เพิ่งจะเปลี่ยนห้องนอนใหม่ เพราะยกบ้านช่องให้ลูกหลานหมด ขอแต่ห้องนอนเล็กๆ ไว้เป็นที่อาศัยหลับนอน เป็นห้องขนาดกว้าง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ขนาดพอๆ กับกุฏิที่พระวินัยอนุญาตให้พระสงฆ์สร้างอยู่เองได้ แต่เป็นห้องเก่าที่ปล่อยร้างมานานนับสิบปี พอเข้าไปอยู่จริงๆ กลับรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายมากขึ้น
มีอาการมึนงง คันจมูก ไอ จาม จนผิดปกติ และสมองรู้สึกจะตื้อไปสักหน่อย จึงต้องนั่งพิจารณาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่าฝ้าเพดานเก่าเป็นรา ปลวกเดินอยู่แถวชายขอบ วอลเปเปอร์ ผนังก็เป็นรา ม่านก็มีราเกาะเกรอะ เครื่องปรับอากาศก็มีกลิ่น ตอนเปิดใหม่ๆ ก็มีฝุ่น พื้นพรมก็มีฝุ่น ห้องน้ำก็ลื่น หวุดหวิดจะล้มหลายครั้ง แต่เดชะบุญได้อาศัยวิชาเคนโด้ที่พอร่ำเรียนมาบ้าง ทรงตัวไว้ได้ทัน
พิจารณาแล้วก็ร้องอ๋อ ว่าอาการอันเป็นไปในกายนี้จนมีความผิดปกติเกิดขึ้นนั้นย่อมมีมาแต่สาเหตุดังกล่าวเป็นแท้ ครั้นหวนย้อนรำลึกถึงญาติมิตรหลายรายที่ล้มหายตายจากไปดื้อๆ โดยไม่รู้สาเหตุ และมีอาการในทำนองเดียวกันนี้ก่อนตายทั้งนั้น จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องบอกกล่าวให้เพื่อนผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งหลายได้สังวรไว้
ให้สังวรกันไว้ว่าแม้ในห้องนอนแท้ๆ ก็ยังมีมัจจุราชที่จ้องคร่าชีวิตเราอยู่ และเป็นการคร่าเอาชีวิตไปโดยอาจจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แล้วล้มหายจากไปโดยไม่ทันสั่งเสียลูกเมียก็ยังมี
วันนี้จึงขอแสดงความคิดเห็นเรื่องมัจจุราชในห้องนอนเพื่อเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์ให้ช่วยกันพิจารณาว่าในห้องนอนของแต่ละคนนั้นมีมัจจุราชตัวไหนบ้าง? เพื่อจะได้ป้องกันแก้ไขเสียให้ทันท่วงที อย่างน้อยก็เพื่อให้มีเวลาอยู่ในโลกนี้นานขึ้นอีกหน่อย จะได้ทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อม และมากขึ้นตามเวลาที่เหลืออยู่
มัจจุราชตัวแรก คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่บนฝ้าเพดาน ซึ่งเกิดขึ้นตามค่านิยมใหม่เมื่อราว 30 ปีมานี้ว่าบ้านหรือห้องนอนจะงามต้องมีฝ้า แต่พอมีฝ้าแล้วก็ไม่เคยดูกันว่าบนฝ้านั้นมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเวลาเนิ่นนานไป
ปรากฏว่าบนฝ้าที่ดูภายนอกราบเรียบนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ บางทีมีหนูตาย หรือไม่ก็มีกระดูกเป็ด กระดูกไก่ หรือแม้แต่กระดูกแมว หรือกระดูกหนู เพราะมีงูเหลือมขึ้นไปกินสัตว์เหล่านั้น แล้วทิ้งซากหรือกระดูกไว้บนฝ้า ซึ่งบางทีก็ส่งกลิ่น แต่เพราะความคุ้นชินก็ไม่รู้สึกตัว
ในทุกบ้านเรือนของเรานี้มีสัตว์ 3 ชนิด ที่อาศัยใกล้ชิดคนเรา คือปลวก มด และแมลงสาบ อย่าได้คิดว่าปลวกนั้นอยู่ใต้ดินหรือมาจากดินเพียงอย่างเดียว เพราะปลวกนั้นมาโดยทางอากาศได้ในรูปของแมงเม่า
ทุกที่ที่มีไม้ก็เป็นที่หมายปองของปลวก ดังนั้นบนฝ้าเพดานก็ดี ไม้อันตีเป็นโครงฝ้าก็ดี ไม้ขอบก็ดี หรือไม้อันเป็นที่ตกแต่งเพื่อความสวยงามหรือตู้โต๊ะเสื้อผ้าก็ดี จึงเป็นที่หมายปองของปลวกทั้งสิ้น และเมื่อปลวกเข้าถึงเมื่อใดก็จะกินขี้ปี้นอนอยู่ในนั้นอย่างเงียบเชียบ กระทั่งกินเนื้อไม้หมดสิ้นแล้ว หากดูภายนอกก็ยังเห็นว่าราบเรียบอยู่ กว่าจะรู้อีกทีฝ้าเพดานก็จะหล่นทับลงมาแล้ว
ซากสัตว์ กระดูกสัตว์ ขี้ปลวก ฝุ่นละออง ที่สุมทับมากเข้าๆ ก็ส่งกลิ่นและเป็นที่บ่มเพาะของเชื้อราสารพัดชนิด รวมทั้งฝุ่นที่จะปลิวกระจายโดยที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา
และทุกวันฝุ่นหรืออะไรต่อมิอะไรที่เป็นผลจากของเหล่านี้ตกมาเข้าปาก เข้าจมูก และจะเป็นโรคอะไรต่อมิอะไรก็ยังไม่มีใครสำรวจตรวจสอบให้ปรากฏเลย
มัจจุราชตัวที่สอง คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในเครื่องปรับอากาศ เพราะเมื่อนานวันเข้าในเครื่องปรับอากาศก็เกิดความชื้นหรือหยดน้ำ ประกอบเข้ากับฝุ่นที่หนาทึบเข้าทุกวัน เกรอะกรังจนเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรคอะไรต่อมิอะไร และแต่ละวันก็พ่นสิ่งเหล่านี้มาเข้าทางเดินหายใจ เข้าหู เข้าตา วันแล้ววันเล่า จะเป็นฉันใด
มัจจุราชตัวที่สาม คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในพรม เพราะเมืองไทยของเรานี้เป็นเมืองร้อน เมืองแล้ง มากไปด้วยฝุ่นละออง และเศษผงต่างๆ เมื่อตกหล่นลงไปอยู่ในพรมนานวันเข้าก็เอาไม่ออก ซักก็ไม่ออก กวาดก็ไม่ออก จนมีกลิ่นบางอย่างเกิดขึ้นแล้วเกิดเป็นเชื้ออะไรต่อมิอะไรมากมายหลายชนิด ดังที่ภริยามหาเศรษฐีนายธนาคารคนหนึ่งตายไปโดยไม่รู้สาเหตุ ต่อภายหลังจึงรู้ว่ามีเชื้อแบคทีเรียอยู่ในพรมก็สายไปแล้ว
มัจจุราชตัวที่สี่ คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในวอลเปเปอร์หรือม่าน ซึ่งเป็นค่านิยมใหม่ในการตกแต่งบ้านเรือนและห้องนอน ยิ่งสวยงามวิลิศมาหราเท่าใดก็ยิ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราสารพัด
เพราะบ้านเมืองของเรานี้ไม่เพียงแต่ร้อน แล้ง แต่เป็นประเทศที่มีฤดูฝนอยู่หลายเดือน ละอองน้ำและละอองฝุ่นที่เล็กละเอียดยิบปลิวไปติดกับม่านและวอลเปเปอร์ก็จะเกิดเป็นราขึ้นหมักหมมเกาะเกรอะกรัง และส่งกลิ่นให้ปรากฏ แต่เพราะนอนอยู่ด้วยกันทุกวันจึงคุ้นเคย ไม่ได้กลิ่นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา มารู้ตัวอีกทีปอดก็เป็นมะเร็งไปแล้ว
มัจจุราชตัวที่ห้า คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเกิดแต่ค่านิยมใหม่เช่นเดียวกัน นั่นคือการปูพื้นกระเบื้องในห้องน้ำ ซึ่งดูสวยงามจนกระทั่งน่านั่งอ่านหนังสือหรือน่านอน และมีจำนวนมากที่ทำอ่างอาบน้ำเป็นอ่างอย่างดี ทั้งที่ความจริงแล้วสัปดาห์หนึ่ง เดือนหนึ่งแทบไม่ได้นอนในอ่างอาบน้ำนั้นเลยเพราะเวลาไม่พอ ลางทีต้องไปยืนอาบน้ำในอ่างอาบน้ำ ซึ่งไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
พื้นและอ่างอาบน้ำเหล่านั้นครั้นเปียกน้ำเข้าก็เกิดความลื่น ทำให้ร่างกายเสียความทรงตัว และถลาล้มได้โดยง่าย หลายรายลื่นล้มจนแขนหัก ขาหัก บางคนก็ล้มหัวฟาดพื้นตายคาที่ไปก็มี ไปตายที่โรงพยาบาลก็มี พิการไปก็มาก
ดูไปให้ดีเถิด มัจจุราชห้าตัวนี้มีอยู่ในห้องนอนของใครบ้าง?
โรคภัยหลายชนิดที่บังเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร มีอาการเป็นไปต่างๆ ที่ทำให้กายนี้ไม่ปกติ บางทีก็ไม่รู้สึกตัว จนเกิดการสั่งสมของโรคและพิษมากเข้าๆ ในที่สุดเมื่อถึงวันหนึ่งก็กำเริบ แล้วชีวิตก็ลับล่วงไป
แต่สภาพเช่นนี้มักจะไม่เกิดขึ้นกับคนยากคนจนที่ไม่สามารถจัดแจงตกแต่งห้องนอนให้มีความพร้อมในลักษณะดังกล่าวได้ มัจจุราชทั้งห้าตัวนี้จึงไม่ใช่มัจจุราชของคนจน แต่เป็นมัจจุราชของคนชั้นกลางและคนมีฐานะดี ยิ่งมีฐานะดีมากก็ยิ่งใกล้ชิดกับมัจจุราชทั้งห้าตัวนี้มาก
เพราะเหตุนี้อาการป่วยไข้แปลกๆ หรือประหลาดๆ ที่บังเกิดแก่คนชั้นกลางหรือคนมีฐานะอันดี โดยที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แม้กระทั่งได้รักษาพยาบาลกับแพทย์ชั้นดี โรงพยาบาลชั้นเลิศก็ไม่หาย จนกระทั่งตายไปดื้อๆ ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วสาเหตุหรือมัจจุราชที่คร่าเอาชีวิตไปนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นไกลที่ไหนเลย แต่เป็นมัจจุราชที่อยู่ในห้องนอนของตนเองแท้ๆ
เพราะความที่เป็นมัจจุราชซึ่งแฝงตัวอยู่ในห้องนอน จึงมีความใกล้ชิดกันมากเป็นพิเศษ ความใกล้ชิดทำให้เกิดความคุ้นเคยและไว้วางใจกัน ไม่ระแวงระวังว่าจะมาคร่าเอาชีวิตไปได้
ดังนั้นแม้จะมีเสียงให้ได้ยินกุกๆ กักๆ ในเวลากลางคืน ก็คิดเสียว่าหูฝาดไป ทั้งๆ ที่นั่นคือหนูคาบอาหารมากินแล้วทิ้งซากไว้ หรือไม่ก็งูกำลังกินหนู แล้วทิ้งซากเน่าจนกระทั่งแห้งเหลือแต่กระดูก
เห็นสีของสภาพแวดล้อมผิดปกติไปบ้างก็คิดเสียว่าเป็นเรื่องความเก่า ความซีดจาง หรือความเปรอะเปื้อนตามธรรมดาธรรมชาติ ทั้งๆ ที่นั่นคือการแฝงตัวของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอาจจะมีเชื้ออะไรที่ไม่รู้จักที่อาจคร่าชีวิตเร็วช้าแฝงตัวอยู่ก็ได้
ได้กลิ่นที่ผิดปกติไม่ว่ากลิ่นอับ กลิ่นสาบ กลิ่นสาง หรือกลิ่นเหม็นบางๆ หรือหอมฉุนๆ ก็คิดเสียว่าเป็นกลิ่นเสื้อ กลิ่นผ้า กลิ่นที่นอน หรือความเก่าของอุปกรณ์เครื่องใช้ โดยไม่เฉลียวใจว่านั่นเป็นกลิ่นของเชื้อรา ของฝุ่นสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรีย หรือมูลของปลวก หรืออะไรต่อมิอะไรที่ไม่รู้จัก ซึ่งอาจคร่าชีวิตได้ทุกเมื่อ
ลื่นถลาลงในห้องน้ำ พอทรงตัวได้ก็คิดเสียว่าเผลอไผลหรือประมาทไป โดยไม่สังวรว่านั่นคือการเตือนภัยอย่างเบาะๆ ของมัจจุราชในห้องน้ำ
เมื่อวางใจเพราะความใกล้ชิดฉะนี้แล้วก็ไม่เฉลียวใจว่ามัจจุราชกำลังจะคร่าเอาชีวิตตน ยังคงหลับนอนอยู่เป็นปกติ แม้เกิดอาการผิดปกติขึ้นแล้วก็ยังคิดเสียอีกว่าเป็นการป่วยเจ็บธรรมดา ประเดี๋ยวประด๋าวก็หาย
หาได้สังวรไม่ว่าคนเราในยามตื่นกับยามหลับนั้นต่างกัน เพราะเวลานอนหลับน้ำตาลในเลือดจะต่ำลง การทำงานของร่างกายอยู่ในระบบ stand by หรือระบบสำรองทั้งนั้น ความต้านทานในร่างกายจึงอ่อนลง ไม่สามารถต้านทานรับมือกับเงื้อมมือของมัจจุราชที่ฉุดกระชากเอาชีวิตอยู่ทุกวี่วันได้
ในที่สุดก็ตายไปโดยไม่รู้ว่าตายเพราะอะไร หรือเจ็บพิการก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เหตุนี้จึงควรที่ผองเราจะได้สำรวจตรวจสอบขับไล่มัจจุราชในห้องนอนออกไปเสียให้ทันท่วงทีเถิด.
มีอาการมึนงง คันจมูก ไอ จาม จนผิดปกติ และสมองรู้สึกจะตื้อไปสักหน่อย จึงต้องนั่งพิจารณาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่าฝ้าเพดานเก่าเป็นรา ปลวกเดินอยู่แถวชายขอบ วอลเปเปอร์ ผนังก็เป็นรา ม่านก็มีราเกาะเกรอะ เครื่องปรับอากาศก็มีกลิ่น ตอนเปิดใหม่ๆ ก็มีฝุ่น พื้นพรมก็มีฝุ่น ห้องน้ำก็ลื่น หวุดหวิดจะล้มหลายครั้ง แต่เดชะบุญได้อาศัยวิชาเคนโด้ที่พอร่ำเรียนมาบ้าง ทรงตัวไว้ได้ทัน
พิจารณาแล้วก็ร้องอ๋อ ว่าอาการอันเป็นไปในกายนี้จนมีความผิดปกติเกิดขึ้นนั้นย่อมมีมาแต่สาเหตุดังกล่าวเป็นแท้ ครั้นหวนย้อนรำลึกถึงญาติมิตรหลายรายที่ล้มหายตายจากไปดื้อๆ โดยไม่รู้สาเหตุ และมีอาการในทำนองเดียวกันนี้ก่อนตายทั้งนั้น จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องบอกกล่าวให้เพื่อนผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งหลายได้สังวรไว้
ให้สังวรกันไว้ว่าแม้ในห้องนอนแท้ๆ ก็ยังมีมัจจุราชที่จ้องคร่าชีวิตเราอยู่ และเป็นการคร่าเอาชีวิตไปโดยอาจจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แล้วล้มหายจากไปโดยไม่ทันสั่งเสียลูกเมียก็ยังมี
วันนี้จึงขอแสดงความคิดเห็นเรื่องมัจจุราชในห้องนอนเพื่อเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์ให้ช่วยกันพิจารณาว่าในห้องนอนของแต่ละคนนั้นมีมัจจุราชตัวไหนบ้าง? เพื่อจะได้ป้องกันแก้ไขเสียให้ทันท่วงที อย่างน้อยก็เพื่อให้มีเวลาอยู่ในโลกนี้นานขึ้นอีกหน่อย จะได้ทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อม และมากขึ้นตามเวลาที่เหลืออยู่
มัจจุราชตัวแรก คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่บนฝ้าเพดาน ซึ่งเกิดขึ้นตามค่านิยมใหม่เมื่อราว 30 ปีมานี้ว่าบ้านหรือห้องนอนจะงามต้องมีฝ้า แต่พอมีฝ้าแล้วก็ไม่เคยดูกันว่าบนฝ้านั้นมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเวลาเนิ่นนานไป
ปรากฏว่าบนฝ้าที่ดูภายนอกราบเรียบนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ บางทีมีหนูตาย หรือไม่ก็มีกระดูกเป็ด กระดูกไก่ หรือแม้แต่กระดูกแมว หรือกระดูกหนู เพราะมีงูเหลือมขึ้นไปกินสัตว์เหล่านั้น แล้วทิ้งซากหรือกระดูกไว้บนฝ้า ซึ่งบางทีก็ส่งกลิ่น แต่เพราะความคุ้นชินก็ไม่รู้สึกตัว
ในทุกบ้านเรือนของเรานี้มีสัตว์ 3 ชนิด ที่อาศัยใกล้ชิดคนเรา คือปลวก มด และแมลงสาบ อย่าได้คิดว่าปลวกนั้นอยู่ใต้ดินหรือมาจากดินเพียงอย่างเดียว เพราะปลวกนั้นมาโดยทางอากาศได้ในรูปของแมงเม่า
ทุกที่ที่มีไม้ก็เป็นที่หมายปองของปลวก ดังนั้นบนฝ้าเพดานก็ดี ไม้อันตีเป็นโครงฝ้าก็ดี ไม้ขอบก็ดี หรือไม้อันเป็นที่ตกแต่งเพื่อความสวยงามหรือตู้โต๊ะเสื้อผ้าก็ดี จึงเป็นที่หมายปองของปลวกทั้งสิ้น และเมื่อปลวกเข้าถึงเมื่อใดก็จะกินขี้ปี้นอนอยู่ในนั้นอย่างเงียบเชียบ กระทั่งกินเนื้อไม้หมดสิ้นแล้ว หากดูภายนอกก็ยังเห็นว่าราบเรียบอยู่ กว่าจะรู้อีกทีฝ้าเพดานก็จะหล่นทับลงมาแล้ว
ซากสัตว์ กระดูกสัตว์ ขี้ปลวก ฝุ่นละออง ที่สุมทับมากเข้าๆ ก็ส่งกลิ่นและเป็นที่บ่มเพาะของเชื้อราสารพัดชนิด รวมทั้งฝุ่นที่จะปลิวกระจายโดยที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา
และทุกวันฝุ่นหรืออะไรต่อมิอะไรที่เป็นผลจากของเหล่านี้ตกมาเข้าปาก เข้าจมูก และจะเป็นโรคอะไรต่อมิอะไรก็ยังไม่มีใครสำรวจตรวจสอบให้ปรากฏเลย
มัจจุราชตัวที่สอง คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในเครื่องปรับอากาศ เพราะเมื่อนานวันเข้าในเครื่องปรับอากาศก็เกิดความชื้นหรือหยดน้ำ ประกอบเข้ากับฝุ่นที่หนาทึบเข้าทุกวัน เกรอะกรังจนเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรคอะไรต่อมิอะไร และแต่ละวันก็พ่นสิ่งเหล่านี้มาเข้าทางเดินหายใจ เข้าหู เข้าตา วันแล้ววันเล่า จะเป็นฉันใด
มัจจุราชตัวที่สาม คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในพรม เพราะเมืองไทยของเรานี้เป็นเมืองร้อน เมืองแล้ง มากไปด้วยฝุ่นละออง และเศษผงต่างๆ เมื่อตกหล่นลงไปอยู่ในพรมนานวันเข้าก็เอาไม่ออก ซักก็ไม่ออก กวาดก็ไม่ออก จนมีกลิ่นบางอย่างเกิดขึ้นแล้วเกิดเป็นเชื้ออะไรต่อมิอะไรมากมายหลายชนิด ดังที่ภริยามหาเศรษฐีนายธนาคารคนหนึ่งตายไปโดยไม่รู้สาเหตุ ต่อภายหลังจึงรู้ว่ามีเชื้อแบคทีเรียอยู่ในพรมก็สายไปแล้ว
มัจจุราชตัวที่สี่ คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในวอลเปเปอร์หรือม่าน ซึ่งเป็นค่านิยมใหม่ในการตกแต่งบ้านเรือนและห้องนอน ยิ่งสวยงามวิลิศมาหราเท่าใดก็ยิ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราสารพัด
เพราะบ้านเมืองของเรานี้ไม่เพียงแต่ร้อน แล้ง แต่เป็นประเทศที่มีฤดูฝนอยู่หลายเดือน ละอองน้ำและละอองฝุ่นที่เล็กละเอียดยิบปลิวไปติดกับม่านและวอลเปเปอร์ก็จะเกิดเป็นราขึ้นหมักหมมเกาะเกรอะกรัง และส่งกลิ่นให้ปรากฏ แต่เพราะนอนอยู่ด้วยกันทุกวันจึงคุ้นเคย ไม่ได้กลิ่นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา มารู้ตัวอีกทีปอดก็เป็นมะเร็งไปแล้ว
มัจจุราชตัวที่ห้า คือมัจจุราชที่แฝงตัวอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเกิดแต่ค่านิยมใหม่เช่นเดียวกัน นั่นคือการปูพื้นกระเบื้องในห้องน้ำ ซึ่งดูสวยงามจนกระทั่งน่านั่งอ่านหนังสือหรือน่านอน และมีจำนวนมากที่ทำอ่างอาบน้ำเป็นอ่างอย่างดี ทั้งที่ความจริงแล้วสัปดาห์หนึ่ง เดือนหนึ่งแทบไม่ได้นอนในอ่างอาบน้ำนั้นเลยเพราะเวลาไม่พอ ลางทีต้องไปยืนอาบน้ำในอ่างอาบน้ำ ซึ่งไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
พื้นและอ่างอาบน้ำเหล่านั้นครั้นเปียกน้ำเข้าก็เกิดความลื่น ทำให้ร่างกายเสียความทรงตัว และถลาล้มได้โดยง่าย หลายรายลื่นล้มจนแขนหัก ขาหัก บางคนก็ล้มหัวฟาดพื้นตายคาที่ไปก็มี ไปตายที่โรงพยาบาลก็มี พิการไปก็มาก
ดูไปให้ดีเถิด มัจจุราชห้าตัวนี้มีอยู่ในห้องนอนของใครบ้าง?
โรคภัยหลายชนิดที่บังเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร มีอาการเป็นไปต่างๆ ที่ทำให้กายนี้ไม่ปกติ บางทีก็ไม่รู้สึกตัว จนเกิดการสั่งสมของโรคและพิษมากเข้าๆ ในที่สุดเมื่อถึงวันหนึ่งก็กำเริบ แล้วชีวิตก็ลับล่วงไป
แต่สภาพเช่นนี้มักจะไม่เกิดขึ้นกับคนยากคนจนที่ไม่สามารถจัดแจงตกแต่งห้องนอนให้มีความพร้อมในลักษณะดังกล่าวได้ มัจจุราชทั้งห้าตัวนี้จึงไม่ใช่มัจจุราชของคนจน แต่เป็นมัจจุราชของคนชั้นกลางและคนมีฐานะดี ยิ่งมีฐานะดีมากก็ยิ่งใกล้ชิดกับมัจจุราชทั้งห้าตัวนี้มาก
เพราะเหตุนี้อาการป่วยไข้แปลกๆ หรือประหลาดๆ ที่บังเกิดแก่คนชั้นกลางหรือคนมีฐานะอันดี โดยที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แม้กระทั่งได้รักษาพยาบาลกับแพทย์ชั้นดี โรงพยาบาลชั้นเลิศก็ไม่หาย จนกระทั่งตายไปดื้อๆ ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วสาเหตุหรือมัจจุราชที่คร่าเอาชีวิตไปนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นไกลที่ไหนเลย แต่เป็นมัจจุราชที่อยู่ในห้องนอนของตนเองแท้ๆ
เพราะความที่เป็นมัจจุราชซึ่งแฝงตัวอยู่ในห้องนอน จึงมีความใกล้ชิดกันมากเป็นพิเศษ ความใกล้ชิดทำให้เกิดความคุ้นเคยและไว้วางใจกัน ไม่ระแวงระวังว่าจะมาคร่าเอาชีวิตไปได้
ดังนั้นแม้จะมีเสียงให้ได้ยินกุกๆ กักๆ ในเวลากลางคืน ก็คิดเสียว่าหูฝาดไป ทั้งๆ ที่นั่นคือหนูคาบอาหารมากินแล้วทิ้งซากไว้ หรือไม่ก็งูกำลังกินหนู แล้วทิ้งซากเน่าจนกระทั่งแห้งเหลือแต่กระดูก
เห็นสีของสภาพแวดล้อมผิดปกติไปบ้างก็คิดเสียว่าเป็นเรื่องความเก่า ความซีดจาง หรือความเปรอะเปื้อนตามธรรมดาธรรมชาติ ทั้งๆ ที่นั่นคือการแฝงตัวของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอาจจะมีเชื้ออะไรที่ไม่รู้จักที่อาจคร่าชีวิตเร็วช้าแฝงตัวอยู่ก็ได้
ได้กลิ่นที่ผิดปกติไม่ว่ากลิ่นอับ กลิ่นสาบ กลิ่นสาง หรือกลิ่นเหม็นบางๆ หรือหอมฉุนๆ ก็คิดเสียว่าเป็นกลิ่นเสื้อ กลิ่นผ้า กลิ่นที่นอน หรือความเก่าของอุปกรณ์เครื่องใช้ โดยไม่เฉลียวใจว่านั่นเป็นกลิ่นของเชื้อรา ของฝุ่นสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรีย หรือมูลของปลวก หรืออะไรต่อมิอะไรที่ไม่รู้จัก ซึ่งอาจคร่าชีวิตได้ทุกเมื่อ
ลื่นถลาลงในห้องน้ำ พอทรงตัวได้ก็คิดเสียว่าเผลอไผลหรือประมาทไป โดยไม่สังวรว่านั่นคือการเตือนภัยอย่างเบาะๆ ของมัจจุราชในห้องน้ำ
เมื่อวางใจเพราะความใกล้ชิดฉะนี้แล้วก็ไม่เฉลียวใจว่ามัจจุราชกำลังจะคร่าเอาชีวิตตน ยังคงหลับนอนอยู่เป็นปกติ แม้เกิดอาการผิดปกติขึ้นแล้วก็ยังคิดเสียอีกว่าเป็นการป่วยเจ็บธรรมดา ประเดี๋ยวประด๋าวก็หาย
หาได้สังวรไม่ว่าคนเราในยามตื่นกับยามหลับนั้นต่างกัน เพราะเวลานอนหลับน้ำตาลในเลือดจะต่ำลง การทำงานของร่างกายอยู่ในระบบ stand by หรือระบบสำรองทั้งนั้น ความต้านทานในร่างกายจึงอ่อนลง ไม่สามารถต้านทานรับมือกับเงื้อมมือของมัจจุราชที่ฉุดกระชากเอาชีวิตอยู่ทุกวี่วันได้
ในที่สุดก็ตายไปโดยไม่รู้ว่าตายเพราะอะไร หรือเจ็บพิการก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เหตุนี้จึงควรที่ผองเราจะได้สำรวจตรวจสอบขับไล่มัจจุราชในห้องนอนออกไปเสียให้ทันท่วงทีเถิด.