xs
xsm
sm
md
lg

ขัง 18 ปี “นังดา” โอหัง! อาฆาตเบื้องสูง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล อายุ 46 ปี หรือ ดา ตอร์ปิโด ศาลสั่งจำคุก 18 ปี หมิ่นฟ้า
จำคุก 18 ปี “ดา ตอร์ปิโด” โอหัง ปากเปราะ ศาลชี้มีเจตนาดูหมิ่น จาบจ้วงแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และ พระราชินี

คลิกที่จอภาพ เพื่อเข้าสู่หน้า วีดีโอย้อนหลัง





วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.3959/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด อายุ 51 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี

ตามฟ้องโจทก์ สรุประหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.2551 เวลากลางคืน จำเลยขึ้นปราศรัยบนเวทีเสียงประชาชน ณ ท้องสนามหลวง ด้วยการกระจายเสียงทางเครื่องขยายเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังจำนวนหลายคน ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยกล่าวคำพูดจาบจ้วง ล่วงเกิน เปรียบเทียบและเปรียบเปรย หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์ปัจจุบัน ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าทั้งสองพระองค์ทรงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อจะล้มล้างรัฐบาล และการรัฐประหาร

ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เหตุเกิดที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม 3 นาย เบิกความว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2551 เวลา 21.00 น.และ 24.00 น.จำเลยขึ้นเวทีปราศรัยที่ สนามหลวง โดยพยานทั้งสามเป็นสายสืบฟังการปราศรัย และพบว่า จำเลยกล่าวข้อความดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ก็ได้บันทึกเสียงลงในเครื่องบันทึก เอ็มพี3 และได้บันทึกลงในแผ่นซีดี แล้วนำมาถอดเทป และจำเลยยังขึ้นปราศรัยกล่าวดูหมิ่นอีกในวันที่ 7 และ 13 มิ.ย.2551 ซึ่งได้บันทึกเสียงไว้ แล้วก็ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีจำเลย โดยพยานโจทก์ เบิกความด้วยว่า แผ่นซีดีบันทึกเสียงที่เป็นหลักฐาน พบว่า เป็นเสียงคนๆ เดียวกัน จึงฟังได้ว่าตามวันเวลาดังกล่าวจำเลย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ขณะที่ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวบนเวที ก็พบว่า แม้จะไม่ระบุตัวบุคคลที่ถูกกล่าวถึงอย่างชัดแจ้ง แต่ถ้อยคำที่กล่าวถึง เช่น สัญลักษณ์สีเหลือง สีฟ้า ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นสีประจำวันประสูติของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทำให้เห็นว่าจำเลยกระทำการจาบจ้วงล่วงเกิน โดยทำให้ประชาชนเข้าใจว่าทั้งสองพระองค์สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ทั้งสองพระองค์ต้องเสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง

รวมทั้งการกล่าวถึงการรัฐประหาร โดยกล่าวถ้อยคำถึงมือที่มองไม่เห็นหลังสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งประชาชนรับรู้อยู่แล้วว่าสี่เสาเทเวศร์ คือ สถานที่ที่เป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยการแต่งตั้งองคมนตรี นั้น ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นอำนาจพระมหากษัตริย์ในการแต่งตั้ง ถ้อยคำของจำเลยจึงทำให้ประชาชนเข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สนับสนุน พล.อ.เปรม ในการยึดอำนาจจากประชาชน ซึ่งล้วนเป็นเท็จ

โดยแม้ว่าชั้นพิจารณาจำเลย จะเบิกความว่า จดจำถ้อยคำที่กล่าวปราศรัยไม่ได้ว่ามีประเด็นใดบ้าง และจดจำวัน-เวลาไม่ได้ แต่จำเลยก็ไม่ได้นำสืบโต้แย้งว่าไม่ได้กล่าวถ้อยคำที่โจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่งแม้ว่าคำพูดของจำเลยไม่บังเกิดผลเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่จำเลยก็ไม่อาจพ้นผิด พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ว่าจำเลยกล่าวคำพูดจาบจ้วง ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ บรมราชินีนาถ

พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งกระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกรรม ให้จำคุก 3 กระทงๆ 6 ปี รวมจำคุก 18 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว น.ส.ดารณี ซึ่งสวมชุดนักโทษหญิง และคาดหน้ากากอนามัยสีขาวได้ยกมือชู 2 นิ้ว ก่อนที่จะถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป ขณะที่วันนี้มีประชาชนกลุ่มสนับสนุน นปช.ประมาณ 30 คน และ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยยื่นขอประกันตัวจำเลยหลายครั้ง เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ในชั้นพิจารณา น.ส.ดารณี จำเลย เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญา ส่งเรื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจากการถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนพิจารณา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 29, 40 (2) และ 211 กรณีที่ศาลอ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 177 ร่วมกันมีคำสั่งให้พิจารณาคดีเป็นการลับห้ามประชาชนทั่วไปเข้าฟังการพิจารณา แต่ปรากฏว่า ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา นายประเวศ ประภานุกุล ทนายความจำเลย ยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง เพื่อให้วินิจฉัยกรณีดังกล่าวพร้อมนำสำเนาคำร้องดังกล่าวมายื่นต่อศาลก่อนฟังคำพิพากษาในวันนี้ แต่ปรากฏว่า องค์คณะผู้พิพากษาวินิจฉัยแล้วให้ยกคำร้องเช่นเดิมและได้อ่านคำพิพากษาดังกล่าว

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายประเวศ ทนายความจำเลย กล่าวยืนยันว่า จะยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป ส่วนจะยื่นขออภัยโทษหรือไม่นั้นจะต้องรอดูคดีจนถึงชั้นศาลฎีกาก่อน
นังดา ตอร์ปิโด วันไปขึ้นศาลคดีบุกเอเอสทีวีผู้จัดการ










กำลังโหลดความคิดเห็น