xs
xsm
sm
md
lg

รู้ไหมชาติก่อนใครเป็นอะไร

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

เชื่อไหมครับว่า เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของผู้ทรยศและคนเนรคุณ 2 คน ในประวัติศาสตร์ คือพระยาจักรีและพระยาละแวกนั้นเกิดร่วมสมัยกันในยุคสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา

แล้วกลับชาติมาเกิดร่วมสมัยกันอีกในปัจจุบัน

แต่เนื่องจากช่วงสองสามวันนี้ผมได้ยินมีการพูดสับสนกันระหว่างพระยาละแวกและพระยาจักรี จึงอยากทบทวนประวัติศาสตร์เบื้องต้นเสียก่อน

พระยาจักรี รับราชการในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กษัตริย์พระองค์ที่ 15 ของกรุงศรีอยุธยา หลังอยุธยาทำสงครามช้างเผือกพ่ายแพ้แก่พม่าพระยาจักรีถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย และเมื่อสิ้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ สมเด็จพระมหินทราธิราชเสด็จขึ้นครองราชย์ พระยาจักรีเห็นแก่ทรัพย์ที่พระเจ้าบุเรงนองประทานให้จึงอาสาเป็นหนอนบ่อนไส้ในกรุงศรีอยุธยา โดยเข้าไปในกรุงศรีอยุธยาทำทีเป็นว่าหลบหนีมาจากกรุงหงสาวดี

พระมหินทราธิราชทรงวางพระทัยพระยาจักรีจึงได้มอบให้ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ พระยาจักรีจึงวางอุบายให้ทหารที่มีความสามารถไปประจำกองที่ไม่สำคัญ และให้ทหารที่ไร้ฝีมือเป็นทัพหน้าคุมกำลังประจัญบานกับกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง แถมคนมีฝีมือก็ถูกหาเรื่องใส่ความให้ต้องโทษขังหรือเฆี่ยน เพียงข้ามคืนกรุงศรีอยุธยาก็พ่ายแพ้ เสียกรุงให้กับพม่าเป็นครั้งแรก

เมื่อพระยาจักรีกลับไปเข้าเฝ้าพระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าบุเรงนองมีพระราชโองการให้ประหารชีวิตพระยาจักรีเสีย เพราะเห็นว่า พระยาจักรีนั้นทำได้แม้กระทั่งการทรยศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ภายภาคหน้าก็คงจะสามารถทรยศกรุงหงสาวดีได้เช่นกัน โดยตอกมือไว้กับหีบทองของรางวัลที่บุเรงนองประทานให้แล้วจับถ่วงน้ำ

ส่วนพระยาละแวก ช่วงที่พระมหาจักรพรรดิทำสงครามกับพม่าอยู่นั้น ฝ่ายเขมรพระยาละแวกเห็นได้ทีจึงยกทัพเข้ามาทางปราจีนบุรีกวาดต้อนผู้คน กลับไปเขมรจำนวนมาก

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพไปถึงเมืองพระตะบองและละแวก พระยาละแวก เห็นท่าจะแพ้ในการศึกจึงมีราชสาสน์และเครื่องราชบรรณาการมาถวาย และรับปากว่าจะเป็นข้าพระบาทตราบชั่วกัลปวสาน เมื่อญวนยกทัพมาตีเมืองละแวก กองทัพไทยจึงยกกำลังไปช่วย

หลังไทยเสียกรุงให้แก่พม่าเพียงปีเดียว พระยาละแวกจากเขมรได้ถือโอกาสเข้ามาปล้นและตีเมืองที่อยู่ภายใต้อยุธยา กวาดต้อนผู้คนแถวจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรากลับไปเขมรจำนวนมาก รวมทั้งโจมตีเมืองธนบุรีจับชาวเมืองธนบุรีและนนทบุรีเป็นเชลยจำนวนมาก และหมายจะบุกเข้าตีอยุธยาแต่ถูกทหารไทยยิงตายเป็นจำนวนมาก ฝ่ายเขมรแตกทัพหนีกลับไปทางพระประแดง

เมื่อถึงยุคสมัยสมเด็จพระนเรศวรทรงตรัสว่า “พระยาละแวกตระบัดสัตย์อีกแล้ว จึงต้องยกไปปราบให้ราบคาบ” ผลการศึกกองทัพไทยไล่ตีเขมรไปจนสุดชายแดน ทหารเขมรล้มตายจำนวนมาก

ประวัติศาสตร์ที่คนไทยได้หันไปอุ้มชูเขมรในยุคบ้านเมืองแตกระส่ำนั้นไม่ใช่แค่ยุคพระยาละแวก แต่ผ่านมาถึงยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่เขมรถูกญวนรุกรานแล้วมาพึ่งพิงรัฐไทย แต่พอปีกกล้าขาแข็งก็หันมาลอบกัดไทย รวมทั้งการพึ่งพิงไทยในยุคสงครามเย็น สงครามกลางเมือง บ้านแตกสาแหรกขาด

พระยาจักรีนั้นเป็นคนไทยที่ทรยศต่อแผ่นดิน ส่วนพระยาละแวกนั้นเป็นเขมรที่เนรคุณต่อแผ่นดินไทย

วันนี้มีคนไทยคนหนึ่งที่เรียกขานกันว่า บิ๊กจิ๋ว หรือพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แห่งพรรคเพื่อไทย และสมเด็จพระมหาอัครมุนี ฮุนเซน แห่งแผ่นดินกัมพูชา

พล.อ.ชวลิต บินไปพบฮุนเซนแล้วกลับมาบอกคนไทยด้วยความภาคภูมิใจว่า ฮุนเซน ดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมของไทยว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อทักษิณ และแม้ว่า ทักษิณจะเป็นนักโทษที่ทางการไทยต้องการตัว แต่ฮุนเซน ปรารถนาจะสร้างบ้านให้ทักษิณเข้ามาอาศัยในแผ่นดินกัมพูชา

ฮุนเซนบอกบิ๊กจิ๋วว่า มีความรู้สึกว่า ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม ในฐานะที่ ทักษิณทำอะไรให้กับประเทศเยอะแยะ แต่ทำไมถึงวันนี้แม้กระทั่งแผ่นดินที่จะอยู่ก็ยังไม่มี

บิ๊กจิ๋วปล่อยให้ฮุนเซนประณามประเทศของตัวเองแล้วกลับมาเล่า ยังไม่พอ เมื่อฮุนเซนมาประชุมอาเซียนซัมมิตที่เมืองไทย ฮุนเซนก็ด่าประเทศไทยซ้ำอีก และประกาศว่า ถ้าทักษิณเข้ามาอยู่ในกัมพูชาจะไม่ส่งทักษิณกลับไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเห็นว่า เป็นคดีการเมือง และเป็นอธิปไตยของกัมพูชา หนำซ้ำยังเปรียบทักษิณกับอองซาน ซูจี

ทั้งๆ ที่คนไทยและทั่วโลกรู้ว่า ทักษิณนั้น ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ทักษิณละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ตากใบ กรือเซะ และฆ่าตัดตอนยาเสพติดโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมอีกหลายพันชีวิต และในจำนวนนั้นมีผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

คดีที่ทักษิณหนีกระบวนการยุติธรรมไทยออกไปนั้น เป็นคคีอาญา เพราะทักษิณหลบหนีคดีคำพิพากษาของศาลให้ติดคุกฐานใช้อำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เมียได้ทรัพย์สินของรัฐ

ที่สำคัญบิ๊กจิ๋วไปเยือนกัมพูชาในท่ามกลางความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ไทยยืนยันว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบเขาพระวิหารนั้นเป็นของไทย แต่ถูกทหารเขมรเข้ามายึดครอง แต่เมื่อกลับจากเขมรพล.อ.ชวลิตพูดว่า ปัญหาข้อขัดแย้งบริเวณตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาไม่ต้องการให้การเผชิญหน้ากันของทหารทั้งสองฝ่าย อยากให้จะหมดไปโดยรวดเร็ว และทางกัมพูชาได้มีการเสนอมาหลายครั้งแล้ว โดยอยากให้มีการแยกกำลังทหารออกจากกันและให้ห่างจากกัน

พอกลับจากกัมพูชา กลายเป็นว่า บิ๊กจิ๋วคนที่เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แยกแยะไม่ออกหรือไม่มีข้อมูลหรือการข่าวเลยหรือว่า วันนี้ใครเป็นฝ่ายรุกรานใคร ใครควรถอนกำลังออกไป ในฐานะเป็นคนไทย บิ๊กจิ๋วควรพูดกับฮุนเซนเรื่องนี้ว่าอย่างไร

คำถามนี้จึงต้องถามบิ๊กจิ๋วและพรรคเพื่อไทยต่อว่า มีนโยบายต่อพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรอย่างไร หรือว่า เพื่อความสัมพันธ์กับกัมพูชาเราควรนิ่งเฉยเสียและปล่อยให้กัมพูชายึดครองแผ่นดินผืนนั้นไป

วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณนั้น เห็นดีเห็นงามหรือมีความสุขหรือไม่ที่ฮุนเซนเข้ามาหมิ่นศักดิ์ศรีประเทศไทยและคนไทยถึงบนแผ่นดินไทย หลังจากที่คนไทยคนหนึ่งชื่อชวลิตกลับมาเล่าการถูกฮุนเซนดูหมิ่นศักดิ์ศรีประเทศของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจมาแล้ว

ไม่เพียงแต่พระยาจักรีจะเหิมเกริมเท่านั้น วันนี้เครือข่ายของพระยาจักรียังมีเครื่องมือสื่อสารที่เพียบพร้อมในการบั่นทอนสถาบันสำคัญของชาติ สื่อใต้ดินและบนดินของเครือข่ายเสื้อแดง วิทยุชุมนุมมีการกล่าวพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางลบอย่างเปิดเผยและโล่งโจ้ง โดยที่รัฐบาลทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

มีคนถามว่า ถ้าบิ๊กจิ๋ว คือ พระยาจักรี และฮุนเซน คือ พระยาละแวกกลับชาติมาเกิด แล้วคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชาติก่อนเป็นอะไร

มีคนตอบผมว่า ชาติก่อนคุณอภิสิทธิ์คงมีบรรดาศักดิ์เป็นพระอิฐหรือไม่ก็พระปูนรับราชการอยู่ที่ไหนสักแห่ง

                                                     surawhisky@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น