ตลาดสิ่งทอพรีเมี่ยม ยังพร้อมสยายปีกการเติบโต “พาซาญ่า” เดินหน้าลุย บุกตลาดต่างประเทศ วาดฝันใน 5 ปี วางจำหน่ายสินค้าทุกห้างดังทั่วโลก หลัง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดการส่งออกขยับโตต่อเนื่อง ส่วนในประเทศยังไปได้ดีอยู่ สิ้นปีมั่นใจรายได้โตเกือบ 40% จาก 300 ล้าน พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ชูโมเดลจับมือกับพันธมิตร เตรียมเปิดร้านพาซาญ่า รูปแบบสแตนอโลนอีก 5 สาขาในปีหน้า
นางรติยา จันทรเทียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กส์ไทล์แกลเลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าจากสิ่งทอ แบรนด์ พาซาญ่า (PASAYA) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกยังไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ในส่วนของพาซาญ่า ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยมแบรนด์ และเพิ่งเริ่มสร้างแบรนด์บุกต่างประเทศมาได้ 3-5 ปีเท่านั้น
จึงยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไรการสั่งซื้อสินค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบบริษัทเข้าไปเปิดตลาดเอง และการที่มีผู้สนใจซื้อจากบริษัท แล้วนำไปจำหน่ายต่อ
อย่างไรก็ตาม บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่าๆกัน โดยในต่างประเทศนั้น กำลังเดินหน้าในการสร้างแบรนด์ในมาเลเซีย โดยการร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ยังขยายไปอีกในหลายๆประเทศในแถบเอเชียด้วย ทั้ง อินเดีย จีน รวมถึงออสเตรเลีย ส่วนฝั่งยุโรปนั้น เพิ่มเริ่มในประเทศฝรั่งเศสไปบางส่วน
ขณะที่ในญี่ปุ่น เวียดนาม สเปน ไต้หวัน จะมีดิสทริบิวเตอร์ ซื้อไปจำหน่าย ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในการทำตลาดต่างประเทศไว้ว่า 5 ปีหลังจากนี้ แบรนด์ พาซาญ่า จะต้องมีวางจำหน่ายทั่วโลก โดยจะต้องมีวางจำหน่ายอย่างน้อยทุกๆห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงทั่วโลกให้ได้
ส่วนในประเทศไทยนั้น ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บริษัทมีแผนขยายร้านพาซาญ่า ในรูปแบบการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ในการขยายชอปแบบสแตนอโลน จำหน่ายพาซาญ่า แบบ เอ็กซ์คลูซีฟ แบรนด์ เป็นหลัก โดยตั้งเป้า 5 สาขาในปีหน้า พื้นที่ประมาณ 300-500 ตารางเมตร แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2 สาขา และต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก 3 สาขา เชื่อว่าแต่ละสาขาจะมีการลงทุนไม่สูงมาก
ในส่วนของพาซาญ่าจะช่วยออกทุนในส่วนของการตกแต่งร้านเป็นหลัก จากปัจจุบัน พาซาญ่า มีวางจำหน่ายทั้งหมด 90 จุดทั่วประเทศ และมีเพียง 1 แห่งเท่านั้นที่เป็นชอป คือที่สยามพารากอน โดยส่วนใหญ่พาซาญ่าจะวางจำหน่ายในโฮมโปรและโฮมเวิร์ค
นางรติยา กล่าวต่อว่า ตลาดผ้าทอในประเทศ มองว่า ช่วงครึ่งปีหลังค่อนข้างดีกว่าครึ่งปีแรก สำหรับพาซาญ่า ก็ได้มองดูแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนส่งออก 9 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่ดี ดังนั้นจึงได้มั่นใจที่จะลงทุนต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังนี้ กับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากที่รอดูสถานการณ์ในครึ่งปีแรก
เชื่อว่าในไตรมาสสี่นี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน จะช่วยผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่ 300 ล้านบาท เติบโต 40% แบ่งเป็นส่งออก 25% และในประเทศ 75% ขณะที่ปีก่อนสัดส่วนส่งออกอยู่ที่ 10-15% เท่านั้น ทั้งนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่า สัดส่วนส่งออกจะสูงถึง 70-80% และในประเทศอยู่ที่ 20%
แน่นอนว่าการรุกต่างประเทศครั้งนี้ บริษัทจะต้องมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะอันใกล้นี้อาจจะมีการลงทุนในการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาอีกบางส่วน แต่อาจจะใช้งบลงทุนไม่สูงมากนัก เพราะปัจจุบันเครื่องจักรที่มีอยู่ ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมาก
ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ พาซาญ่า ปัจจุบัน ได้แก่ ผ้าผืน (สำหรับตกแต่งบ้าน), ชุดเครื่องนอน และผ้าม่านสำเร็จรูป เฉพาะ 3 ผลิตภัณฑ์นี้ สร้างยอดขายเป็นสัดส่วนกว่า 90% ส่วนอีก 10% มาจาก พรมผืนตกแต่ง ของตกแต่งบ้านที่ทำจากผ้า และงานศิลปะต่างๆ
นางรติยา จันทรเทียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กส์ไทล์แกลเลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าจากสิ่งทอ แบรนด์ พาซาญ่า (PASAYA) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกยังไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ในส่วนของพาซาญ่า ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยมแบรนด์ และเพิ่งเริ่มสร้างแบรนด์บุกต่างประเทศมาได้ 3-5 ปีเท่านั้น
จึงยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไรการสั่งซื้อสินค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบบริษัทเข้าไปเปิดตลาดเอง และการที่มีผู้สนใจซื้อจากบริษัท แล้วนำไปจำหน่ายต่อ
อย่างไรก็ตาม บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่าๆกัน โดยในต่างประเทศนั้น กำลังเดินหน้าในการสร้างแบรนด์ในมาเลเซีย โดยการร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ยังขยายไปอีกในหลายๆประเทศในแถบเอเชียด้วย ทั้ง อินเดีย จีน รวมถึงออสเตรเลีย ส่วนฝั่งยุโรปนั้น เพิ่มเริ่มในประเทศฝรั่งเศสไปบางส่วน
ขณะที่ในญี่ปุ่น เวียดนาม สเปน ไต้หวัน จะมีดิสทริบิวเตอร์ ซื้อไปจำหน่าย ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในการทำตลาดต่างประเทศไว้ว่า 5 ปีหลังจากนี้ แบรนด์ พาซาญ่า จะต้องมีวางจำหน่ายทั่วโลก โดยจะต้องมีวางจำหน่ายอย่างน้อยทุกๆห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงทั่วโลกให้ได้
ส่วนในประเทศไทยนั้น ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บริษัทมีแผนขยายร้านพาซาญ่า ในรูปแบบการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ในการขยายชอปแบบสแตนอโลน จำหน่ายพาซาญ่า แบบ เอ็กซ์คลูซีฟ แบรนด์ เป็นหลัก โดยตั้งเป้า 5 สาขาในปีหน้า พื้นที่ประมาณ 300-500 ตารางเมตร แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2 สาขา และต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก 3 สาขา เชื่อว่าแต่ละสาขาจะมีการลงทุนไม่สูงมาก
ในส่วนของพาซาญ่าจะช่วยออกทุนในส่วนของการตกแต่งร้านเป็นหลัก จากปัจจุบัน พาซาญ่า มีวางจำหน่ายทั้งหมด 90 จุดทั่วประเทศ และมีเพียง 1 แห่งเท่านั้นที่เป็นชอป คือที่สยามพารากอน โดยส่วนใหญ่พาซาญ่าจะวางจำหน่ายในโฮมโปรและโฮมเวิร์ค
นางรติยา กล่าวต่อว่า ตลาดผ้าทอในประเทศ มองว่า ช่วงครึ่งปีหลังค่อนข้างดีกว่าครึ่งปีแรก สำหรับพาซาญ่า ก็ได้มองดูแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนส่งออก 9 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่ดี ดังนั้นจึงได้มั่นใจที่จะลงทุนต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังนี้ กับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากที่รอดูสถานการณ์ในครึ่งปีแรก
เชื่อว่าในไตรมาสสี่นี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน จะช่วยผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่ 300 ล้านบาท เติบโต 40% แบ่งเป็นส่งออก 25% และในประเทศ 75% ขณะที่ปีก่อนสัดส่วนส่งออกอยู่ที่ 10-15% เท่านั้น ทั้งนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่า สัดส่วนส่งออกจะสูงถึง 70-80% และในประเทศอยู่ที่ 20%
แน่นอนว่าการรุกต่างประเทศครั้งนี้ บริษัทจะต้องมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะอันใกล้นี้อาจจะมีการลงทุนในการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาอีกบางส่วน แต่อาจจะใช้งบลงทุนไม่สูงมากนัก เพราะปัจจุบันเครื่องจักรที่มีอยู่ ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมาก
ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ พาซาญ่า ปัจจุบัน ได้แก่ ผ้าผืน (สำหรับตกแต่งบ้าน), ชุดเครื่องนอน และผ้าม่านสำเร็จรูป เฉพาะ 3 ผลิตภัณฑ์นี้ สร้างยอดขายเป็นสัดส่วนกว่า 90% ส่วนอีก 10% มาจาก พรมผืนตกแต่ง ของตกแต่งบ้านที่ทำจากผ้า และงานศิลปะต่างๆ