xs
xsm
sm
md
lg

ผวาโจรใต้บึ้มโชว์อาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุเทพ” ไม่ยืนยันข่าวมือบึ้มป่วนกรุง แต่รับกังวลโจรใต้ได้เวลาปล่อยคาร์บอมบ์โชว์ผู้นำอาเซียน ที่ประชุมวานนี้ถกตั้งประชาคมยานยนต์อาเซียน ยันไทยเหมาะเป็นฮับอุตฯยานยนต์ ลางบอกเหตุ!รถประจำตำแหน่ง รมต.เศรษฐกิจ สปป.ลาว พลิกคว่ำ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึง กรณี ที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ระบุว่า จะมีการลอบวางระเบิดในเขตพื้นที่รอบนอกเขตการประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯในกทม. ว่า ในฐานะที่ตนดูแลความมั่นคงอยู่ จะพยายามระมัดระวังตรวจตราเรื่องเหล่านี้ตลอดเวลา เพราะสิ่งเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์สัปดาห์นี้ ซึ่งมีผู้นำต่างๆ เดินทางมาประเทศไทยมากมาย ยิ่งต้องเข้มงวดกวดขันกันเป็นพิเศษ

เมื่อถามว่า นายปณิธานบอกว่าจะมีคาร์บอมบ์ ในทางการข่าวมีข้อมูลอย่างไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปถามนายปณิธาน ตนไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่าแสดงว่างานด้านความมั่นคงปฏิเสธว่าไม่มีข่าวนี้ นายสุเทพกล่าวว่า ในส่วนของความมั่นคงเราได้กวดขันให้มีการระมัดระวังตรวจตราเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเราก็มีความกังวลอยู่เหมือนกันว่าอาจจะมีคนฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง แต่ถ้าจะบอกว่าเกิดเมื่อใด คนนั้นคนนี้ทำ หรือจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ยังไม่ชัดเจน เมื่อถามว่าในส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็วิตกเหมือนกันเพราะเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามจะก่อเหตุ เพื่อยกระดับโชว์ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นายสุเทพกล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องที่เราได้ข่าวมาจริงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็พยายามกวดขันกันอยู่ สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นความชัดเจนเรื่องการข่าวยังไม่มี แต่ความกังวลมี ก็ต้องขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกรุณาเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันจะไม่เข้าไปป่วนประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แต่นายปณิธานระบุว่ามีสัญญาณว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปใน พื้นที่แล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ เป็นเรื่องหลายกระแสอยู่ เท่าที่ตนได้ข้อมูลมา กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา เขาเสียหายในสายตาของประเทศต่างๆ เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะไปก่อความวุ่นวายที่อำเภอชะอำ-หัวหินคราวนี้อีกก็จะถูกตำหนิไปทั่วโลก จึงพยายามมีหนังสือชี้แจงไปยังประเทศต่างๆ และสถานทูตต่าง ๆ ว่าเขาจะไม่ไปวุ่นวายที่ประชุมอาเซียน

สำหรับการถอนประกันตัวนายอริสมันต์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า พยายามไป ตรวจสอบอยู่ เข้าใจว่าเวลาการประกันตัวหมดไปแล้ว เพราะเป็นเวลาที่ต่อเนื่องกันพอดีกับเวลาที่จะต้องส่งฟ้องตามกระบวนการยุติธรรม อาจจะพ้นอำนาจควบคุม ของตำรวจตามกฎหมายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเราประกาศพื้นที่ความมั่นคงฯ นายอริสมันต์ก็เข้าไปก่อกวนที่นั่นไม่ได้ เข้าไปเราก็จับ และถ้าเข้าไปทำให้เกิดปัญหาเราก็จับกุมดำเนินคดี

เมื่อถามว่า มีแผนรองรับอย่างไร เพราะมีการเตรียมโดยให้นายอริสมันต์เป็นกำลังหลัก พร้อมระดมคนจากพื้นที่ใกล้เคียงไปร่วมยื่นหนังสือ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็พยายามติดตามอยู่ตลอดเวลา ยืนยันว่านายอริสมันต์ เข้าไปถึงพื้นที่ประกาศความมั่นคงเราก็จับทันที เตือนนายอริสมันต์เอาไว้เลย ถ้าไปเราก็จับดำเนินคดี เมื่อตนเสร็จประชุม 2-3 เรื่องในวันนี้ (22 ต.ค.) แล้ว ก็จะเดินทางไปอยู่ที่ อ.ชะอำ และ อ.หัวหินเลย

**ทหาร-ตำรวจพร้อมรับเต็มอัตรา

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำมาตรการด้านการข่าวอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ และจากการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติของหน่วยต่างๆ มีความพร้อมทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ และยังไม่พบมีข่าว การกระทำที่จะกระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ อ.หัวหิน และชะอำ

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ในฐานะรองเสนาธิการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย (ศอร.รปภ.) กล่าวยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง พากลุ่มคนเสื้อแดง เข้าไปยื่นหนังสือกับผู้นำประเทศอาเซียน ภายในโรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปาได้ ถึงแม้ว่าอัยการจะสั่งคดี 14 แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่บุกรุกทำเนียบรัฐบาลในช่วงสงกรานต์ ที่มีนายอริสมันต์ รวมอยู่ด้วยไม่ทัน เพราะยังพิจารณาสำนวนไม่เสร็จสิ้น ซึ่งการสั่งคดีไม่ทันของอัยการ ทำให้พนักงานสอบสวน ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหา ทั้ง 14 คนไป และเงื่อนไขที่ศาลอาญา สั่งห้ามผู้ต้องหาทั้งหมดชุมนุมเคลื่อน ไหว จึงยุติลงไปด้วยนั้น

จากการตรวจสอบพื้นที่ ชะอำ และ หัวหิน ยังไม่พบตัว นายอริสมันต์ แต่อย่างใด แต่หากพบเมื่อใด ก็มีความจำเป็นต้องเชิญออกจากพื้นที่โดยทันที โดยจะไม่อนุญาตให้เข้าใกล้พื้นที่โดยเด็ดขาด แม้กระทั่งหน้าโรงแรม ก็ไม่สามารถเข้าได้”

ด้านการข่าวของตำรวจสันติบาล แจ้งว่า นายอริสมันต์ ยังเก็บตัวอยู่ในกรุงเทพฯ จากการติดต่อไปยังผู้ใกล้ชิด ยืนยันว่า นายอริสมันต์ จะไม่เดินทาง ไปยื่นหนังสือป่วนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างแน่นอน ซึ่งทางตำรวจ ได้มีการทำความเข้าใจอธิบายข้อดี ข้อเสียให้ทราบ แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อบ้านเมือง รวมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มต่างๆ ที่จะเดินทางไปชุมนุมประท้วง หรือยื่นหนังสือด้วยเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ทหารเรือจากสัตหีบ ได้นำเรือรบเข้าคุมน่านน้ำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว โดยจอดห่างจากชายฝั่ง ประมาณ 1-3 ก.ม. นอกจากนี้ยัง มีเรือลำเลียงพล 1 ลำ เรือดับเพลิง 1 ลำ เรือตรวจการขนาดกลาง 4 ลำ เรือตรวจการขนาดเล็ก 6 ลำ และเรือยางจำนวนมาก ที่ได้จอดสแตนด์บายที่สะพานปลา หัวหิน ส่วนกำลังพลของนาวิกโยธิน ได้เตรียมพร้อมอยู่ใน ศูนย์อุทกศาสตร์ทหารเรือ อ.หัวหิน ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลาทั้ง 24 ช.ม. หากได้รับคำสั่งจากศูนย์รักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียนซัมมิทในครั้งนี้

**ลางบอกเหตุ! รถเก๋งอาเซียนคว่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (22 ต.ค.) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์โตโยต้า แคมรี ระบุทะเบียน Laos 4 (ลาว 4) ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ สปป.ลาว พลิกคว่ำ เนื่องจากรถตู้ ของสถาบันราชภัฏสวนดุสิตที่กลับรถได้ ตัดหน้ากระทันหันอยู่บนอาเซียนเลน ตรงจุดยูเทิร์นรถใกล้กับโรงแรมดุสิตธานี โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนเส้นทางพิเศษสำหรับเดินทางของคณะเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ห้ามไม่ให้รถใดๆ สัญจรในเส้นทางดังกล่าว ยกเว้น รถของคณะทางการเท่านั้น

จากการตรวจสอบ ทราบว่า จ.ส.อ.ขัตติยา ขัตติมาส เจ้าหน้าที่ขับรถนำขบวนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลาว ขับรถในเส้นทาง อาเซียนเลน เส้นทางชะอำ-หัวหิน เพื่อที่จะไปเติมน้ำมัน ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุได้มีรถตู้จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ขับเข้ามาในอาเซียนเลน บริเวณจุดตัดแยก หน้าหมู่บ้านปาล์มวิว หัวหิน ทำให้ จ.ส.อ.ขัตติยา ขับหลบจนรถพลิกคว่ำข้ามเลน ส่งผลให้สภาพรถเสียหาย โดยกระจกหลังแตกหมดทั้งบาน ขณะที่ จ.ส.อ.ขัตติยา บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

พล.ต.ต.สุชีพ หนูนาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่าเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประชาสัมพันธ์ให้มากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ประชาชน หรือ แม้แต่สื่อมวลชนเข้าไปใช้อาเซียนเลนโดยเด็ดขาด

**อาเซียน ศก.ถกภาษีนำเข้าข้าว

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมเตรียมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในวันนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม เพื่อปรับปรุงรายระเอียดเนื้อหา ที่จะใช้หารือในระดับผู้นำด้านเศรษฐกิจให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน โดยเฉพาะ การปรับลดอัตราภาษีสินค้าเกษตรภาคใต้เขตการค้าเสรีเขตอาเซียน หรือ อาฟต้า ซึ่งติดปัญหาที่ประเทศฟิลิปปินส์ ยังไม่สามารถปรับลดอัตราภาษีนำเข้าข้าว ซึ่งเป็นสินค้าอ่อนไหวเป็นพิเศษได้ในระดับเดียวกันกับประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ที่มีอัตราภาษีนำเข้า ร้อยละ 20-25 ภายในปี 2558 โดย ฟิลิปปินส์ ยังคงคิดอัตราภาษีอยู่ที่ ร้อยละ 35

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปความคืบหน้า ของการก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ภายในปี 2558 ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการลุล่วงไปแล้ว ร้อยละ 70 รวมทั้งความตกลงอาฟต้า ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2553

ทั้งนี้ การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 2 (2nd ASEAN Economic Community Council: AEC) เป็นเวทีหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาค และการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกและประเทศคู่เจรจา เช่น ความตกลงการค้าระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ทั้งนี้ คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักของอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 2 จะระดมความคิดระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนของอาเซียนทุกประเทศ เพื่อหาแนวทางยกระดับขีดความสามารถทางด้านเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น เนื่องจาก หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นแล้วเศรษฐกิจของอาเซียนมีการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และนี้คือ โอกาสในการช่วงชิงจากประเทศอื่นได้ด้วย

**ไทยยังเป็นฮับอุตฯ ยานยนต์

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เปิดเผยผลการหารือระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 2 (2nd ASEAN Economic Community Council: AEC) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันที่จะเปิดโอกาสให้สหพันธ์ยานยนต์อาเซียน สามารถนำข้อเสนอของภาคเอกชน มาหารือในเวทีอาเซียนได้ โดยเฉพาะประเด็นการขนส่งสินค้า รวมถึงปัญหาการส่งออกในอาเซียนที่จำเป็นต้องประสานงานด้านลอจิสติกส์ในอาเซียนให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ในที่ประชุมกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้รายงานถึงกำลังการผลิตและยอดขายรถยนต์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ถึงแม้ว่าอัตราการผลิตจะยังไม่สามารถขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจก็ตาม และเชื่อว่าประเทศไทยังเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียนเช่นเดิม

**ตั้งประชาคมยานยนต์อาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.กระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการหารือระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือ การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 2 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบความตกลงร่วมกันในการจัดตั้งประชาคมยานยนต์อาเซียน พร้อมกับรับข้อเสนอภาคเอกชนเรื่อง การเร่งรัดลดภาษีภายใต้ AFTA พัฒนาบริษัทร่วมทุนในอาเซียน การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และ เร่งรัดการอำนวยความสะดวกด้วยอิเล็คทรอนิคส์ ณ จุดเดียว หรือ ASEAN Single Window

“ สหพันธ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ประเมินว่า ขณะนี้สถานการณ์การผลิตยานยนต์ในอาเซียนดีขึ้น โดยมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ เป็นตัวเลขที่ดีขึ้นแบบเดือนต่อเดือน ทั้งสถานการณ์ยานยนตร์ยอดขายของอาเซียน 6 ประเทศ และ เวียดนาม คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านคัน ซึ่งลดลงจากปีก่อน 21% ในขณะที่ยอดการผลิต 1.21 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อน 32.5% แต่ในส่วนของประเทศไทยยอดขายลดลง 33.1%”

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมจะเร่งรัดดำเนินการลดภาษีภายใต้อาฟต้าให้สมบูรณ์โดยเร็ว ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนบางข้อ เช่น การลดภาษีชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้โครงการ AICO ที่จะสิ้นสุดในปี 2555 การปรับมาตรฐานต่างๆเพื่อนำไปสู่ฐานการผลิตเดียวของอาเซียน

รมช.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าทางประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Thailand Auto Part Accessories 2010 ครั้งที่ 4 ในวันที่ 28 เม.ย. – 2 พ.ค. 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยได้เชิญชวนให้กลุ่มบริษัทยานยนต์ในอาเซียน กว่า 300 บริษัท เข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นบนพื้นที่จัดงาน 450 ตร.กม. สาเหตุที่จัดงานนี้เพราะเล็งเห็นว่าประเทศไทย มาเลเซีย และ อินโดนิเซีย ซึ่งเป็นฐานด้านการผลิต และ ตลาดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

**เมนูเด็ด ”ต้มยำกุ้ง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ทางโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ได้จัดแสดงรายการอาหารที่จะให้บริการบนโต๊ะอาหารของผู้นำอาเซียน โดยเน้นอาหารไทยเป็นหลัก และเป็นอาหารฮาลานทั้งหมด จะไม่มีหมู เนื่องจากมีผู้นำจากประเทศมุสลิมหลายประเทศมาด้วย อาทิ อาหารว่างประกอบด้วย ขนมจีบไทย ยำส้มโอ ถุงเงินยวง ส่วนอาหารหลักประกอบด้วย ต้มยำกุ้ง ต้มขาไก่ในลูกมะพร้าวอ่อน แผนงเนื้อ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและข้าวก้อง ปลาหิมะผิดเม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ ห่อหมก

ขณะที่ของหวานคือรวมมิตรใส่ไว้ใน ผลแคนตาลูปแกะสลัก ส่วนขนมที่ไว้รับทานกับชา กาแฟ จัดเป็นขนมกลีบลำดวน จัดวางไว้ที่ผลฟักทองแกะสลัก ทั้งนี้แต่ละมือจะมีการเสิร์ฟคละกันไป อย่างไรก็ตามได้มีการสอบถามผู้นำแต่ละประเทศไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ทาน หรือไม่ทาน หรือแพ้อาหารประเภทไหน โดยแต่ละมื้อตกหัวละ 2,000 บาท จำนวน 20 มื้อ ที่โรงแรมดุสิตธานี รวมทั้งอาหารที่จัดแยกในงานกาลาดินเนอร์ด้วย และอาหารในโปรแกรมคู่สมรส.
กำลังโหลดความคิดเห็น