สรรพากรติวเข้มภาษี สร้างความรู้อาชีพอิสระหมอ ดารานักแสดง ยกเลิกคณะบุคคล จาก 3 หมื่นเหลือ 2 หมื่นราย!! ยอดจัดเก็บเพิ่ม 1 พันล้าน เตรียมลงพื้นที่ย่านขายส่งเสื้อผ้าดัง ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ จตุจักร ดึงผู้ค้าเข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้องอุดรูรั่วภาษี
นายประสงค์ พูนธเนศ รองอธิบดีและโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการเร่งรัดดำเนินการสร้างความชอบธรรมด้านการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะจากการจัดตั้งคณะบุคคลที่เดิมเคยมีถึง 3 หมื่นคณะ ขณะนี้เหลือ 2 หมื่นคณะ โดยเป็นการแจ้งยกเลิกเองทั้งจากกลุ่มแพทย์ ดารานักแสดงและกลุ่มผู้มีบัญชีเงินฝาก ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะบุคคลมากขึ้น ที่ผ่านมาเข้าใจผิดเพราะมีรุ่นพี่ในวงการหรือที่ปรึกษาภาษีแนะนำให้จัดตั้งคณะบุคคลเพื่อลดรายจ่ายภาษี แต่ปัจจุบันเมื่อกรมสรรพากรเอาจริงทั้งให้ความรู้ต่อบุคคลกลุ่มนี้โดยตรงและการยกเลิกการแจ้งจดผ่านระบบอินเทอร์เนตแต่ให้มาแจ้งจดในสรรพากรพื้นที่หรือสรรพากรเขตแทน โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยซักถามความจำเป็นและเจตนาที่จะจัดตั้งอย่างละเอียดชัดเจน
"ขณะนี้รายชื่อคณะบุคคลลดจำนวนลงเรื่อยๆ จาก 3 หมื่นเหลือ 2 หมื่น และจะทยอยปรับลดลงเรื่อยๆ ทั้งที่มายกเลิกด้วยตัวเองและหายไปไม่ติดต่อกลับ ซึ่งจากการสำรวจพบกลุ่ม 8 คนจดจัดตั้งคณะบุคคลไขว้ไปมาถึง 444 รายก็ยกเลิกไปในคราวเดียวกันนี้ ขณะที่ดารา-นักแสดงก็เข้าใจและจดแจ้งเสียภาษีเป็นบุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้หากสรรพากรไม่เข้มงวดกับเรื่องนี้คาดไม่นานจะมีคณะบุคคลเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนรายได้" นายประสงค์กล่าว
จากการลดจำนวนของคณะบุคคลลงมีผลให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาท พร้อมไปกับการลดการขอคืนภาษีในภายหลังซึ่งพบมากในส่วนของผู้ที่มีบัญชีเงินฝากแล้วจดจัดตั้งคณะบุคคล ทั้งที่ตามกฎหมายระบุชัดหากจัดตั้งคณะบุคคลห้ามนำกำไรมาแบ่งกัน เพราะถ้าแบ่งกำไรหากเป็นบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปต้องจดจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน
สำหรับการปิดรูรั่วของเม็ดเงินภาษีอื่นๆ กรมสรรพากรได้เร่งติดตามรายได้จากธุรกิจใต้ดินและธุรกิจค้าเงินสดมากขึ้น ซึ่งธุรกิจค้าเงินสดดังกล่าวนี้ส่วนมากคือการค้าขายเสื้อผ้าในแหล่งจตุจักร ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ พาหุรัด โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจ ติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อนำกลุ่มคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบการชำระภาษีอย่างเป็นทางการ.
นายประสงค์ พูนธเนศ รองอธิบดีและโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการเร่งรัดดำเนินการสร้างความชอบธรรมด้านการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะจากการจัดตั้งคณะบุคคลที่เดิมเคยมีถึง 3 หมื่นคณะ ขณะนี้เหลือ 2 หมื่นคณะ โดยเป็นการแจ้งยกเลิกเองทั้งจากกลุ่มแพทย์ ดารานักแสดงและกลุ่มผู้มีบัญชีเงินฝาก ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะบุคคลมากขึ้น ที่ผ่านมาเข้าใจผิดเพราะมีรุ่นพี่ในวงการหรือที่ปรึกษาภาษีแนะนำให้จัดตั้งคณะบุคคลเพื่อลดรายจ่ายภาษี แต่ปัจจุบันเมื่อกรมสรรพากรเอาจริงทั้งให้ความรู้ต่อบุคคลกลุ่มนี้โดยตรงและการยกเลิกการแจ้งจดผ่านระบบอินเทอร์เนตแต่ให้มาแจ้งจดในสรรพากรพื้นที่หรือสรรพากรเขตแทน โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยซักถามความจำเป็นและเจตนาที่จะจัดตั้งอย่างละเอียดชัดเจน
"ขณะนี้รายชื่อคณะบุคคลลดจำนวนลงเรื่อยๆ จาก 3 หมื่นเหลือ 2 หมื่น และจะทยอยปรับลดลงเรื่อยๆ ทั้งที่มายกเลิกด้วยตัวเองและหายไปไม่ติดต่อกลับ ซึ่งจากการสำรวจพบกลุ่ม 8 คนจดจัดตั้งคณะบุคคลไขว้ไปมาถึง 444 รายก็ยกเลิกไปในคราวเดียวกันนี้ ขณะที่ดารา-นักแสดงก็เข้าใจและจดแจ้งเสียภาษีเป็นบุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้หากสรรพากรไม่เข้มงวดกับเรื่องนี้คาดไม่นานจะมีคณะบุคคลเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนรายได้" นายประสงค์กล่าว
จากการลดจำนวนของคณะบุคคลลงมีผลให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาท พร้อมไปกับการลดการขอคืนภาษีในภายหลังซึ่งพบมากในส่วนของผู้ที่มีบัญชีเงินฝากแล้วจดจัดตั้งคณะบุคคล ทั้งที่ตามกฎหมายระบุชัดหากจัดตั้งคณะบุคคลห้ามนำกำไรมาแบ่งกัน เพราะถ้าแบ่งกำไรหากเป็นบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปต้องจดจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน
สำหรับการปิดรูรั่วของเม็ดเงินภาษีอื่นๆ กรมสรรพากรได้เร่งติดตามรายได้จากธุรกิจใต้ดินและธุรกิจค้าเงินสดมากขึ้น ซึ่งธุรกิจค้าเงินสดดังกล่าวนี้ส่วนมากคือการค้าขายเสื้อผ้าในแหล่งจตุจักร ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ พาหุรัด โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจ ติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อนำกลุ่มคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบการชำระภาษีอย่างเป็นทางการ.
