เชียงราย-มูลค่าการค้าชายแดนไทย-พม่าผ่านด่านแม่สายครองแชมป์กว่าทุกด่านของเชียงราย สิ้นสุดปีงบประมาณ 52 มีรายได้จากการส่งออกเฉพาะที่ด่านแม่สายกว่า 4 พันล้านบาท ระบุหากเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อกันหมดคาดว่าปี 53 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10 % เผยตัวเลขที่พุ่งขึ้นไปมากเป็นเพราะรัฐฉานมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย เปิดเผยว่าในปีงบประมาณ 2552 ตั้งแต่เดือนตุลาคม2551-กันยายน2552 พบว่าการค้าชายแดนไทย-พม่า ผ่าน อ.แม่สาย มีมูลค่าการส่งออกรวมกว่า 4,259.07 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นกว่าปีงบประมาณ 2551 ที่ผ่านมากว่า 16.91% และนำเข้า 359.02 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการนำเข้าและการส่งออกแล้วอยู่ในอัตราส่วนการส่งออก 91% และการนำเข้าแค่ 8% แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้เปรียบดุลการค้าจากด่านศุลกากรแม่สายเป็นมูลค่ามหาศาล
ส่วนด้านการปราบปรามพบว่าสามารถดำเนินคดีกับสินค้าผิดกฎหมายต่างๆ เช่น สินค้าหนีภาษี ยาเสพติด ฯลฯ ได้กว่า 306 แฟ้ม เป็นมูลค่าสินค้าผิดกฎหมายรวมกันกว่า 49.5 ล้านบาท
นายชูชัย กล่าวว่า จากมูลค่าการค้ารวมทั้งหมดพบว่า ด่านศุลกากรแม่สายมีมูลค่าสูงที่สุดในบรรดาด่านศุลกากรทั้ง 3 แห่งของ จ.เชียงราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าศักยภาพในการนำเข้าและส่งออกของด่านชายแดนไทย-พม่า ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากและมีแนวโน้มในการเติบโตในอนาคตหากวามีการเปิดใช้ถนน R3b ไทย-พม่า-จีนตอนใต้ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น ดังนั้นจึงตั้งเป้าว่าในปีงบประมาณ 2553 การค้าชายแดนด้านนี้จะมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 10%
ด้านนายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่าสาเหตุที่การค้าชายดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ยังคงมีมูลค่าสูงแม้ว่าจะมีวิกฤตจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองทั้งจากภายในประเทศและทั่วทั้งโลก ก็เนื่องจากพื้นที่รัฐฉานของพม่าด้านนี้มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับประเทศไทยอย่างมาก และมีความต้องการบริโภคสินค้าจากประเทศไทยสูงรวมทั้งเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันจึงต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ
สำหรับ สินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทยจะถูกส่งไปตามถนนสายท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง และกระจายไปยังตลาดต่างๆ ในพม่าต่อไปกระนั้นหากในอนาคตมีการพัฒนาถนนแยกออกจากถนนสายดังกล่าวไปทางเมืองตองยี-มัณฑะเลย์ ฯลฯ หรือเข้าสู่ภาคกลางได้ก็จะทำให้มูลค่าการค้ามีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลด้วย
รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งผลการค้าชายแดนระหว่าง จ.เชียงราย กับประเทศเพื่อนบ้านคือพม่าและ สปป.ลาว รวมทั้งมณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ พบว่าตั้งแต่เดือน มกราคม-กันยายน มีมูลค่าการค้ารวม 9,699.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.42% โดยแยกเป็นการส่งออก 8,031.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.80% และนำเข้า 1,667.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.47% โดยการค้ากับจีนตอนใต้มีมูลค่ารวม 3,088.16 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 1,974.62 ล้านบาท และนำเข้า 1,113.54 ล้านบาท
การค้ากับพม่ามีมูลค่ารวม 4,538.77 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 4,365.10 ล้านบาท และนำเข้า 173.67 ล้านบาท การค้ากับ สปป.ลาว มีมูลค่ารวม 2,072.26 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 1,691.64 ล้านบาท และนำเข้า 380.62 ล้านบาท
ด้านรายละเอียดสินค้าพบว่าการค้ากับจีนตอนใต้ พบว่าสินค้าอุปโภคบริโภคมีการส่งออกมากที่สุดมูลค่า 969.38 ล้านบาท เครื่องจักรกลและอุปกรณ์มูลค่า 602.83 ล้านบาท สินค้ากสิกรรมมูลค่า 2,354.17 ล้านบาท สินค้าเชื้อเพลิง 95.4 ล้านบาท ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าเป็นประเภทกสิกรรมมากที่สุดมูลค่า 517.5 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าประเภทเกษตร เช่น หอมแดง กระเทียม ฯลฯ มูลค่ากว่า 288.5 ล้านบาท ส่วนพืชผักสดมีมูลค่า 126.01 ล้านบาท ดอกไม้จีน มูลค่า 72.4 ล้านบาท และผลไม้ประเภทแอปเปิล สาลี่ ฯลฯ มีมูลค่า 30.5 ล้านบาท ฯลฯ
สำหรับการค้ากับพม่าพบว่ามีการส่งออกสินค้าประเภทเบ็ดเตล็ดมากที่สุดมูลค่า 1,419.4 ล้านบาท สินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่า 1,173.2 ล้านบาท สินค้าเชื้อเพลิงมูลค่า 579.8 ล้านบาท ฯลฯ และนำเข้าเป็นสินค้าไม้ ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ 90.9 ล้านบาท สินค้าเบ็ดเตล็ดมูลค่า 12.5 ล้านบาท สินค้าสิ่งทอ 12.8 ล้านบาท ฯลฯ และการค้ากับ สปป.ลาว พบว่ามีการส่งออก เป็นสินค้าเชื้อเพลิงมูลค่า 750.4 ล้านบาท สินค้ากสิกรรมมูลค่า 186.7 ล้านบาท ฯลฯ และสินค้านำเข้าเป็นสินค้ากสิกรรมมูลค่า 51.9 ล้านบาท ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์มูลค่า 50.2 ล้านบาท ฯลฯ
