“ทรราชหน้าเหลี่ยม”กับแผน“ผลัดแผ่นดิน”!

สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ขึ้นชื่อว่า..ทรราชแล้ว..ไม่ว่าทรราชชาติไหนในโลก เอกลักษณ์พิเศษที่ตรงกัน คือ ต้องชั่วสุดฤทธิ์-ขายชาติสุดเหวี่ยง..จริงไหมครับ?

ก่อนเป็นนักโทษชายหนีคุก “หน้าเหลี่ยม”ก็เล่นกลร่ำรวยชนิดไม่โปร่งใส จากการได้สัมปทานรัฐแบบผูกขาดทางด้านไอทีหลายโครงการ

พอเป็นอภิมหาเศรษฐี..ก็เข้ามาเล่นการเมืองแบบ“โกงข้อสอบ” ด้วยการใช้เงินและกลโกงเอาชนะคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ก่อนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจล้นฟ้า

แทนที่จะทำดี..ดันเอาฐานะนายกฯไปทำกรรมชั่ว คอร์รัปชั่นอย่างมโหฬารแทบทุกโครงการทั้งราษฎร์ทั้งหลวง จากร่ำรวยหลายหมื่นล้านบาท..เพิ่มเป็นหลายแสนล้านบาท เงินไม่โปร่งใสเหล่านั้น“หน้าเหลี่ยม”แอบซุกไว้ในธนาคารหลายประเทศ

เป็นใหญ่ในฐานะนายกรัฐมนตรี..ไม่หนำใจ อยากมีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน ถึงขนาดคนสนิทชิดเชื้อตั้งขบวนการล้มเจ้า ดำเนินการอย่างเป็นระบบโค่นล้มทำลายล้าง สถาบันพระมหากษัตริย์ทุกวิถีทางทั้งลับและเปิดเผย

ในขณะที่“หน้าเหลี่ยม”ตีสองหน้าทำตัวเป็น“ลิงหลอกเจ้า” อ้างว่าจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด แต่ในทางเป็นจริงคนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ กลับเป็นคนใกล้ชิดคน“หน้าเหลี่ยม” และหลายคนถึงกับได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาลที่“หน้าเหลี่ยม”บงการทั้งต่อหน้าและลับหลัง

คอร์รัปชั่นกันแบบไม่แยแสกฎหมาย ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ชนิดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เหิมเกริมบังอาจจาบจ้วงกันกลางสนามหลวง ในหน้าจอทีวีผ่านดาวเทียมคนเสื้อแดง สื่อสิ่งพิมพ์แทบทุกชนิด..อ้อ..โดยเฉพาะสื่ออีเลคทรอนิกเว็บไซต์อีกสารพัด ฯลฯ

ในที่สุดเวรกรรมระลอกแรกก็ตามสนอง“หน้าเหลี่ยม” ด้วยการโดนประชาชนชาวพันธมิตรฯ ขับไล่ ก่อนจะโดนคณะทหารทำรัฐประหาร ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไร้แผ่นดินแม่ซุกหัว ตามด้วยศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตัดสินจำคุก2 ปี ฐานฉ้อฉลและผิดกฎหมายกับการซื้อที่ดินของรัฐ แถวถนนรัชดาฯในราคาถูกเป็นพิเศษ

ทำผิดไม่ยอมรับผิด ทำชั่วไม่ยอมรับโทษ “หน้าเหลี่ยม”ใช้วิธีหนีสุดหล้าฟ้าเขียว

แต่ที่สำคัญ“หน้าเหลี่ยม”คนปากเก่งแต่ใจปลาซิว นอกจากไม่ได้สำนึกในความผิดที่ตนก่อแล้ว ยังกลับใช้ต่างประเทศเป็นฐานที่มั่นล้มล้างรัฐบาลไทย และสถาบันสำคัญของชาติไม่หยุดยั้ง ใช้เงินที่ได้มาโดยไม่โปร่งใสจ้างคนชั่วป่วนบ้านเมือง ทั้งในสภาและนอกสภา

เท่านั้นไม่พอ..ด้วยผลประโยชน์มหาศาลทางด้านน้ำมันใต้ทะเล ที่คาบเกี่ยวดินแดนไทย-กัมพูชา ทักษิณได้ลากเอาผืนแผ่นดินไทยทั้งบนบกและในทะเล ไปประเคนให้กับประเทศกัมพูชาอย่างแยบยล ในห้วงที่บงการรัฐบาลอยู่ด้วยวิธีเซ็นเอ็มโอยูบ้าง คำแถลงการณ์ร่วมบ้าง ฯลฯ

ทำให้มีการยกเลิกการแบ่งเขตแดนแบบสากล เช่น ยกเลิกการแบ่งเขตแดนด้วยสันปันน้ำ หันมายอมรับแผนที่อัตราส่วน1ต่อ2 แสน เพราะสองทรราช-สองชาติไทย-เขมร ได้แอบตกลงแบ่งปันผลประโยชน์อย่างลับๆเป็นการส่วนตัว จากทรัพย์ในดินสินในน้ำของแผ่นดินไทยไงล่ะครับ

ผมประโยชน์ร่วมกันทำให้เปลี่ยนสองทรราช จากศัตรูกลายเป็น“เพื่อนข้าใครอย่าแตะ” ถึงขนาดทรราชฮุนเซนย่ำยีชาติไทยซึ่งๆ หน้า ด้วยการประณามศาลไทยที่ตัดสินคดีความภายใต้พระปรมาภิไธยว่า ไม่ยุติธรรมและกลั่นแกล้งทางการเมืองทักษิณ

อีกทั้งฮุนเซนยังไม่แยแสสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่เซ็นร่วมกันระหว่างสองประเทศ ด้วยการประกาศจะไม่ส่งตัว“หน้าเหลี่ยม”กลับมารับโทษในประเทศไทย

เท่านั้นไม่หนำใจ ทรราชเขมรฮุนเซนยังได้แต่งตั้งทักษิณ ให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและเป็นที่ปรึกษารัฐบาลฮุนเซนอีกด้วย

9 พฤศจิกายน2552 ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ นายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี บรรณาธิการข่าวภูมิภาคเอเชีย ของนสพ.เดอะไทมส์(ลอนดอน)ถึงดูไบ ก่อนจะเผยแพร่ในเว็บไซต์“ไทมส์ออนไลน์” มีถ้อยคำจาบจ้วงให้ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง

ด้วยความเจ้าเล่ห์ที่ทักษิณหวังหลอกลวงเฉพาะคนไทย เขาจึงรีบออกมาแถลงปฏิเสธว่า มิได้ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเลย หากแต่เป็นไทมส์ออนไลน์ลงถ้อยความโกหกมดเม็จต่างหาก

ทว่าการสัมภาษณ์ของสื่อต่างชาตินั้น มีการอัดเทปไว้ครบถ้วน ไทมส์ออนไลน์จึงลงคำให้สัมภาษณ์ทักษิณชนิดคำต่อคำ ความยาวถึง12หน้ากระดาษขนาดเอ4 อย่างครบถ้วน เท่ากับเป็นการตอกย้ำแฉโพยความชั่ว รวมทั้งตอบโต้ความกะล่อนในการปฏิเสธ และไม่รับผิดชอบคำพูดชั่วๆ ที่ให้สัมภาษณ์ จากปากตัวของทักษิณโดยตรงนั่นเอง

เป็นที่น่าสังเกตว่า การให้สัมภาษณ์ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำนองนี้ของทักษิณเคยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากับสื่อต่างประเทศ โดยทักษิณใช้วิธีโกหกคนไทยว่า..ไม่ได้พูดหรือถูกบิดเบือนคำสัมภาษณ์ แต่ทักษิณก็ไม่เคยฟ้องร้องเอาผิดกับสื่อต่างประเทศแม้แต่ครั้งเดียว?

การสัมภาษณ์ให้ร้ายป้ายสี-จาบจ้วง สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผย-ชัดแจ้ง-รุนแรงในครั้งนี้ แม้นเป็นการตอกตะปูตัวสุดท้ายใส่ฝาโลงตนเอง อันจะส่งผลให้ทักษิณยิ่งร้อนรน และจะต้องสร้างสถานการณ์หนักข้อขึ้นอย่างแน่นอน

10 พฤศจิกายน 2552 ทรราชสองคน-สองชาติ ที่กมลสันดานชั่วไม่ต่างกัน ได้โคจรไปสุมหัวกันอยู่ที่ประเทศกัมพูชาเรียบร้อยแล้วครับ

การยุทธต่อจากนี้..สองทรราชพร้อมแล้วครับ พร้อมจะล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และสถาบันสำคัญของชาติไทย ด้วยวิธีการทั้งแยบยลและหยาบช้าครบครัน

ยุทธการเอาเงิน 7 หมื่น 6 พันล้านบาท-ที่ถูกอายัดไว้คืน และทำให้ตนหลุดพ้นจากความผิด รวมทั้งกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งหนึ่งนั้น ทักษิณจะต้องเสี่ยงแค่ไหน-ก็จะเสี่ยง ต้องทำรัฐประหาร-ก็ต้องทำ ต้องล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อเลือกตั้งใหม่ ก็มีเงินเต็มพิกัดพร้อมซื้อเสียงเอาชนะคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง

ถึงขนาดหากจะต้องผลัดแผ่นดิน-สร้างรัฐไทยใหม่ ที่ไม่มีพระมหากษัตริย์หรือหากต้องมีพระมหากษัตริย์ ก็ต้องเป็นพระมหากษัตริย์ที่“หน้าเหลี่ยม” บงการชี้นิ้วได้แบบเดียวกับฮุนเซนทำกับกษัตริย์กัมพูชาไงล่ะครับ

ดังนั้น“หน้าเหลี่ยม”จึงพยายามทำทุกวิถีทาง ให้เกิดการ“ผลัดแผ่นดิน”ให้ได้ เพราะทรราช“หน้าเหลี่ยม”เชื่อว่า..หากมีการ“ผลัดแผ่นดิน”ในประเทศไทย ตนจะได้คืนเมืองจากการนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ในชาติไทย

หากวันนั้นมาถึง“หน้าเหลี่ยม”ยังเชื่ออีกว่า ตนจะกลับมา“ยิ่งใหญ่”อีกคำรบไงล่ะครับ!

จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการ“ยิงปืนนัดเดียว”ได้“นกหลายตัว” แถมได้เงินเข้ากระเป๋าก้อนมหึมาอีกต่างหาก ยุทธการทุบหุ้นหาเงินล้มเจ้าด้วยการปล่อยข่าว“อัปมงคล” จากสิงคโปร์สู่สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง จนทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกกว่า 4 แสนล้านบาท โดย“คนหน้าไม่กลม”และเครือข่ายรวยกันจนพุงปลิ้น

วันนี้..ทักษิณได้ส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่า พลพรรคของตนต้องสู้กันแบบได้-เสีย และหากการต่อสู้เกิดพลาดพลั้งเสียที..ก็ ย.ห.หรืออย่าห่วงนะโว้ย

ทรราชฮุนเซนให้ทรราช“หน้าเหลี่ยม”เช่าเกาะกง 99 ปีแล้ว เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นของรัฐบาลพลัดถิ่น“ส้นตีนแดง” แกนนำคนเสื้อแดง 3 เกลอ“หัวขวดตะกวดเมิน” และ ส.ส.พรรคเพื่อ(ชิน)ไทยบางคนในสภา รวมทั้งพวกล้มเจ้าอดีตคอมมิวนิสต์ทั้งหลาย สามารถหลบลี้หนีภัยไปสุมหัวหรือไปฝังศพกันได้สบายแฮ ณ เขมรแดนดินถิ่นปลากรอบ

ป.ล.ขอกระซิบบอกไว้ตรงนี้เลยว่า “เจ๊เพ็ญ”กับพลพรรคเสื้อแดงล้มเจ้าบางคน ไปนอนอ้าซ่าตบยุงรออยู่ที่เขมร เรียบร้อยโรงเรียนสองทรราช-สองชาติแล้วคร้าบ..จบข่าว!!!