ผลจากคำพิพากษา น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล อายุ 51 ปี หรือ “ดา ตอร์ปิโด”แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 18 ปี เหตุเกิดระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.2551 กรณี “ดา ตอร์ปิโด” ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีเสียงประชาชน ณ ท้องสนามหลวง ได้ใช้คำพูดจาบจ้วง ล่วงเกิน เปรียบเทียบ และเปรียบเปรย หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายถึงองค์พระมหากษัตริย์และพระราชินี
หากย้อนกลับไปดูกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 พูดจาจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยังมีอีกหลายรายที่รอคำตัดสินรับโทษ ไม่ใช่มีแค่ “ดา ตอร์ปิโด” เพียงรายเดียว โดยแต่ละคนมีหมายจับติดตัว และบางคนก็หนีออกนอกประเทศไปแล้ว
เริ่มที่ 1.นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการกล่าวปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดยตามหมายจับ ระบุ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี
2.รศ.ใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ (เปลี่ยนชื่อใหม่) อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกออกหมายจับฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตาม ม.112 หลังเดินทางไปรับข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2552 รศ.ใจลล์ ใจ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ แล้วยังไม่เดินทางกลับ คาดหนีคดีตลอดชีวิต
3.นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยอมยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาเห็นสั่งฟ้อง ตามที่คณะกรรมการ บช.น.เสนอ
4.นายพิษณุ พรหมสร แกนนำคนเสื้อแดงรุ่น 2 ถูกออกหมายจับกระทำผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามหลวงเกิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เวลา 22.15 น.
5.นางบุญยืน ประเสริฐยิ่ง แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยก้าวหน้า เพื่อนสนิท “ดา ตอร์ปิโด” ถูกออกหมายจับมีความผิด ขึ้นปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2551 ซึ่งในการปราศรัยได้มีบางช่วงกล่าวพาดพิงถึงองค์รัชทายาท เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
6.นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยที่เวที นปช.ท้องสนามหลวง เมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค.2551 มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำร้องพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่า คดีมีเหตุควรให้เชื่อได้ว่า ผู้ต้องหากระทำผิด หรืออาจกระทำผิด ตามกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี จึงอนุญาตให้ออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว คาดจะหนีไปกบดานอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
7.นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกออกหมายจับ ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่ง นายชูชีพ ขึ้นปราศรัยบนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย.2551 มีถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 อย่างต่อเนื่องตลอดการปราศรัยนานกว่า 1 ชั่วโมง
นี่คือ!! ปลายแถว ลูกกระจ๊อก ของตัวพ่อกลุ่มบุคคลขบวนการโค่นล้มสถาบัน ที่กล้าพูดจาปากเปราะหมิ่นเหม่จาบจ้วงเบื้องสูง โดยในแต่ละคดียังอยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาล ซึ่งจะต้องรับโทษทัณฑ์ เดินตามรอย "ดา ตอร์ปิโด" เข้าคุกต่อไป
ขณะที่ ณ วันนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที), ตำรวจสันติบาล ได้เฝ้าเกาะติดตามไล่ปราบปรามขบวนการล้มล้างสถาบัน โดยล่าสุดพบเว็บที่กระทำผิดเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยแต่ละเดือน 1,000 URL ประมาณ 30 เว็บต่อเดือน ส่วนใหญ่จะเป็นคนกลุ่มเดิมที่เคยคิดชั่ว กระทำการอันมิบังควร และไอซีทีได้สั่งบล็อกเว็บ สั่งปิดเว็บ พร้อมดำเนินคดีไปแล้ว แต่กลุ่มบุคคลกลุ่มดังกล่าว ย้อนกลับมาเปิดหน้าเว็บละเลงป่วนสถาบันท้าทายอำนาจรัฐซ้ำซากใหม่อีกครั้ง โดยเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ หรือว่า ตัวการใหญ่ขบวนการล้มสถาบัน เป็นคนหนีโทษคุก ที่เร่ร่อนอยู่นอกประเทศ ตามที่ เจ้ากระทรวงตาชั่งเคยตั้งข้อสงสัยไว้ ครั้งเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ!!!
หากย้อนกลับไปดูกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 พูดจาจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยังมีอีกหลายรายที่รอคำตัดสินรับโทษ ไม่ใช่มีแค่ “ดา ตอร์ปิโด” เพียงรายเดียว โดยแต่ละคนมีหมายจับติดตัว และบางคนก็หนีออกนอกประเทศไปแล้ว
เริ่มที่ 1.นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการกล่าวปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดยตามหมายจับ ระบุ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี
2.รศ.ใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ (เปลี่ยนชื่อใหม่) อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกออกหมายจับฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตาม ม.112 หลังเดินทางไปรับข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2552 รศ.ใจลล์ ใจ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ แล้วยังไม่เดินทางกลับ คาดหนีคดีตลอดชีวิต
3.นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยอมยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาเห็นสั่งฟ้อง ตามที่คณะกรรมการ บช.น.เสนอ
4.นายพิษณุ พรหมสร แกนนำคนเสื้อแดงรุ่น 2 ถูกออกหมายจับกระทำผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามหลวงเกิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เวลา 22.15 น.
5.นางบุญยืน ประเสริฐยิ่ง แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยก้าวหน้า เพื่อนสนิท “ดา ตอร์ปิโด” ถูกออกหมายจับมีความผิด ขึ้นปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2551 ซึ่งในการปราศรัยได้มีบางช่วงกล่าวพาดพิงถึงองค์รัชทายาท เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
6.นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยที่เวที นปช.ท้องสนามหลวง เมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค.2551 มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำร้องพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่า คดีมีเหตุควรให้เชื่อได้ว่า ผู้ต้องหากระทำผิด หรืออาจกระทำผิด ตามกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี จึงอนุญาตให้ออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว คาดจะหนีไปกบดานอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
7.นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกออกหมายจับ ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่ง นายชูชีพ ขึ้นปราศรัยบนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย.2551 มีถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 อย่างต่อเนื่องตลอดการปราศรัยนานกว่า 1 ชั่วโมง
นี่คือ!! ปลายแถว ลูกกระจ๊อก ของตัวพ่อกลุ่มบุคคลขบวนการโค่นล้มสถาบัน ที่กล้าพูดจาปากเปราะหมิ่นเหม่จาบจ้วงเบื้องสูง โดยในแต่ละคดียังอยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาล ซึ่งจะต้องรับโทษทัณฑ์ เดินตามรอย "ดา ตอร์ปิโด" เข้าคุกต่อไป
ขณะที่ ณ วันนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที), ตำรวจสันติบาล ได้เฝ้าเกาะติดตามไล่ปราบปรามขบวนการล้มล้างสถาบัน โดยล่าสุดพบเว็บที่กระทำผิดเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยแต่ละเดือน 1,000 URL ประมาณ 30 เว็บต่อเดือน ส่วนใหญ่จะเป็นคนกลุ่มเดิมที่เคยคิดชั่ว กระทำการอันมิบังควร และไอซีทีได้สั่งบล็อกเว็บ สั่งปิดเว็บ พร้อมดำเนินคดีไปแล้ว แต่กลุ่มบุคคลกลุ่มดังกล่าว ย้อนกลับมาเปิดหน้าเว็บละเลงป่วนสถาบันท้าทายอำนาจรัฐซ้ำซากใหม่อีกครั้ง โดยเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ หรือว่า ตัวการใหญ่ขบวนการล้มสถาบัน เป็นคนหนีโทษคุก ที่เร่ร่อนอยู่นอกประเทศ ตามที่ เจ้ากระทรวงตาชั่งเคยตั้งข้อสงสัยไว้ ครั้งเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ!!!