xs
xsm
sm
md
lg

ฤาทักษิณจะเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย?

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

และแล้วนายฮุนเซนหรือที่คนไทยเรียกกันในวันนี้ว่านายฮวยเซ็ง ก็ได้แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของตนเองไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่สนใจไยดีว่ารัฐบาลไทยและคนไทยจะรู้สึกอย่างไร

แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดวงไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เพราะพร้อมๆ กับการออกข่าวการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา นายฮุนเซนก็ประกาศพร้อมกันว่าถ้าคนไทยข้ามแดนไปยังดินแดนเขมรตรงเขาพระวิหาร ก็พร้อมยิงทันที

ทั้งยังเตือนกลุ่มประชาชนผู้รักชาติ รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าถ้าละเมิดข้ามเขตแดนกัมพูชาเมื่อใด ก็จะยิงเมื่อนั้น

การณ์จึงกลับกลายเป็นว่า ด้านหนึ่งนายฮวยเซ็งได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา แต่อีกด้านหนึ่งก็ประกาศตนเป็นศัตรูกับคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นที่ปรึกษาหรือมิตรของศัตรูของคนไทยไปพร้อมกันด้วย

ทว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงไม่ได้คิดในมุมนี้ในแง่นี้ จึงแสดงท่าทียินดีและขอบคุณนายฮวยเซ็งที่ได้แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ตรงนี้แหละที่แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นแม้จะเก่ง แม้จะฉลาด แต่ไม่เข้าใจโลกนิติ ไม่เข้าใจธรรมนิติ และไม่เข้าใจราชนิติ จึงเป็นเหตุให้พลาดพลั้งแล้วมีชะตากรรมดังที่เป็นอยู่เช่นนี้

การแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นที่ปรึกษานายฮวยเซ็งในครั้งนี้มีลับลมคมในและมีวาระซ่อนเร้นที่ร้ายกาจ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่กระจ่างในแผนร้ายของนายฮวยเซ็ง จึงหลงดีใจได้ปลื้มไปกับฐานะที่ปรึกษานั้น แล้วแสดงอาการดีใจได้ปลื้มนั้นให้ปรากฏโดยทั่วไปไปแล้ว

ที่ว่านี่คือแผนร้ายของนายฮวยเซ็งนั้นเป็นอย่างไรเล่า?

ประการแรก นายฮวยเซ็งนั้นประกาศศักดาเป็นศัตรูของคนไทย และสั่งยิงคนไทยทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มผู้รักชาติและกลุ่มพันธมิตรฯ หากว่าข้ามแดนไปเขมร และได้ประกาศความเป็นศัตรู พร้อมๆ กับการแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา

ผลก็คือรวบหัวรวบตัวรวบตีน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้กลายเป็นศัตรูของคนไทยทั้งประเทศ และจะต้องยอมตนเป็นข้าทาสบริวารของนายฮวยเซ็งตลอดไป เพราะในเมื่อเป็นศัตรูกับคนไทยทั้งประเทศแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะเป็นที่รัก ที่วางใจ ของคนไทยได้อีก แล้วป่วยการไยที่จะต้องกล่าวถึงการกลับมาปกครองประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะตกอยู่ในกำมือของนายฮวยเซ็ง เขมรเชื้อสายเวียดนามผู้ดึงเอากองทัพเวียดนามเข้ามายึดมาตุภูมิของตน โดยยอมเสียดินแดนเป็นบรรณาการให้แก่กองทัพเวียดนาม

ชีวิตและอนาคตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงตกอยู่ในกำมือของนายฮวยเซ็ง ที่จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด จะรีดจะไถเท่าใดก็จะต้องจ่ายให้ตามใจ เว้นแต่จะรู้เท่าทันแล้วไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอุ้งมือของนายฮวยเซ็งเท่านั้น

ประการที่สอง การแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีนั้น นายฮวยเซ็งสามารถแต่งตั้งเองได้ แต่นายฮวยเซ็งไม่ทำ กลับทำเรื่องกราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าสีหมุนีพระมหากษัตริย์แห่งเขมรให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

แล้วหมายความว่าอย่างไร? เรื่องนี้เกี่ยวพันและมีแบบอย่างในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-เขมร ซึ่งมองข้ามไปไม่ได้

ข้อแรก ฐานะของสมเด็จพระเจ้าสีหมุนีในวันนี้เป็นพระมหากษัตริย์ก็แต่เชิงสัญลักษณ์ อำนาจทั้งแผ่นดินอยู่ในมือนายฮวยเซ็งแต่ผู้เดียว ไม่ต่างกับความสัมพันธ์ระหว่างโจโฉกับพระเจ้าเหี้ยนเต้

ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องขี้หมูขี้หมาประการใด หากโจโฉเสนอแล้วพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีแต่โปรดเกล้าฯ ตามที่เสนอนั้น เหตุนี้ทั้งที่ไม่ใช่การอันเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของเขมร แต่ก็ต้องทรงโปรดเกล้าฯ

นายฮวยเซ็งทำการดั่งนี้ต้องการส่งสัญญาณอะไรเล่า? ตรงนี้คือสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องตระหนักและเข้าใจเจตนาลึกอันซ่อนอยู่ในห้วงใจของนายฮวยเซ็งให้ดี

อันสมเด็จพระสีหมุนีในวันนี้นั้นถูกกดขี่ข่มเหงจากนายฮวยเซ็งยิ่งกว่าโจโฉกระทำต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ จนต้องทรงปลีกวิเวกไปปฏิบัติธรรมตามวัดและอาศัยพระธรรมบำรุงพระทัย ทรงถือศีลห้า และศีลแปดเป็นนิตย์ เป็นที่น่าเวทนานัก

ข้อสอง เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์นั้น มีข้อพิพาทกันระหว่างพวกเขมรด้วยกัน บางพวกก็เข้ามาสวามิภักดิ์พึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ซึ่งทรงโปรดเกล้าฯ ทำนุบำรุงตามควรแก่กรณี ทำให้ไมตรีระหว่างทั้งสองอาณาจักรผูกพันสถาพร เป็นที่ชื่นชมโสมนัสของราษฎรทั้งสองประเทศ

แต่ตรงจุดนี้กลับกลายเป็นปมด้อยของพวกขะแมร์กรอม เป็นปมด้อยในใจว่าชนชั้นนำของเขมรเมื่อพิพาทบาดหมางกันเองแล้วไฉนจึงต้องไปพึ่งพาอาศัยคนต่างด้าวเจ้าต่างแดน คือพระมหากษัตริย์แห่งสยาม จนเป็นหัวข้อหนึ่งในการอบรมของโรงเรียนการเมืองการทหารของพวกขะแมร์กรอมในบางยุค

นายฮวยเซ็งก็คงผ่านการอบรมหัวข้อนี้มาด้วย ดังนั้นในน้ำใจลึกจึงต้องการล้างแค้นและล้างอายเพื่อชำระสะสางปมด้อยในใจตน มาคราวนี้เห็นโอกาสเป็นทีที่คนในวงการเมืองของไทยทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไปมีไมตรีกับนายฮวยเซ็ง

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็มองหน้ากันไม่ติดเพราะมีรอยแค้นลึกฝังใจ ชนิดที่หากฆ่าได้ก็ต้องฆ่ากันไปแล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องประการใดนั้น ไม่เพียงแต่นายฮวยเซ็งและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่รู้ แต่ยังมีผู้รู้อยู่หลายคน และบางครั้งก็มีการนำมาพูดจากันทางโทรทัศน์บ้างแล้ว แต่ความแค้นระดับนี้กลับมาอ้างความเป็นมิตรไมตรีจนเจ็บร้อนแทนกันโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินัก

ดังนั้น จึงฉวยโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังแสวงหาฐานะบางอย่าง ซึ่งได้พยายามสร้างข่าวประชาสัมพันธ์กันมานานวันแล้ว คือตำแหน่งที่ปรึกษาของประเทศนั้นประเทศนี้ ซึ่งจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง จนบางประเทศต้องออกมาปฏิเสธ เป็นเหตุให้หน้าแหกหน้าแตกกันมาหลายคราวแล้ว แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาสมดังใจ

จะเรียกว่าเหยื่อหลงเข้ามากินเบ็ดเองก็ว่าได้ ดังนั้นจึงแทนที่นายฮวยเซ็งจะออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นวิธีการที่ควรจะเป็นไปเช่นนั้น กลับนำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระเจ้าสีหมุนีให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

ดังนั้น ผลของการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแบบนี้จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของเขมรไปแล้ว เช่นเดียวกับที่เมื่อครั้งบรรดานักองค์ทั้งหลายที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในพระบรมราชจักรีวงศ์นั้น

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงกลายเป็นคนไทยที่ตกเป็นเครื่องมือให้เขมรใจเวียดนามใช้ล้างแค้นสางปมด้อยในใจตนที่ตกค้างมาแต่ประวัติศาสตร์

อีกไม่นานนายฮวยเซ็งคงสั่งให้แต่งตำราเรียนประวัติศาสตร์เขมรว่า ในยุคต้น รัตนโกสินทร์ ผู้นำเขมรทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ไม่แก้ปัญหากันเอง กลับไปพึ่งใบบุญของสยาม เป็นที่อับอายขายหน้าของเขมร

แต่มาบัดนี้นักการเมืองไทยทะเลาะกันเอง แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เข้าไปพึ่งใบบุญเขมร และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา เป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของเขมร เช่นเดียวกับบรรดาพวกนักองค์ของเขมรที่เข้ามาเป็นข้าในพระบรมโพธิสมภารของสยามในอดีต
ข้อสาม เมื่อการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากระทำโดยพระราชโองการของพระมหากษัตริย์แห่งเขมร จึงเท่ากับว่าในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กลายเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาแล้ว

จะเรียกว่าไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารของราชอาณาจักรกัมพูชาก็ว่าได้ ซึ่งไม่ต่างอันใดกับเมื่อครั้งบรรดานักองค์ทั้งหลายเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์แห่งสยาม

แต่ทว่าบรรดานักองค์ทั้งหลายในยุคนั้นเป็นปรปักษ์กันเอง ไม่ได้เป็นข้าต่อกันและกัน จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย

แต่ฐานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ต่างกับพวกนักองค์ของเขมรในวันโน้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงประกาศความเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินในพระบรมราชจักรีวงศ์อยู่

เมื่อเทศกาลลอยกระทงนี้ก็ได้เขียนทวิตเตอร์แสดงความจงรักภักดีเทิดทูนพระมหากษัตริย์และอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้พระองค์หายประชวรโดยไว ทำให้ใครต่อใครมีความรู้สึกที่ดีขึ้นเป็นอันมาก

เมื่อเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์แล้ว การตกไปเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชวงศ์แห่งเขมร จึงทำให้กลายเป็นคนข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย

จึงจำเป็นต้องบอกกล่าวเล่าเตือนมาให้รีบถอนตัวออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานั้นเสีย ก่อนที่จะถูกใช้เป็นเชื้อจุดระเบิดสงครามไทย-เขมร เพราะการเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายนั้น โบราณว่าเป็นจัญไร หาความเจริญอันใดมิได้เลย.
กำลังโหลดความคิดเห็น