โดย...ชำนาญ พิเชษฐพันธ์
chamnanktp@hotmail.com
เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ ผมนั่งกินข้าวกับเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยหลายคน เกือบจะทุกคนรับราชการใหญ่ๆ โตๆ มาแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะเกษียณอายุกันหมาดๆ แต่ก็ยังเหลือบางคนที่ยังรับราชการอยู่ อีกปีสองปีก็จะเกษียณอายุราชการกันหมดแล้ว
การกินข้าวด้วยกัน ไม่มีเรื่องอะไรคุยกันเป็นพิเศษ เป็นเรื่องของคนแก่ที่ไม่ค่อยจะมีอะไรทำ นัดกินข้าวกันนานๆ ครั้ง แต่เมื่อคืนนี้ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะคุยกันเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้คุยกันเรื่องการกระทำที่เป็นการเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยของนายฮุนเซนที่แต่งตั้งคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเขมรอย่างเป็นทางการ
คืนนั้น เรื่องที่คุยกันไม่มีเรื่องอื่นเลยแม้แต่เรื่องเดียว นั่งกินข้าวกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง มีแต่การระบายความไม่พอใจของเพื่อนๆ ตั้งแต่เริ่มจนจบแยกย้ายกันกลับบ้าน
ภาษาที่ใช้ในการพูดคุยกันก็เป็นภาษาที่พวกเราไม่เคยใช้กันในการกินข้าวด้วยกันครั้งก่อนๆ เช่น “ไอ้เหี้ย” “ไอ้สัตว์” “ไอ้สัตว์นรก” “ไอ้เวร” ฯลฯ แต่คำไหนจะใช้มากกว่ากัน ผมไม่ได้นับ
หลังจากที่ระบายอารมณ์กันพอสมควรแล้ว ผมคิดว่าพอที่จะเปลี่ยนทิศทางของการพูดคุยกันได้ ผมก็เลยบอกว่า ความจริงแล้วจะมองเรื่องนี้ไปในทางที่ดีก็พอจะได้ ผมเห็นว่าเรื่องนี้อาจมองไปในทางที่ดีได้ อย่างน้อยเท่าที่ผมพอจะนึกได้ ก็มี 3 อย่าง
อย่างแรก-ผมว่าเราเห็น “สันดาน” ของฮุนเซนอย่างชัดเจน ฮุนเซนเป็นคนคบไม่ได้ เมื่อมาประชุมที่ประเทศไทยไม่นานมานี้ ก็ให้สัมภาษณ์เป็นการใหญ่โต เหยียบย้ำน้ำใจคนไทยและระบบยุติธรรมของเราถึงในบ้านเรา ต่อหน้าเจ้าของบ้าน การกระทำแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน แต่นี่ฮุนเซนทำ ทำแบบไม่คำนึงถึงน้ำใจกัน ทำถึงขนาดนี้ รัฐบาลไทยไม่ตอบโต้ให้เห็นว่า เราก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรี แต่เป็นเหมือนเด็กที่ไม่มีเรี่ยวแรงหรือกำลังอะไรที่จะไปตอบโต้เขา เขาก็เลยได้ใจ กลับไปบ้านเขาเองได้ไม่นาน เขาก็เหยียบย้ำเราอีก
การกระทำของฮุนเซน ถ้าเราไม่ใช่เป็นคนตาบอด เราก็ต้องมองเห็นแล้วว่า ฮุนเซนเป็นคนอย่างไร เขาเป็นมิตรกับเราหรือไม่ ถ้าคนไทยและรัฐบาลไทยยังคบกับเขาอีกต่อไป ก็น่าจะพูดได้ว่าเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกแล้ว เพราะฉะนั้น การกระทำของฮุนเซนครั้งนี้ ผมถึงบอกว่ามองไปในแง่ดีอย่างหนึ่ง คือมองว่าเราเลิกคบกับเขาได้แล้ว ไม่ต้องไปให้ความช่วยเหลืออะไรกับเขาอีก แล้วก็ต้องตอบโต้เขาอย่างสาสม ตอบโต้ให้เขาเห็นว่าเราไม่ใช่เด็กน้อยที่เขาจะทำอะไรกับเราก็ได้ การตอบโต้ต้องตอบโต้อย่างสาสม และให้ได้ผลอย่างเด็ดขาดที่เขาจะไม่ทำกับเราเหมือนเด็กอมมืออีก
อย่างที่สอง-ที่ฮุนเซนแต่งตั้งทักษิณครั้งนี้ ถ้าทักษิณไม่เล่นด้วย ก็แต่งตั้งไม่ได้ การที่ทักษิณไปเล่นด้วยกับเขา ไปยอมรับการแต่งตั้งของเขา ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ทักษิณต้องการเล่นงานรัฐบาลไทย กระบวนการยุติธรรมของไทย และประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้งและอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ความรู้สึกโกรธแค้นของคนไทยจำนวนไม่น้อย ไม่ใช่เพียงโกรธแค้นฮุนเซนเพียงคนเดียว แต่โกรธแค้นไปถึงผู้สมรู้ร่วมคิดกับฮุนเซน คือ ทักษิณด้วย
ความรู้สึกแบบนี้จะทำให้ความพยายามของทักษิณที่จะกลับมาประเทศไทยอย่างอิสระ และกุมบังเหียนการเมืองการปกครองอีกครั้ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าทักษิณจะทุ่มเงินมากน้อยแค่ไหน จะทุ่มถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัว ก็จะไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุด การกระทำของฮุนเซนกับทักษิณครั้งนี้ เป็นการกระพือพัดไฟแห่งความโกรธแค้นของคนเสื้อเหลืองให้รุนแรงและร้อนเร่ามากยิ่งขึ้น พลังของคนเสื้อเหลืองจะแข็งขันและรุนแรงมากขึ้น ฝันของทักษิณจะเป็นฝันลมๆ แร้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้
อย่างที่สาม-เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ว่า คุณอภิสิทธิ์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ ไม่มีความสามารถในการจัดการอย่างเหมาะสมกับฮุนเซน หรือแม้แต่ในกรณีอื่นๆ ไม่มีความสามารถในการบริหารกิจการของบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จได้อีกต่อไป ฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจของคนไทยไม่ใช่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก รัฐบาลไทยไม่ตอบโต้อย่างเหมาะสม มีแต่ทำอะไรแบบนุ่มนิ่ม ทำเหมือนเป็นเด็กที่ไม่มีน้ำยา
แม้ว่าเราจะเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่า การกระทำที่แสดงให้เห็นว่าเป็นเด็กไม่มีน้ำยาของรัฐบาลไทยนี่แหละ ที่ทำให้ฮุนเซนฮึกเหิม เหยียบย้ำน้ำใจคนไทยครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเข้ามาตบหน้าคนไทยและรัฐบาลไทยถึงในบ้านเราเมื่อคราวที่เขามาประชุมในบ้านเรา เราก็แสดงการเป็นคนไม่มีน้ำยาให้เขาเห็นอีก ในที่สุดเขาก็เหยียบเราอีก เหยียบเราโดยแต่งตั้งให้ทักษิณเป็นที่ปรึกษา หากเราตอบโต้ฮุนเซนอย่างเหมาะสมมาแต่แรก เหตุการณ์ครั้งหลังนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เราก็อาจไม่ต้องเรียกทูตเรากลับบ้านเพื่อเป็นการประท้วง พ่อค้าแม่ขายก็คงไม่ต้องเดือดร้อน ถึงขนาดเรียกทูตกลับบ้านเพื่อเป็นการประท้วงแล้ว รัฐบาลไทยยังมีน้ำหน้าออกมาพูดแสดงให้เห็นความเป็นเด็กไม่มีน้ำยาอีก บอกอย่างเด็กๆ ไปทำไมว่า ทำแบบฝืนใจทำ และไม่เป็นการกระทบกระเทือนระหว่างคนในประเทศทั้งสอง พูดแบบนี้ก็เปิดช่องให้ฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยต่อไป แล้วเขาก็ไม่แคร์การที่รัฐบาลไทยเรียกทูตกลับบ้าน เพราะเขาก็เรียกทูตเขากลับบ้านเป็นการตอบโต้เหมือนกัน
ในที่สุด ผมก็บอกว่า เมื่อมองเรื่องนี้อย่างที่เล่ามาแล้ว เราก็มาดูบทบาทของเราเอง ตามกำลังและความสามารถ พวกเราไม่มีกำลัง ไม่มีอำนาจ ก็สามารถทำได้ในขอบเขตอันจำกัด เช่น หยุดการสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้แล้ว ซึ่งคุณอภิสิทธิ์ ก็น่าจะรู้ตัวว่า ตนเองไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปเหมือนกัน เพราะเสียงจากการสำรวจประชามติก็เห็นแล้วว่าความนิยมในตัวคุณอภิสิทธิ์ลดลงเรื่อยๆ ตลอดเวลา
สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ได้ทำไป ไม่เห็นมีอะไรที่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ความล้มเหลว ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ การที่คุณอภิสิทธิ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็มีแต่จะทำให้ประเทศของเราได้รับความเสียหายมากขึ้น เมื่อหยุดการสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ก็สนับสนุนคนอื่นที่ไม่ใช่พรรคพวกของทักษิณให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน แต่ต้องเป็นคนที่มีความสามารถบริหารจัดการประเทศได้ดี และไม่เป็นคนทุจริต ไม่ว่าจะทุจริตมากน้อยแค่ไหน
สิ่งสำคัญก็ต้องเลิกคบค้าสมาคมกับฮุนเซนและคนเขมร ต้องช่วยกันทำให้เขมรรู้สึกว่าฮุนเซนเป็นคนไม่ดี ไม่น่าคบ ทำให้เขมรได้รับความเสียหาย เขาต้องช่วยกันขจัดฮุนเซนให้ออกไปจากอำนาจและตำแหน่งที่ครองอยู่ในปัจจุบัน แล้วก็ต้องจดจำการกระทำของฮุนเซนไว้อย่างไม่รู้ลืม อย่าได้ให้โอกาสฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยอีกต่อไปแม้แต่ครั้งเดียว ถ้ามีคนใช้หรือลูกจ้างก็บอกให้เขากลับบ้านไป บอกด้วยว่าที่เลิกจ้างเขาไม่ใช่เพราะโกรธเคืองเขาเป็นการส่วนตัว แต่เขาต้องกลับไปบอกญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงก่อนว่า ฮุนเซนต้องหยุดเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยก่อน แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่
คนที่สมรู้ร่วมคิดกับฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยและเหยียบย้ำระบบยุติธรรมของไทย อย่างทักษิณก็สมควรได้รับการต่อต้านอย่างเข้มแข็งและรุนแรง ต่อเนื่องและโดยตลอด ต้องไม่ให้กลับมาประเทศไทยอย่างลอยนวล เมื่อกลับมาประเทศไทยต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาล และต้องไม่ให้ได้โอกาสกลับเข้ามาบริหารบ้านเมืองอีกต่อไป
หากพรรคพวกของทักษิณได้โอกาสบริหารบ้านเมือง เขาก็ต้องสนับสนุนและส่งเสริมทักษิณ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ก็ไม่สมควรได้โอกาสเข้ามาบริหารบ้านเมืองเช่นเดียวกัน
เจ็บแล้วต้องจำ อย่าเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก
chamnanktp@hotmail.com
เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ ผมนั่งกินข้าวกับเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยหลายคน เกือบจะทุกคนรับราชการใหญ่ๆ โตๆ มาแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะเกษียณอายุกันหมาดๆ แต่ก็ยังเหลือบางคนที่ยังรับราชการอยู่ อีกปีสองปีก็จะเกษียณอายุราชการกันหมดแล้ว
การกินข้าวด้วยกัน ไม่มีเรื่องอะไรคุยกันเป็นพิเศษ เป็นเรื่องของคนแก่ที่ไม่ค่อยจะมีอะไรทำ นัดกินข้าวกันนานๆ ครั้ง แต่เมื่อคืนนี้ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะคุยกันเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้คุยกันเรื่องการกระทำที่เป็นการเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยของนายฮุนเซนที่แต่งตั้งคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเขมรอย่างเป็นทางการ
คืนนั้น เรื่องที่คุยกันไม่มีเรื่องอื่นเลยแม้แต่เรื่องเดียว นั่งกินข้าวกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง มีแต่การระบายความไม่พอใจของเพื่อนๆ ตั้งแต่เริ่มจนจบแยกย้ายกันกลับบ้าน
ภาษาที่ใช้ในการพูดคุยกันก็เป็นภาษาที่พวกเราไม่เคยใช้กันในการกินข้าวด้วยกันครั้งก่อนๆ เช่น “ไอ้เหี้ย” “ไอ้สัตว์” “ไอ้สัตว์นรก” “ไอ้เวร” ฯลฯ แต่คำไหนจะใช้มากกว่ากัน ผมไม่ได้นับ
หลังจากที่ระบายอารมณ์กันพอสมควรแล้ว ผมคิดว่าพอที่จะเปลี่ยนทิศทางของการพูดคุยกันได้ ผมก็เลยบอกว่า ความจริงแล้วจะมองเรื่องนี้ไปในทางที่ดีก็พอจะได้ ผมเห็นว่าเรื่องนี้อาจมองไปในทางที่ดีได้ อย่างน้อยเท่าที่ผมพอจะนึกได้ ก็มี 3 อย่าง
อย่างแรก-ผมว่าเราเห็น “สันดาน” ของฮุนเซนอย่างชัดเจน ฮุนเซนเป็นคนคบไม่ได้ เมื่อมาประชุมที่ประเทศไทยไม่นานมานี้ ก็ให้สัมภาษณ์เป็นการใหญ่โต เหยียบย้ำน้ำใจคนไทยและระบบยุติธรรมของเราถึงในบ้านเรา ต่อหน้าเจ้าของบ้าน การกระทำแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน แต่นี่ฮุนเซนทำ ทำแบบไม่คำนึงถึงน้ำใจกัน ทำถึงขนาดนี้ รัฐบาลไทยไม่ตอบโต้ให้เห็นว่า เราก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรี แต่เป็นเหมือนเด็กที่ไม่มีเรี่ยวแรงหรือกำลังอะไรที่จะไปตอบโต้เขา เขาก็เลยได้ใจ กลับไปบ้านเขาเองได้ไม่นาน เขาก็เหยียบย้ำเราอีก
การกระทำของฮุนเซน ถ้าเราไม่ใช่เป็นคนตาบอด เราก็ต้องมองเห็นแล้วว่า ฮุนเซนเป็นคนอย่างไร เขาเป็นมิตรกับเราหรือไม่ ถ้าคนไทยและรัฐบาลไทยยังคบกับเขาอีกต่อไป ก็น่าจะพูดได้ว่าเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกแล้ว เพราะฉะนั้น การกระทำของฮุนเซนครั้งนี้ ผมถึงบอกว่ามองไปในแง่ดีอย่างหนึ่ง คือมองว่าเราเลิกคบกับเขาได้แล้ว ไม่ต้องไปให้ความช่วยเหลืออะไรกับเขาอีก แล้วก็ต้องตอบโต้เขาอย่างสาสม ตอบโต้ให้เขาเห็นว่าเราไม่ใช่เด็กน้อยที่เขาจะทำอะไรกับเราก็ได้ การตอบโต้ต้องตอบโต้อย่างสาสม และให้ได้ผลอย่างเด็ดขาดที่เขาจะไม่ทำกับเราเหมือนเด็กอมมืออีก
อย่างที่สอง-ที่ฮุนเซนแต่งตั้งทักษิณครั้งนี้ ถ้าทักษิณไม่เล่นด้วย ก็แต่งตั้งไม่ได้ การที่ทักษิณไปเล่นด้วยกับเขา ไปยอมรับการแต่งตั้งของเขา ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ทักษิณต้องการเล่นงานรัฐบาลไทย กระบวนการยุติธรรมของไทย และประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้งและอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ความรู้สึกโกรธแค้นของคนไทยจำนวนไม่น้อย ไม่ใช่เพียงโกรธแค้นฮุนเซนเพียงคนเดียว แต่โกรธแค้นไปถึงผู้สมรู้ร่วมคิดกับฮุนเซน คือ ทักษิณด้วย
ความรู้สึกแบบนี้จะทำให้ความพยายามของทักษิณที่จะกลับมาประเทศไทยอย่างอิสระ และกุมบังเหียนการเมืองการปกครองอีกครั้ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าทักษิณจะทุ่มเงินมากน้อยแค่ไหน จะทุ่มถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัว ก็จะไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุด การกระทำของฮุนเซนกับทักษิณครั้งนี้ เป็นการกระพือพัดไฟแห่งความโกรธแค้นของคนเสื้อเหลืองให้รุนแรงและร้อนเร่ามากยิ่งขึ้น พลังของคนเสื้อเหลืองจะแข็งขันและรุนแรงมากขึ้น ฝันของทักษิณจะเป็นฝันลมๆ แร้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้
อย่างที่สาม-เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ว่า คุณอภิสิทธิ์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ ไม่มีความสามารถในการจัดการอย่างเหมาะสมกับฮุนเซน หรือแม้แต่ในกรณีอื่นๆ ไม่มีความสามารถในการบริหารกิจการของบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จได้อีกต่อไป ฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจของคนไทยไม่ใช่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก รัฐบาลไทยไม่ตอบโต้อย่างเหมาะสม มีแต่ทำอะไรแบบนุ่มนิ่ม ทำเหมือนเป็นเด็กที่ไม่มีน้ำยา
แม้ว่าเราจะเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่า การกระทำที่แสดงให้เห็นว่าเป็นเด็กไม่มีน้ำยาของรัฐบาลไทยนี่แหละ ที่ทำให้ฮุนเซนฮึกเหิม เหยียบย้ำน้ำใจคนไทยครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเข้ามาตบหน้าคนไทยและรัฐบาลไทยถึงในบ้านเราเมื่อคราวที่เขามาประชุมในบ้านเรา เราก็แสดงการเป็นคนไม่มีน้ำยาให้เขาเห็นอีก ในที่สุดเขาก็เหยียบเราอีก เหยียบเราโดยแต่งตั้งให้ทักษิณเป็นที่ปรึกษา หากเราตอบโต้ฮุนเซนอย่างเหมาะสมมาแต่แรก เหตุการณ์ครั้งหลังนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เราก็อาจไม่ต้องเรียกทูตเรากลับบ้านเพื่อเป็นการประท้วง พ่อค้าแม่ขายก็คงไม่ต้องเดือดร้อน ถึงขนาดเรียกทูตกลับบ้านเพื่อเป็นการประท้วงแล้ว รัฐบาลไทยยังมีน้ำหน้าออกมาพูดแสดงให้เห็นความเป็นเด็กไม่มีน้ำยาอีก บอกอย่างเด็กๆ ไปทำไมว่า ทำแบบฝืนใจทำ และไม่เป็นการกระทบกระเทือนระหว่างคนในประเทศทั้งสอง พูดแบบนี้ก็เปิดช่องให้ฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยต่อไป แล้วเขาก็ไม่แคร์การที่รัฐบาลไทยเรียกทูตกลับบ้าน เพราะเขาก็เรียกทูตเขากลับบ้านเป็นการตอบโต้เหมือนกัน
ในที่สุด ผมก็บอกว่า เมื่อมองเรื่องนี้อย่างที่เล่ามาแล้ว เราก็มาดูบทบาทของเราเอง ตามกำลังและความสามารถ พวกเราไม่มีกำลัง ไม่มีอำนาจ ก็สามารถทำได้ในขอบเขตอันจำกัด เช่น หยุดการสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้แล้ว ซึ่งคุณอภิสิทธิ์ ก็น่าจะรู้ตัวว่า ตนเองไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปเหมือนกัน เพราะเสียงจากการสำรวจประชามติก็เห็นแล้วว่าความนิยมในตัวคุณอภิสิทธิ์ลดลงเรื่อยๆ ตลอดเวลา
สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ได้ทำไป ไม่เห็นมีอะไรที่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ความล้มเหลว ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ การที่คุณอภิสิทธิ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็มีแต่จะทำให้ประเทศของเราได้รับความเสียหายมากขึ้น เมื่อหยุดการสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ก็สนับสนุนคนอื่นที่ไม่ใช่พรรคพวกของทักษิณให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน แต่ต้องเป็นคนที่มีความสามารถบริหารจัดการประเทศได้ดี และไม่เป็นคนทุจริต ไม่ว่าจะทุจริตมากน้อยแค่ไหน
สิ่งสำคัญก็ต้องเลิกคบค้าสมาคมกับฮุนเซนและคนเขมร ต้องช่วยกันทำให้เขมรรู้สึกว่าฮุนเซนเป็นคนไม่ดี ไม่น่าคบ ทำให้เขมรได้รับความเสียหาย เขาต้องช่วยกันขจัดฮุนเซนให้ออกไปจากอำนาจและตำแหน่งที่ครองอยู่ในปัจจุบัน แล้วก็ต้องจดจำการกระทำของฮุนเซนไว้อย่างไม่รู้ลืม อย่าได้ให้โอกาสฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยอีกต่อไปแม้แต่ครั้งเดียว ถ้ามีคนใช้หรือลูกจ้างก็บอกให้เขากลับบ้านไป บอกด้วยว่าที่เลิกจ้างเขาไม่ใช่เพราะโกรธเคืองเขาเป็นการส่วนตัว แต่เขาต้องกลับไปบอกญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงก่อนว่า ฮุนเซนต้องหยุดเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยก่อน แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่
คนที่สมรู้ร่วมคิดกับฮุนเซนเหยียบย้ำน้ำใจคนไทยและเหยียบย้ำระบบยุติธรรมของไทย อย่างทักษิณก็สมควรได้รับการต่อต้านอย่างเข้มแข็งและรุนแรง ต่อเนื่องและโดยตลอด ต้องไม่ให้กลับมาประเทศไทยอย่างลอยนวล เมื่อกลับมาประเทศไทยต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาล และต้องไม่ให้ได้โอกาสกลับเข้ามาบริหารบ้านเมืองอีกต่อไป
หากพรรคพวกของทักษิณได้โอกาสบริหารบ้านเมือง เขาก็ต้องสนับสนุนและส่งเสริมทักษิณ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ก็ไม่สมควรได้โอกาสเข้ามาบริหารบ้านเมืองเช่นเดียวกัน
เจ็บแล้วต้องจำ อย่าเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก