ASTVผู้จัดการรายวัน – สยาม โกลด์ ชี้ พิษเศรษฐกิจกระทบตลาดทองพรีเมียม 1หมื่นล้านบาท หดตัว 20-30% ปรับตัว ปั้นแบรนด์ “โกลด์เดอรี่” รุกตลาดทองพรีเมียมที่มีแบรนด์ 1,000 ล้านบาท เร่งขยายช่องทางจำหน่ายค้าปลีก ทุ่ม 30 ล้านบาท ผุดเคาน์เตอร์ 10 แห่ง หวังขยายฐานลูกค้าเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน 30 ปี ขึ้นไป ปีแรกหวังแชร์ 5%
นายพิชัย สิริภัทรวาณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม โกลด์ แกลลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับทองคำโกลด์เดอรี่ เปิดเผยว่า สภาพตลาดทองคำพรีเมียมโดยรวมทุกช่องทางมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ปีนี้หดตัว 20-30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยพบว่าตลาดทองรูปพรรณหดตัว 30% เนื่องจากฐานลูกค้าระดับซีลงไป กำลังการซื้อไม่ดี ส่วนจิวเวลรี่หดตัว 10% ขณะที่ทองพรีเมียมที่มีแบรนด์มูลค่า 1,000 ล้านบาท หดตัวไม่เกิน 10% เพราะกลุ่มเป้าหมายยังมีกำลังการซื้อ
สำหรับแนวทางการตลาดของบริษัท รุกตลาดทองพรีเมี่ยมที่มีแบรนด์ในเชิงรุก ด้วยการสร้างแบรนด์ “โกลด์เดอรี่” เครื่องประดับทองคำ ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ธุรกิจค้าปลีก เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอายุ 30-45 ปี หลังจากที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ “บ้านช่างทอง
กรุ๊ป”ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรดมานานร่วมกว่า 70 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 40-50ปี
“เรามองว่าตลาดทองพรีเมียมที่มีแบรนด์เป็นตลาดที่มีศักยภาพ และสามารถเติบโตจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 1 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตมาจากฐานลูกค้าจากต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐและเอกชนต้องผนึกกำลังสร้างแบรนด์ ผ่านการโรดโชว์งานแสดงสินค้าต่างประเทศ จากปัจจุบันลูกค้าในตลาดดังกล่าวยังเป็นคนไทยเป็นหลัก”
นางสาวสรสิดา ชานนประภาส์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 20-30 ล้านบาท เปิดตัวเคาน์เตอร์แบรนด์โกลด์เดอรี่ ในห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล 10 แห่ง เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว และบางนา ส่วนปีหน้าเปิดตัวในรูปแบบชอป และอีก 2 ปีข้างหน้านี้ มุ่งเน้นตลาดส่งออก อาทิ อินเดีย ดูไบ สำหรับกลยุทธ์การตลาด
มุ่งเน้นการออกแบบที่แตกต่าง โดยผสมผสานระหว่างโมเดิร์นและศิลปะความเป็นไทย ซึ่งจะมีคอลเลกชันใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีบริการหลังการขาย
ด้านงบการตลาดบริษัทใช้ 7.5 ล้านบาท ดำเนินการทั้งอะโบฟเดอะไลน์ เน้นในสื่อสิ่งพิมพ์ เปิดตัวเว็บไซต์ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ และทำบีโลว์เดอะไลน์ เป็นสปอนเซอร์และจัดกิจกรรม ณ จุดขาย พร้อมกันนี้ยังได้นำ “แคท-วันทิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์” มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งนี้เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในช่วง 2 ปีนี้ โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้ามียอดขาย 75 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5% จากมูลค่าตลาดทองพรีเมียมที่มีแบรนด์ในช่องทางค้าปลีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน พรีม่า โกล์ด เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% และโกลด์ มาสเตอร์ 25% ที่เหลืออีก 25% เป็นอื่นๆ
นายพิชัย สิริภัทรวาณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม โกลด์ แกลลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับทองคำโกลด์เดอรี่ เปิดเผยว่า สภาพตลาดทองคำพรีเมียมโดยรวมทุกช่องทางมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ปีนี้หดตัว 20-30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยพบว่าตลาดทองรูปพรรณหดตัว 30% เนื่องจากฐานลูกค้าระดับซีลงไป กำลังการซื้อไม่ดี ส่วนจิวเวลรี่หดตัว 10% ขณะที่ทองพรีเมียมที่มีแบรนด์มูลค่า 1,000 ล้านบาท หดตัวไม่เกิน 10% เพราะกลุ่มเป้าหมายยังมีกำลังการซื้อ
สำหรับแนวทางการตลาดของบริษัท รุกตลาดทองพรีเมี่ยมที่มีแบรนด์ในเชิงรุก ด้วยการสร้างแบรนด์ “โกลด์เดอรี่” เครื่องประดับทองคำ ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ธุรกิจค้าปลีก เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอายุ 30-45 ปี หลังจากที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ “บ้านช่างทอง
กรุ๊ป”ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรดมานานร่วมกว่า 70 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 40-50ปี
“เรามองว่าตลาดทองพรีเมียมที่มีแบรนด์เป็นตลาดที่มีศักยภาพ และสามารถเติบโตจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 1 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตมาจากฐานลูกค้าจากต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐและเอกชนต้องผนึกกำลังสร้างแบรนด์ ผ่านการโรดโชว์งานแสดงสินค้าต่างประเทศ จากปัจจุบันลูกค้าในตลาดดังกล่าวยังเป็นคนไทยเป็นหลัก”
นางสาวสรสิดา ชานนประภาส์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 20-30 ล้านบาท เปิดตัวเคาน์เตอร์แบรนด์โกลด์เดอรี่ ในห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล 10 แห่ง เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว และบางนา ส่วนปีหน้าเปิดตัวในรูปแบบชอป และอีก 2 ปีข้างหน้านี้ มุ่งเน้นตลาดส่งออก อาทิ อินเดีย ดูไบ สำหรับกลยุทธ์การตลาด
มุ่งเน้นการออกแบบที่แตกต่าง โดยผสมผสานระหว่างโมเดิร์นและศิลปะความเป็นไทย ซึ่งจะมีคอลเลกชันใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีบริการหลังการขาย
ด้านงบการตลาดบริษัทใช้ 7.5 ล้านบาท ดำเนินการทั้งอะโบฟเดอะไลน์ เน้นในสื่อสิ่งพิมพ์ เปิดตัวเว็บไซต์ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ และทำบีโลว์เดอะไลน์ เป็นสปอนเซอร์และจัดกิจกรรม ณ จุดขาย พร้อมกันนี้ยังได้นำ “แคท-วันทิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์” มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทั้งนี้เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในช่วง 2 ปีนี้ โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้ามียอดขาย 75 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5% จากมูลค่าตลาดทองพรีเมียมที่มีแบรนด์ในช่องทางค้าปลีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน พรีม่า โกล์ด เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% และโกลด์ มาสเตอร์ 25% ที่เหลืออีก 25% เป็นอื่นๆ
