ตรัง – คืบหน้าคดีครูสาวแม่เลี้ยงทำร้าย “น้องวีนัส” วัย 10 ขวบ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องของทรัพย์สมบัติหรือมรดก ด้านญาติยันไม่ปักใจเชื่อสาเหตุอุบัติเหตุ จี้เอาผิดผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
จากกรณีที่ เด็กหญิงชฎามาส สินศิริ หรือน้องวีนัส อายุ 10 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2551 โดยแพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง ระบุว่าเกิดจากการถูกฆาตกรรม ภายหลังจากส่งศพผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และผลการผ่าพิสูจน์ปรากฏว่าน้องวีนัสได้เสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในช่องท้องและเสียเลือดมาก เพราะลำไส้ใหญ่ช่วงใกล้กับไส้ติ่งฉีกขาด และตับอ่อนแตกนั้น
ต่อมานายบุญเนื่อง สินศิริ อายุ 43 ปี ผู้เป็นอาของน้องวีนัส ได้ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่าจะมีการเก็บศพน้องวีนัส โดยจะไม่มีการฌาปนกิจศพตามหลักศาสนาจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุดและเป็นที่พอใจของญาติๆ แม้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการจับกุมตัว นางโสภาวดี สินศิริ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/35 ถ.วังตอ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของน้องวีนัส และมีอาชีพเป็นครูพิเศษโรงเรียนพรศิริกุลปฐมวัย โรงเรียนเอกชนชื่อดังของ จ.ตรัง มาดำเนินคดีแล้วก็ตาม
วันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า หลังจากมีการจับกุมตัวนางโสภาวดี แม่เลี้ยงของน้องวีนัส ตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมาแล้วนั้น เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าน้องวีนัส แต่ให้การยอมรับว่าได้เคยทำร้ายร่างกายน้องวีนัสลูกเลี้ยงจริง ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งในเรื่องของความไม่พอใจระหว่างแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง
นอกจากนั้น จากการสืบสวนสอบสวนคาดว่ายังน่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องของทรัพย์สมบัติหรือมรดกของนายนิคม สินศิริ ซึ่งเป็นพ่อของน้องวีนัสที่นางโสภาวดี ผู้ต้องหาได้มีการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จึงมีสิทธิในทรัพย์สินทั้งหมดของนายนิคม หากไม่มีน้องวีนัสมาเป็นส่วนแบ่งอีกคนหนึ่ง และน่าจะลงมือทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงเพื่อเป็นการระบายอารมณ์จนถึงแก่ความตายในที่สุด
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ในช่วงที่นางโสภาวดีผู้ต้องหาได้อยู่กินกับนายนิคมตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการขอให้นายนิคมขายทรัพย์สินที่มีอยู่บางส่วนเพื่อนำมาชำระหนี้สินที่นางโสภาวดีอ้างว่าเกิดจากการถูกโกงแชร์ และจากปัญหาต่างๆ ส่วนของการทำร้ายร่างกายน้องวีนัสนั้น นายนิคมยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ค่อยอยู่บ้าน โดยจะปล่อยให้น้องวีนัสอยู่กับแม่เลี้ยงตามลำพังตลอดมา จนเกิดเหตุอันน่าสลดใจขึ้นดังกล่าว
นายบุญเนื่อง สินศิริ อายุ 43 ปี ผู้เป็นอาของน้องวีนัส กล่าวว่า จากการฟังผลการชันสูตรพลิกศพน้องวีนัส หลานสาว และผลจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าไม่ได้เป็นการเสียชีวิตจากในที่เกิดเหตุ เนื่องจากหากเหตุการณ์เกิดขึ้นในที่เกิดเหตุจริง น้องวีนัส จะต้องมีบาดแผลที่ศีรษะ หรือมีอาการเลือดออกในช่องท้อง แต่คงจะเกิดจากการกระแทกอย่างแรง จนเป็นเหตุให้กระดูกซี่โครงแตกหรือหัก แล้วไปทิ่มแทงอวัยวะภายใน ซึ่งสภาพศพของน้องวีนัสก็ไม่มีส่วนใดแตกหักอย่างใด
ทั้งนี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่าการเสียชีวิตของน้องวีนัสเกิดจากบาดแผล ที่เกิดขึ้นมาก่อนที่เสียจะชีวิตเป็นเวลา 2-3 วัน โดยที่ตนและญาติๆ ทุกคนต้องการทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดได้อย่างไร เมื่อไหร่ และใครเป็นคนทำ อีกทั้งจากการตรวจสอบบาดแผลที่ทำให้น้องวีนัสมีอาการช้ำในจนตายนั้น น่าจะมีการใช้อาวุธเข้ามาร่วมลงมือด้วย แม้นางโสภวดีแม่เลี้ยงยังคงให้การภาคปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าน้องวีนัส แต่ตนและญาติๆ ทุกคนต้องการทราบว่าใครเป็นคนฆ่าน้องวีนัส และนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้