รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้การชักใยของนักโทษหนีคุก ดูคึกคักทีเดียว เมื่อมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกันหลายคน
ก็ต้องยอมรับว่า เป็นการชิงพื้นที่สื่ออย่างได้ผล เพราะขนาดหนังสือพิมพ์ที่อวดอ้างว่า “มีคุณภาพ” ถึงกลับเอาไปขึ้นพาดหัวไม้เป็นข่าวลีด 1 ตั้งหลายครั้ง
แม้ว่านักวิเคราะห์หลายๆ คน อาจจะไม่ให้ราคา กับสมาชิกพรรคหน้าใหม่เหล่านี้มากนัก แต่การที่สื่อกระแสหลักยังคงตกเป็นเครื่องมือของ “แก๊งตกทอง” กลุ่มนี้ ก็ทำให้ภาพของพรรคเพื่อไทยดูดีขึ้นมาทันที เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคร่วมรัฐบาลที่กำลังแย่งชิงผลประโยชน์ในโครงการต่างๆ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็กำลังขัดแย้งกันเองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องกันหลายวันว่า มีคนโน้นนี้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยังสามารถทำให้สาธารณชนจำนวนหนึ่งลืมไปว่า กลุ่มนักเลือกตั้งกลุ่มนี้เคยทำผิดรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของบ้านเมือง จนถูกยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมองกันให้ลึกลงไป กลุ่มคนที่ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทยในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ทุกคนล้วนแล้วแต่เคยสัมพันธ์และเอื้อประโยชน์กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาแล้วทั้งสิ้น
ไล่กันมาตั้งแต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ,สมบัติ เมทะนี อดีตพระเอกที่เคยร่วมก๊วนการเมืองกับ เสนาะ เทียนทอง, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รอง ผบ.รมน.ที่ย้ายข้างหลังจากไปได้รองเท้ากอล์ฟ 1 คู่ มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงอดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ที่เคยค้ำบัลลังก์ให้ทักษิณ ชินวัตรมาก่อน
กล่าวสำหรับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นั้นลึกซึ้งกับ ทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่ครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปี2540 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรองนายกฯ ว่ากันว่า การประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ของรัฐบาลขณะนั้น ทำให้ “ทักษิณ” ได้ผลประโยชน์ส่วนตัวจำนวนมหาศาล และนำไปสู่การยุบพรรคความหวังใหม่รวมกับพรรคไทยรักไทยในเวลาต่อมา
ล่าสุด เมื่อปีที่แล้ว พล.อ.ชวลิต ก็ยังมีตำแหน่งเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หุ่นเชิดของทักษิณ ก่อนที่จะลาออกกระทันหัน หลังเกิดกรณีเจ้าหน้าที่สังหารโหดประชาชนในวันที่ 7 ตุลาฯ และ พล.อ.ชวลิตต้องถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในที่สุด
เมื่อไล่เรียง ความสัมพันธ์และการเอื้อประโยชน์ต่อกันระหว่าง พล.อ.ชวลิต และ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีมายาวนานแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเสีย 2 คนนี้คงทิ้งกันไม่ได้ ราวผีแห้งกับโลงผุ
ทักษิณ ชินวัตรนั้น นับตั้งแต่เดินทางออกนอกประเทศ เมื่อกลางปี 2551 เพื่อหลบหนีคำพิพากษาในคดีทุจริตที่ดินรัชดา ซึ่งศาลสั่งลงโทษจำคุก 2 ปีแล้ว ถือว่าเดินเกมพลาดมาตลอด
มีน้องเขยเป็นนายกฯ ยังไม่ได้ทันได้ใช้งาน ก็มีอันต้องหลุดจากตำแหน่งเพราะพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด กลุ่ม “เนวิน ชิดชอบ”อดีตลูกน้องสุดรัก เล่นบทงูเห่า แยกตัวออกไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาล
หลังจากนั้น พยายามเดินเกมเพื่อชิงอำนาจรัฐกลับคืนโดยเร็วที่สุด เพื่อลบล้างความผิดตัวเอง และเอาเงินที่ถูกอายัด 7.6 หมื่นล้านกลับคืน แต่ก็พลาดหมด
ม็อบเสื้อแดงถูกสลายลงในช่วงสงกรานต์ พร้อมภาพลักษณ์ที่ติดลบสุดๆ จากพฤติกรรมป่าเถื่อนรุนแรง
พยายามกลับมาใหม่ ด้วยการล่าชื่อประชาชนขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ “มุกแป๊ก”อีก เพราะความไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมของวิธีการถวายฎีกา
การเข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแนวทางของคณะกรรมการสมานฉันท์ ก็สูญเปล่า เพราะข้อสรุปทั้ง 6 ข้อที่ออกมา ไม่มีข้อไหนที่ทักษิณได้ประโยชน์เลย
ทักษิณจึงปรับเกมใหม่ โดยมองไปที่การกลับเข้าสู่อำนาจรัฐด้วยวิธีการเลือกตั้ง ที่เขามีความถนัด แต่จะไปถึงขั้นนั้น ต้องล้มรัฐบาลปัจจุบันให้ได้ก่อน และต้องล้มด้วยวิธีการที่แยบยลกว่าเดิม จะไปจัดม็อบไล่จับนายกฯ หรือเผาบ้านเผาเมืองอย่างที่ทำในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คงไม่ได้แล้ว
การชู พล.อ.ชวลิตขึ้นมาคือหนึ่งในแผนการแยบยลอันนั้น
เริ่มด้วยการใช้ พล.อ.ชวลิต สร้างราคาให้พรรคเพื่อไทย โดยการตีข่าวทั้งก่อนวันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค วันที่สมัคร และหลังวันสมัคร ตามด้วยข่าวรับลูกว่าผู้มีชื่อเสียงคนนั้นบ้างคนนี้บ้างจะมาสมัครเข้าพรรค
ขณะเดียวกัน พล.อ.ชวลิตยังถูกใช้ในการทำลาย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ทักษิณ ชินวัตร ยังมองว่าเป็นอุปสรรคหมายเลข 1
เมื่อ พล.อ.ชวลิตให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทำนองว่า การเข้าพรรคเพื่อไทยทำให้ตนเองถูกกล่าวหาจาก พล.อ.เปรมว่าเป็นคนทรยศชาติ
แม้ พล.อ.เปรมจะชี้แจงผ่านสื่อว่า ตนเองแค่เตือนในฐานะเพื่อนให้คิดให้รอบคอบก่อนเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ได้กล่าวหาว่าเป็นคนทรยศชาติตรงๆ แต่บรรดาลิ่วล้อภายในพรรคเพื่อไทยเกือบจะทุกระดับ รวมไปถึงหัวโจกอย่างทักษิณ ชินวัตร ก็นำไปขยายผล กล่าวหา พล.อ.เปรมว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง
มีการไปแจ้งความดำเนินคดี พล.อ.เปรม ในข้อหาใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย,ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะตั้งกระทู้ถามรัฐบาลกรณีนี้
เท่านั้นยังไม่พอ พล.อ.ชวลิต ยังเดินหน้าสร้างแรงกดดันให้รัฐบาล ด้วยการเดินทางไปพบนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และกลับมาพร้อมกับข่าวที่ว่า นายฮุนเซนพร้อมที่จะให้ “นช.ทักษิณ”ลี้ภัยเพราะเห็นใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
นี่เป็นเพียงออร์เดิร์ฟ ที่ พล.อ.ชวลิต นำออกมาเสิร์ฟ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคไม่กี่วันเท่านั้น
อย่าลืมว่า พล.อ.ชวลิตนั้น เชี่ยวชาญเกมใต้ดินอย่างชนิดหาตัวจับยาก จึงเป็นสัญญาณเตือนว่า นับจากนี้ รัฐบาลนายกฯ รูปหล่อ จะเผลอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว