เชียงใหม่ประกาศพร้อมเป็นเจ้าภาพสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ 27-29 พ.ย.52 นี้ คาดเงินสะพัดอย่างต่ำ 120 ล้านตลอดช่วงจัดงาน ขณะที่เลขาธิการหอการค้าไทยระบุเป็นโอกาสดีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างบรรยากาศดีๆ ให้เชียงใหม่หลังซบเซามานาน ด้าน “บุญเลิศ” นายก อบจ.เชียงใหม่ อาสาใช้ความสัมพันธ์แนบแน่นส่วนตัวช่วยประสาน “เสื้อแดง” เคลื่อนไหวในกรอบ ฟันธงไม่มีเหตุวุ่นวายและความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน


วันนี้ (11 พ.ย.) หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ประจำปี 2552 ซึ่งจะจัดขึ้นที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.52 โดยมีสมาชิกหอการค้าจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประมาณ 2,000 คน

นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ เป็นการประชุมที่ภาคเอกชนจะมาร่วมกันหารือระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อนำเสนอและผลักดันต่อไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นโอกาสดีของจังหวัดเชียงใหม่ เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยว รวมทั้งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าตลอดการจัดงานจะมีเงินสะพัดจากการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ประมาณ 120 ล้านบาท

สำหรับประเด็นที่ทางหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จะมีการหยิบยกนำเสนอในการประชุมครั้งนี้นั้น นายณรงค์กล่าวว่า ประเด็นที่จะมีการนำเสนอ ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งคนและสินค้า การผลักดันให้เกิดการเพิ่มเที่ยวบินมายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ ด้วยการลดหย่อนผ่อนปรนในเรื่องของสิทธิการบิน การผลักดันส่งเสริมการค้าชายแดนด้านจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เชื่อมโยงกับเมืองตองยี ของพม่า และโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ที่เสนอให้มีการเพิ่มงบประมาณนอกเหนือจากค่าก่อสร้างอีก 600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ของศูนย์ประชุมฯ ดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์พร้อม

ส่วนความเป็นห่วงเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายรุนแรงของกลุ่มการเมืองในช่วงระหว่างจัดงานนั้น นายณรงค์กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในจังหวัดเชียงใหม่ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพการจัดงานในครั้งนี้ เพราะถือเป็นงานที่เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดเชียงใหม่ และการจัดการประชุมครั้งนี้ก็ไม่ใช่การพูดคุยในเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งนี้หากจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็สามารถทำได้แต่ต้องขอร้องให้อยู่ในความสงบและกรอบของกฎหมาย เพื่อภาพรวมของทั้งจังหวัดเชียงใหม่

ด้าน นายไพรัช บูรพชัยศรี กรรมการเลขาธิการหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่ง ในความพยายามของหอการค้าแห่งประเทศไทยที่จะร่วมสร้างมิติใหม่ให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการที่ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศแล้วนำเสนอให้แก่รัฐบาล

การสัมมนาครั้งนี้จะมีสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจประเทศไทย บทบาทของ กรอ.ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และการเตรียมความพร้อมรับข้อตกลงประชาคมอาเซียน ซึ่งจะมีการสรุปจัดทำผลสรุปการสัมมนาและแผนยุทธศาสตร์นำเสนอให้นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมงานด้วย

ในส่วนของเรื่องการผลักดันโครงการรถไฟรางคู่ หรือรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ นายไพรัช กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะมีการประชุมหารือกันในการสัมมนาครั้งนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันพบว่าต้นทุนการขนส่งสินค้าของไทยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 19 ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีต้นทุนนี้ไม่เกินร้อยละ 10 ทำให้ไทยไม่สามารถไปแข่งขันได้ และทุกวันนี้ไทยยังมีการใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าน้อยมาก จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาโดยเร็ว ทั้งนี้เพราะหากสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้ทุกๆ ร้อยละ 1 จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการค้าขายได้มากถึง 1.2 แสนล้านบาทต่อปีเลย

นอกจากนี้ กรรมการเลขาธิการหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้มุ่งไปที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยการที่เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่ ในการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรยากาศที่ดีให้เกิดขึ้นหลังซบเซามาช่วงหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีหลายจังหวัดในภาคเหนือที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ เช่น เชียงราย พิษณุโลก เป็นต้น เพราะเคยจัดมาแล้วและก่อให้เกิดการกระตุ้นการค้าการลงทุนได้เป็นอย่างมาก จึงต้องการเป็นเจ้าภาพอีก แต่ในที่สุดก็มีการเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดด้วยการสร้างให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้เกิดความประทับใจ


ขณะที่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการที่จะต้อนรับและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ส่วนความเป็นห่วงเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนต่างๆ นั้น เชื่อว่าคนเชียงใหม่ทุกคนไม่อยากให้เกิดเรื่องที่จะเป็นปัญหาและภาพลบเช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของตนเองที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ขอรับที่จะเป็นตัวกลางประสานขอความร่วมมือจากกลุ่มคนดังกล่าวที่จะไม่ทำให้เกิดภาพเสียหาย และพร้อมฟันธงว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายและรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงการจัดงานอย่างแน่นอน