้การเป็นเท็จต่อศาล จนนำไปสู่การยุบพรรค แต่วันนี้ทั้งสองสำนึกผิด จึงมาพบตนและพล.ต.ต.มณเฑียร เพื่อแถลงให้คนไทยได้ทราบข้อเท็จจริง แม้เขาจะติดคุก หรือตายก็ยอม แต่การแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สำนึกผิด ต้องว่าตามกระบวนยุติธรรม
พล.ต.ต.มณเฑียร กล่าวว่า จากการที่มีการยุบสภา และจัดการเลือกตั้งเมื่อเดือนเม.ย. 49 พยานทั้ง 2 ได้ให้การต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้จ่ายเงินเพื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แข่งกับพรรคไทยรักไทย โดยทั้งสองคนได้ทำผิดกฎหมายโดยแก้ไขฐานข้อมูลของกกต. ในการมีชื่อในภูมิลำเนาไม่น้อยกว่า 90 วัน แล้วพรรคประชาธิปัตย์จับได้ และมีการแจ้งความดำเนินคดี จากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดต่อชักจูงและจ้างวานพยานทั้ง 2 เพื่อให้การเท็จว่า พรรคไทยรักไทยจ้างให้ลงสมัครเป็นคู่แข่งพรรคไทยรักไทย ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีข้อหาแก้ฐานข้อมูลกกต.
"เวลานั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เป็นผู้วางแผนเพื่อล้มพรรคไทยรักไทย และข่มขู่ให้พยานทั้งสอง ร่วมงานนี้ จนทั้งสองไม่สามารถทนได้ จึงต้องรับงาน แต่ขณะนี้ทั้งสองคนสำนึกผิด และต่อมาได้ถูกป.ป.ช. ดำเนินคดี เขาจึงรู้ว่าถูกหักหลัง จึงมาผมเพื่อขอโทษประชาชนและกรมการ 111 คน" พล.ต.ต.มณเฑียรกล่าว
ด้านนายสุขสันต์ กล่าวว่า ตนสำนึกผิด อยากขอโทษพ.ต.ท.ทักษิณ และสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่ให้การเป็นเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ตนถูกจ้างวานให้การเท็จ โดยนายสุเทพเป็นผู้จ้างวาน โดยวันที่ 4 มี.ค.49 มีคนที่รู้จักมาพบตนที่โรงแรมกาญมณี ว่าหากอยากได้เงินสนับสนุนพรรคให้ไปพบนายสุเทพ ต่อมาวันที่ 15 มี.ค. ตนและนายชวการเดินทางไปพบนายสุเทพ เวลา 22.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ ขอร้องให้ทำงาน โดยมีเป้าหมายยุบพรรคไทยรักไทย โดยมีเงื่อนไขสัญญา 4 ข้อ คือ 1. นายสุเทพ ดูและความปลอดภัยทุกคนในครอบครัว 2. ช่วยเหลือเรื่องคดีความ 3.ให้เงินค่าจ้าง 15 ล้านบาท และ 4.หากเลือกตั้งใหม่จะส่งให้เป็นส.ส. และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากไม่ทำ จะโดนคดีปลอมแปลงเอกสาร
"ผมไม่มีทางเลือก จึงรับงานด้วยความจำเป็น แต่ขอไปคุยกับหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ก่อน แต่นายสุเทพ บอกไม่ต้อง แต่ให้เดินทางไปด้วยกันในคืนนั้น และพูดคุยกันจนถึงเวลา 04.00 น. และวันที่ 18 มี.ค. นายสุเทพได้ให้ไปรับเงินล่วงหน้า 1 ล้านบาท และแถลงข่าวในร้ายพรรคไทยรักไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นรับตัวไปจ.สุราษฎ์ธานี และได้รับการควบคุมโดยนายสุเทพ ตลอด ทำให้เวลานั้นให้การอย่างอื่นไม่ได้ แต่ปัจจุบันผมกับถูกดำเนินคดี ซึ่งนายสุเทพไม่ทำตามสัญญา แสดงว่าผมถูกใช้เป็นเครื่องมือ”นายสุขสันต์ กล่าว
นายชวการ กล่าวว่า การเลือกตั้งปี 49 พรรคพัฒนาชาติไทย ดำเนินการตามลำพัง ไม่เกี่ยวกับพรรคไทยรักไทย ยืนยันว่าไม่เคยร่วมกันวางแผนกับ พล.อ. ธรรมรักษ์ ไม่เคยพบไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนภาพวงจรปิด 9 ภาพ ที่ปรากฏตนอยู่ที่กระทรวงกลาโหมนั้น ยอมรับว่าไปจริง แต่ไปเป็นการส่วนตัวกับเพื่อนที่เป็นนักข่าว แต่ไม่ได้พบพล.อ.ธรรมรักษ์ และไม่มีการรับเงินกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ ภาพที่ใช้เป็นการตัดต่อข้อเท็จจริง
"ตอนที่เขาบอกให้ร่วมมือ เขาบอกว่าให้ทำเพื่อชาติ เสียสละเพื่อชาติ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองในปี 49 แต่ความจริงการแก้วิกฤติด้วยวิธีสกปรก บิดเบือนใสความว่าความเท็จ จนทำให้กระบวนยุติธรรมบิดเบือนไม่ถูกต้อง และสุดท้ายคนที่ทำเพื่อชาติกำลังจะติดคุก ขบวนการที่เกิดขึ้นไม่มีจริยธรรม ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้แผนสมรู้ร่วมคิดกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในภาคอีสาน และทหารบางกลุ่ม ผมไม่กลัวการติดคุก แต่อยากให้คนที่อยู่เบื้องหลังการจ้างวานได้ถูกดำเนินคดีเช่นกัน อยากให้รู้ว่าใครคือตัวการแท้จริง เพราะขณะนี้ผมกำลังถูกหักหลัง เหมือนวลีที่ว่าเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล พอเสร็จภารกิจก็ให้ไปไกลๆ ขอยืนยันต่อหน้าไฟทุกดวงที่ส่องหน้าผมอยู่ว่า ผมไม่ได้โกหก ผมเป็นตัวละครที่ทำตามบทที่เขาเขียนขึ้นมา" นายชวการ กล่าว
นายชวการ กล่าวว่า ตนมีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะเงินบัญชีที่เข้าในธนาคารตนกว่า 4-5 ล้านบาท ซึ่งตนไม่ทำงานอะไรอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ทำไมมีเงินเข้าบัญชีมากขนาดนั้น ขณะนี้ได้ให้ธนาคารได้ลงนามรับข้อมูลเงินในบัญชีแล้วว่า ถูกต้อง และจะนำมาเปิดเผยต่อไป ซึ่งบัญชีสามารถรู้ต้นตอที่มาของเงินได้
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุขอเข้าพบนายสุเทพ แต่เลขาส่วนตัวก็ไม่ให้เข้าพบ โทรศัพท์ไปหานาย วิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ก็ไม่ให้เขาพบ ตนยอมรับว่า ทำผิด แต่ตอนนี้ถูกหักหลังจากผู้มีอำนาจรัฐ เรามีอำนาจน้อยทำอะไรเขาไม่ได้ แต่อยากให้รู้ข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า เวลานั้นถูกจ้างวานให้พูดเท็จแล้ววันนี้คนไทยจะเชื่อคำพูดได้อย่างไรว่าทุกอย่างเป็นจริง นายชวการ กล่าวว่า นี่เป็นคำพูดของคนที่กำลังจะติดคุก คงไม่มีการออกมาโกหกแน่นอน

**"มาร์ค"ชี้พัลลภรับงานป่วน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เวลานี้ก็จะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง พยายามจะสร้างความสับสนและวุ่นวายในบ้านเมือง และตนเชื่อว่าหากมีการกระทำเช่นนั้นจริง ก็คงไปฟ้องร้องกันแล้ว
ถามว่าวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไม พล.อ.พัลลภ จึงออกมาพูดในช่วงนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นการดำเนินการทางการเมือง เมื่อถามว่าจะรับมือไหวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่ทำงานยึดประโยชน์ของบ้านเมือง ต้องทำงานเดินหน้าต่อไป ปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา ตนไม่เชื่อว่าสังคมไทยจะยอมให้ใครที่ไม่ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลักมาสร้างปัญหาให้บ้านเมือง
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ข้อกล่าวหาของบุคคลทั้งสองไม่เป็นความจริง ทำไมทั้งสองคนเพิ่งมาพูดตอนนี้ ในช่วงที่เป็นพยานนั้นตอนพบหน้าพนักงานสอบสวน กกต. หรือแม้แต่การให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก และเป็นการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย ซึ่งบุคคลทั้งสองจึงมีอิสระอย่างเต็มที่ในการปากคำ
นอกจากนี้คดีดังกล่าวตุลการรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยแล้วซึ่งถือเป็นที่สุด และผูกพันทุกองค์กร การที่ พล.อ.พัลลภ มาแถลงข่าวครั้งนี้เพราะพรรคพวกตนเอง กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะพูดจาพาดพิงถึงสถาบันฯ จึงต้องการเบี่ยงเบนประเด็นสร้างกระแสข่าว เพื่อชิงพื้นที่ข่าว อีกทั้งพยานที่เล่าเรื่อง ก็ล้วนแต่เป็นพยานบอกเล่าที่ไม่มีน้ำหนัก
"ในช่วงที่เป็นคดี ท่านไปอยู่ที่ไหน ทำไมเพิ่งมารักความยุติธรรมขึ้นมาในตอนนี้หลังจากเรื่องผ่านไป 2 ชาติ คือพรรคถูกยุบไปถึง 2 ครั้ง ที่สำคัญคือ ผู้บริหารพรรคไทยรักไทย กำลังถูกดำเนินคดีอาญา จากคดีที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พล.อ.พัลลภ จึงต้องการช่วยเหลืออดีตผู้บริหารพรรคไทยรักไทย แต่การกระทำดังกล่าวไปกระทบกับบุคคลอื่น โดยนำเรื่องที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริงมาพูด ไม่เหมาะสมกับชาติชายทหาร" นายถาวร กล่าว
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนเพื่อล้มพรรคไทยรักไทย โดยครั้งนั้น ตนเองทำหน้าที่เป็นเพียงแค่พยานนำ ที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่ถูกต้องในการดำเนินการของพรรคไทยรักไทยขณะนั้น และศาลรัฐธรรมนูญ ได้ไต่สวนแสวงหาความจริงเป็นที่เรียบร้อยตามกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ คาดว่าการออกมาเปิดประเด็นนี้ในเวลานี้ เป็นเพราะต้องการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการเร่งดำเนนิการในช่วงนี้ สอดรับกับยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ส่วนการกลับลำของอดีตพยานในคดีทั้งสองคนนั้น เชื่อว่าสุดท้ายเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์และต้องรับผลของการกระทำนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น