ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเผยฐานะการคลังของรัฐบาลมั่นคง เงินคงคลังเกือบทะลุสามแสนล้านบาท งบประมาณขาดดุลสะท้อนบทบาทภาครัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนรัฐบาล
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือนกันยายน 2552 ว่าภายใต้กรอบนโยบายงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 2.11 หมื่นล้านบาท และมีผลให้ตลอดปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวมทั้งสิ้น 5.05 แสนล้านบาท
และเมื่อรวมกับดุลนอกงบประมาณที่เกินดุล 1.29 แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 3.76 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% ของ GDP และเมื่อผนวกกับการชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง ทำให้เงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2552 เท่ากับ 2.93 แสนล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาลอย่างมาก
“เศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2552 เป็นการตอกย้ำว่าการดำเนินนโยบายขาดดุลของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้จ่ายของภาครัฐนั้น ถือได้ว่าเป็นมาตรการที่มีประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” นายสาธิตกล่าวและว่า นอกจากนั้น ระดับเงินคงคลังที่มีอยู่ในระดับสูง จะเป็นแรงเสริมให้การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลปีงบประมาณ 2552.
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือนกันยายน 2552 ว่าภายใต้กรอบนโยบายงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 2.11 หมื่นล้านบาท และมีผลให้ตลอดปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวมทั้งสิ้น 5.05 แสนล้านบาท
และเมื่อรวมกับดุลนอกงบประมาณที่เกินดุล 1.29 แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 3.76 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% ของ GDP และเมื่อผนวกกับการชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง ทำให้เงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2552 เท่ากับ 2.93 แสนล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาลอย่างมาก
“เศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2552 เป็นการตอกย้ำว่าการดำเนินนโยบายขาดดุลของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้จ่ายของภาครัฐนั้น ถือได้ว่าเป็นมาตรการที่มีประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” นายสาธิตกล่าวและว่า นอกจากนั้น ระดับเงินคงคลังที่มีอยู่ในระดับสูง จะเป็นแรงเสริมให้การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลปีงบประมาณ 2552.