xs
xsm
sm
md
lg

กำจัดเหล่ากอ"สารเลว"หมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภายหลังจากที่"ไทมส์ ออนไลน์" ได้เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บาดลึกเข้าไปสู่ก้นบึ้งหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งยังยึดมั่นในความจงรักภักดีแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ดำรงอยู่คู่ชาติ และศาสน์มาตั้งแต่ครั้งบรรพชน บัดนี้ เป็นที่ประจักษ์แจ้งอย่างแจ่มชัดแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาเลวอันใดแอบแฝงอยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าบริวารบัวใต้น้ำของพวกเขา ได้แสดงออกถึงพฤติกรรมที่บ่งชี้ว่าเป็นการมิบังควร ถึงขั้นหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมีคดีความบ่งชี้เป็นหลักฐาน

ย้อนกลับไปในปี 2548 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2548 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมพวก ได้เข้าไปภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งเป็นประธานในพิธีศาสนสัมพันธ์สมานฉันท์แห่งชาติ หรือที่เรียกกันว่าทำบุญประเทศ ภายในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นพระอารามหลวงที่ตั้งอยู่ภายในเขตพระราชฐานในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ใช้ประกอบราชพิธี บุคคลอื่นใดไม่มีสิทธิที่จะเข้าไป หากไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และนายวิษณุ ยกตนเองเสมอเบื้องสูง เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ยังได้แต่งกายที่ไม่สุภาพเข้าไปประกอบพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน ละเมิด ต่อระเบียบโบราณราชประเพณี ถือว่า การกระทำดังกล่าวของบุคคลทั้งสองเข้าข่ายฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

นั่นเป็นปฐมบทของการหมิ่นเบื้องสูง ที่เกิดขึ้นในปี 2548 แต่ถูกนำมาตีแผ่ในปี 2549 ในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมตัวชุมนุมกันเพื่อไล่ตะเพิด"ทรราชย์"ผู้นี้ และเรื่องนี้ ถูกบันทึกเป็นคดีความเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2549 ที่สน.พระราชวัง

ในปี 2551 เมื่อวันที่ 24 มี.ค. พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายจักภพ เพ็ญแข ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีที่ นายจักรภพ แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง โดยมีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตย ระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทย ปัจจุบัน คดีความอยู่ในชั้นการดำเนินการของอัยการ โดยมีการยื้อกันมาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน จนถึงขณะนี้ ยังไม่เข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล

8 เม.ย. 2551 พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายโจนาธาน เฮด (Jonathan Head) ผู้สื่อข่าวบีบีซี และคณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง กรณีที่ นายโจนาธาน เป็นพิธีกรในงาน ใช้ถ้อยคำเปิดรายการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “coup, capital and crown” ซึ่งเข้าข่ายความผิดดังกล่าว ซึ่งเป็นงานเดียวกับที่นายจักรภพไปบรรยาย

22 ก.ค. 2551 พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ สว.สส.สน.ชนะสงคราม ติดตามจับกุมตัวน.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด ตามหมายจับของศาลในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังจากที่ น.ส.ดารณี ขึ้นปราศรัยกับกลุ่มนปก.บนเวทีท้องสนามหลวง เมื่อค่ำวันที่ 18-19 ก.ค.2551 ด้วยถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูง สุดท้ายศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2552 พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งกระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกรรม ให้จำคุก 3 กระทงๆ 6 ปี รวมจำคุก 18 ปี

29 ก.ค. 2551 คณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สมัยพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.เป็นประธาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปราศรัยพาดพิงก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร้สำนึก ทั้งยังนำไปพูดในรายการทางสถานีวิทยุชุมชน และเผยแพร่ทางเว็บไซด์ด้วย

15 ส.ค. 2551 ศาลได้ออกหมายจับนางบุญยืน ประเสริฐยิ่ง แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยก้าวหน้า โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค. นางบุญยืนได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวง ซึ่งในการปราศรัยได้มีบางช่วงกล่าวพาดพิงถึงองค์รัชทายาท เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

20 ส.ค.2551 ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับที่ จ.2428/2551 เพื่อจับกุมนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่เมื่อวันที่ 6 พ.ค.50 เวลาประมาณ 16.21-22.30 น. นายวีระ ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพีทีวี และนปก.ได้กล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง โดยมีข้อความบางตอนที่เข้าข่ายเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง

17 ต.ค. 2551 ศาลอนุมัติหมายจับนายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กรณีกล่าวปราศรัยที่เวที นปช.ท้องสนามหลวง เมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง

ลุพุทธศักราช 2552 ขบวนการจาบจ้วงเบื้องสูง ยังคงแผ่ขยายพฤติกรรมไม่หยุดหย่อน ซ้ำยังหนักข้อขึ้นอย่างต่อเนื่อง

14 ม.ค. 2552 กรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมตัวนายสุวิชา ท่าค้อ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาเผยแพร่ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูงลงในเว็บไซต์ต่างๆ โดยจับกุมได้ที่ จ.นครพนม โดยศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2552 ให้จำคุก 20 ปี แต่จำเลยยอมรับสารภาพ จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 10 ปี

19 ม.ค. 2552 ศาลพิพากษาจำคุก นายแฮรี่ นิโคลายส์ (MR.Harry Nicolaides) อายุ 41 ปี ชาวออสเตรเลีย อดีตนักข่าวและคอลัมนิสต์ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เป็นเวลา 6 ปี แต่รับสารภาพ คงลดโทษให้เหลือ 3 ปี

20 ม.ค. 2552 ตำรวจ สน.ปทุมวัน ออกหมายเรียกนายใจ อึ้งภากรณ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และระหว่างไปโรงพัก ยังไม่วายเรียกร้องให้ยกเลิกกฏหมายหมิ่นเบื้องสูงด้วย โดยปัจจุบัน นายใจ หลบหนีคดีหมิ่นเบื้องสูงไปอยู่ในประเทศอังกฤษ

30 มิ.ย. 2552 น.ส.ลักษณา กรณ์ศิลป อายุ 57 ปี อาชีพนักแปลและที่ปรึกษาภาคอุตสาหกรรมบริษัทเอกชน เข้าแจ้งความที่สน.ลุมพินี ให้ดำเนินคดี นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซีประจำภูมิภาคเอเชีย และกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT รวม 13 คน ฐานหมิ่นเบื้องสูง โดยมีพฤติกรรมจัดจำหน่ายดีวีดีของนายจักรภพ ที่หมิ่นสถาบันออกขาย และแปลคำพูดจาบจ้วงของนายวีระ มุสิกพงษ์ออกเผยแพร่

2 ก.ค.2552 ศาลอนุมัติหมายจับนายพิษณุ พรหมสร แกนนำคนเสื้อแดงรุ่น 2 ขึ้นปราศรับจาบจ้วงสถาบันที่ท้องสนามหลวงเมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.51 ปัจจุบันตำรวจคาดว่า นายพิษณุ หลบหนีไปพำนักในประเทศลาว และพักอาศัยอยุ่กับนายสุชาติ นาคบางไทร ผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูงอีกคน

15 ต.ค. 2552 กรมสอบสวนคดีพิเศษ จับกุมตัวนายณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหากระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยการส่งต่อคลิปข้อความหมิ่นเบื้องสูงให้กับชาวต่างชาติ โดยเผยแพร่ลงในเว็บบล็อก ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับนายสุวิชา ท่าค้อ ที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว

1 พ.ย. 2552 พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ปอท. จับกุม น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี ขณะเดินทางกลับจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในข้อหา “หมิ่นเบื้องสูง"หลังจากมีพฤติกรรม โพสต์ข้อความอัปมงคลจนทำให้หุ้นตกอย่างมหันต์ และต่อมาในวันเดียวกันก็สามารถจับกุมนายคธา ปาจริยพงษ์ อายุ 37 ปี ในข้อหาเดียวกันได้อีก

3 พ.ย. 2552 ตำรวจจับกุมนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวลือ จนทำให้ตลาดหุ้นร่วงกราวรูด โดยการโพสต์ข้อความอันไม่เป็นมงคลเข้าไปในเว็บไซด์แห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ณ วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บังอาจกระทำการให้สัมภาษณ์ด้วยถ้อยคำอัปมงคล ผ่าน"ไทมส์ ออนไลน์" อีก จึงถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราชาวไทยทุกคน จะต้องช่วยกันปกป้องสถาบันอันเป็นที่เทิดทูล และต้องช่วยกันกำจัดเหล่ากอ"สารเลว"เหล่านี้ ไม่ให้ดำรงอยู่อย่างไพบูลย์บนผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น